ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 12 เม.ย.ว่า รัฐบาลไต้หวันออกคำสั่งห้ามรับประทานสุนัขและแมว ซึ่งตั้งเป้าว่าจะเป็นการพัฒนาสวัสดิการของสัตว์หลังจากมีเหตุการณ์ทารุณกรรมเกิดขึ้นก่อนหน้านี้และส่งผลให้สังคมเกิดความโกรธแค้น
ทางรัฐสภาของไต้หวันผ่านกฎหมายห้ามซื้อขายหรือครอบครองเนื้อแมวและสุนัข ซึ่งหากละเมิดจะถูกปรับจำนวน 250,000 ดอลลาร์ไต้หวัน หรือประมาณ 282,000 บาท
“การเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าสังคมไต้หวันก้าวหน้ากับเรื่องสวัสดิภาพสัตว์” นางหวัง หยู่ หมินสมาชิกผู้แทนราษฎรกล่าว
นอกจากนี้การผ่านกฎหมายครั้งนี้ยังเพิ่มโทษและค่าปรับให้กับผู้ที่ทำร้าย ทารุณ และฆ่าสุนัขหรือแมว ให้มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี และปรับ 2 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน หรือ ราวๆ 2.2 ล้านบาท
ทั้งนี้การรับประทานเนื้อสุนัข ในไต้หวันเชื่อกันว่าจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพทางเพศชาย และการรับประทานเนื้อสุนัขนับว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ภายหลังความนิยมในเรื่องการบริโภคเนื้อสุนัขลดลงและมีการเรียกร้องให้ปกป้องสิทธิสัตว์
ในปี 2544 ไต้หวันได้แก้กฎหมายการพิทักษ์สัตว์และสั่งห้ามการชำแหละสัตว์เลี้ยง ซึ่งรวมไปถึงสุนัขและแมวเพื่อเป็นอาหาร แต่ยังไม่มีการกำหนดโทษสำหรับการกินหรือซื้อเนื้อสัตว์เลี้ยง จนกระทั่งสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดในปี 2547
กระแสสังคมของชาวไต้หวันที่แสดงความโกรธแค้นในเรื่องสัตว์เกิดขึ้นหลัง ปีที่ผ่านทางกองทัพต้องออกมาขอโทษต่อสาธารณะหลัง มีทหารสามนายทรมานและรัดคอสุนัขจรจัดตัวหนึ่งด้วยโซ่ จนทำให้เกิดการประท้วงตามท้องถนน
รวมไปถึงกรณีที่เกิดขึ้นในปี 2557 ของฮิปโปเพศผู้ที่จัดแสดงในสวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่ง ขาหักและบาดเจ็บ ระหว่างการขนส่งจนทำให้เสียชีวิต ส่งผลให้เกิดกระแสไม่พอใจท่ามกลางสาธารณะ