ต้นก.ย.ข้าวราคาร่วงอีก-หวั่นสิ้นปียิ่งสาหัส

นางจินตนา ชัยยวรรณาการ ผู้ช่วยรมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังการประชุมผู้ประกอบการโรงสีข้าว เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการประชุมคณะอนุกรรมการวางแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ว่า เกษตรฯ กังวลต้นฤดูการเก็บเกี่ยวข้าวพ.ย.-ธ.ค.นี้ ราคาข้าวตกต่ำจะตกต่ำ เนื่องจากปริมาณข้าวทั้งภาคอีสานและกลางจะออกสู่ตลาดพร้อมกัน จะเกิดปัญหากระจุกตัวเสี่ยงต่อการกดราคาของโรงสีได้

เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้น กระทรวงเกษตรฯ เห็นว่าควรจะตั้งราคารับซื้อเอาไว้ล่วงหน้า โดยคำนวณจากราคาส่งออกแล้วทอนมาเป็นราคาที่เกษตรกรควรได้รับ ในการหารือได้ตั้งสมมติฐานราคาส่งออกข้าวขาว 5% ไว้ที่ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน จึงให้ทางสมาคมโรงสี กลับไปพิจารณาเพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะอนุกรรมการวางแผนผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรที่มีพล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรฯ เป็นประธาน ในวันที่ 7 ก.ย. นี้

“ตามแผนข้าวครบวงจรในปีนี้กำหนดให้การส่งออกได้ไม่เกิน 10 ล้านตันข้าวสาร จากผลผลิตที่คาดว่าจะออกสู่ตลาดรวม 27 ล้านตัน ส่วนใหญ่เป็นข้าวคุณภาพดีเป็นผลมาจากการส่งเสริมตามโครงการแปลงใหญ่และประชารัฐ ดังนั้นจึงควรได้รับราคาที่เป็นธรรม” นางจินตนากล่าว

ด้านนายเกรียงศักดิ์ ตาปนานนท์ เลขาธิการสมาคมโรงสีข้าวไทย กล่าวว่า ในที่ประชุมกระทรวงเกษตรฯ ขอความร่วมมือให้โรงสีรับซื้อข้าวจากเกษตรกรสูงกว่าราคาตลาดตันละ 200-300 บาท ซึ่งทางโรงสีจะหารืออีกครั้ง ที่สำคัญคือเมื่อโรงสีร่วมมือรับซื้อในตลาดที่สูงแล้ว ข้าวดังกล่าวต้องมีผู้ส่งอออกรับซื้อต่อด้วย อย่างไรก็ตาม ราคาข้าวควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกการตลาด ไม่สมควรกำหนดเอาไว้ล่วงหน้า ผมยังไม่สามารถเดาแนวโน้มราคาข้าวที่จะออกสู่ตลาดในอีก 2 เดือนข้างหน้าได้ แต่คาดว่าแนวโน้มจะปรับตัวลดลง จากผลผลิตที่ออกสู่ตลาดสูงขึ้น

นายเกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่าปัจจุบันเป็นช่วงการเพาะปลูก ปกติราคาข้าวจะปรับตัวสูงขึ้นเพราะข้าวในมือเกษตรกรมีน้อย แต่ในปีนี้พบว่าราคาข้าวได้ปรับลดลงข้าวขาวเหลือราคาก.ก.ละ 12 บาท จากต้นฤดูการเก็บเกี่ยว 14 บาท ข้าวหอมมะลิ เหลือก.ก.ละราคา 21 บาท จาก 28 บาท และข้าวเหนียวก.ก.ละ 26 บาท จาก 30 บาท