เศรษฐกิจ “บินไทย”ทำโค้ดแชร์ร่วม“บางกอกแอร์เวย์ส”หวังสร้างรายได้เพิ่ม20–30%

นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยและบางกอกแอร์เวย์สมีความร่วมมือกันมาอย่างต่อเนื่องในลักษณะของการขายเที่ยวบินเชื่อมต่อ (Interline Agreement) เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารให้สามารถซื้อบัตรโดยสารและเดินทางในเส้นทางบินที่เชื่อมต่อระหว่างกันได้โดยที่ผ่านมาพบว่าได้รับการตอบรับดีจากผู้โดยสาร การบินไทยจึงพัฒนาความร่วมมือดังกล่าวในรูปแบบเที่ยวบินร่วม (โค้ดแชร์) เพื่อขยายช่องทางขายและอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารมากขึ้น

“การพัฒนาความร่วมมือในลักษณะของโค้ดแชร์นั้นทำให้ผู้โดยสารที่จะจองการเดินทางจากทั้งการบินไทย และบางกอกแอร์เวย์สสามารถเห็นเส้นทางบินที่เราดำเนินการโค้ดแชร์กันได้ทันที ซึ่งจะทำให้ในแง่ของการเดินทางผู้โดยสารของทั้งสองสายการบินจะเชื่อมต่อและแลกเปลี่ยนกันได้ โดยการบินไทยคาดว่าความร่วมมือครั้งนี้จะสร้างรายได้จากการทำโค้ดแชร์เพิ่มขึ้น 20-30% ซึ่งเบื้องต้นการบินไทยได้เปิดโค้ดแชร์ในเส้นทางบิน กรุงเทพ – สิงคโปร์ และในอนาคตจะขยายในครอบในทุกเส้นทางบินที่การบินเปิดให้บริการ พร้อมทั้งจะขยายความร่วมมือไปยังสายการบินไทยสมายล์ภายในปีนี้ด้วย”นางอุษณีย์ กล่าว

นายพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวจะจัดทำในลักษณะของการจองบัตรโดยสารร่วมกันได้ในเส้นทางที่ทำข้อตกลงกันไว้ เบื้องต้นของบางกอกแอร์เวย์สมีรวมทั้งสิ้น 14 เส้นทางทั้งในและระหว่างประเทศ ซึ่งในอนาคตจะมีการหารือทำความร่วมมือด้านการตลาดร่วมกัน ส่วนเส้นทางบินใหม่ที่อยู่ในแผนของบางกอกแอร์เวย์สที่เตรียมเปิดบินเพิ่มอีก 3 จุดบินในปีนี้ คือ เชียงใหม่ – พุกาม เชียงใหม่ – เวียงจันทร์ และกรุงเทพฯ – ฟู้โกว๊ก (เวียดนาม) จะมีการหารืออีกครั้งถึงแนวโน้มตลาดก่อนจะพิจารณาทำความร่วมมือ โดยความร่วมมือครั้งนี้คาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้จากการขายบัตรโดยสารผ่านโค้ดแชร์เพิ่มเติมอีก 4 – 5% จากฐานปัจจุบันรายได้ในส่วนดังกล่าวคิดเป็น 20% ของรายได้รวมของสายการบิน ขณะที่เป้าหมายผู้โดยสารว่าการบินไทยจะช่วยส่งต่อผู้โดยสารจากตลาดหลักอย่าง ยุโรป จีน และออสเตรเลียให้กับบาบกอกแอร์เวย์สได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมทั้งเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมธุรกิจในปีนี้ให้มีปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นถึง 12% จากตัวเลข 5.6 ล้านคนในปีก่อน

 

ที่มา มติชนออนไลน์