เผยแพร่ |
---|
TEMU ยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลในไทย เขย่าตลาดวงการอีคอมเมิร์ซ
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2567 นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังประชุมคณะอนุกรรมการส่งเสริมและยกระดับ SME ไทยและแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ครั้งที่ 1
หารือในประเด็นกังวลเรื่องสินค้าไม่มีคุณภาพและมาตรฐานต่ำที่ไหลเข้าประเทศไทย ซึ่งแบ่งออกเป็นกลุ่มสินค้าเกษตร กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรม และแบ่งเป็นแผน 3 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว
โดยระยะสั้นจะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน ส่วนระยะกลางและระยะยาวจะทำการวิเคราะห์ปัญหาและจัดทำแผนงานใหม่ๆ ซึ่งได้ให้แต่ละหน่วยงานไปตรวจสอบและทำแผนงานมาเสนอในการประชุมครั้งต่อไปในวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้
จากนั้นจะสรุปทุกรายละเอียดเสนอที่ประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่ ที่มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน ก่อนเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ขณะที่คณะอนุกรรมการก็จะยังทำหน้าที่เร่งรัดและติดตามต่อเนื่อง โดยจะประชุมทุก 1 เดือน หรือไม่เกิน 3 เดือนครั้ง
นายนภินทร กล่าวว่า ในแนวคิดแก้ไขปัญหาสินค้าที่ไม่มีคุณภาพจากต่างประเทศ ไม่ได้เจาะจงว่าประเทศไทยจะยึดเหมือนกันทุกประเทศ โดยมุ่งไปเรื่องไม่มีสารปลอมปน เพิ่มวิธีการตรวจสอบและนำเข้าอย่างเข้มข้น มีการตรวจเชิงลึกถึงโรงงานในแหล่งผลิตแม้อยู่ในต่างประเทศ จะมีการเพิ่มมาตรการดูแลและตรวจสอบ ปรับระเบียบและกฎหมายที่ล้าสมัยของไทย
สำหรับช่องทางจำหน่ายอย่างแพลตฟอร์มออนไลน์และอีคอมเมิร์ซที่ใช้ภาษาไทยและสกุลเงินไทย ต้องจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมายไทยที่กำหนดอย่าง “เทมู” ได้รับรายงานว่า ได้จัดตั้งเป็นบริษัทนิติบุคคลแล้ว เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งยังต้องยื่นขออนุญาตจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตามกฎหมายประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และขออนุญาตจากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคเรื่องการขายตรง
อีกทั้งกระทรวงดีอีจะประกาศบังคับให้ทุกแพลตฟอร์มที่ดำเนินการในไทยต้องจดทะเบียน ที่จะประกาศในเดือนมกราคม 2568 สำหรับสินค้าอุตสาหกรรม จะใช้มาตรฐานในการกำชับดูแลผ่านเครื่องหมาย มอก. จากรายงานของกระทรวงอุตฯ มอก. มีทั้งภาคบังคับและสมัครใจ ซึ่งมาตรฐาน มอก. มี 144 มาตรฐาน ครอบคลุม 308 สินค้า และกำลังเพิ่มอีก 58 มาตรฐาน ครอบคลุม 91 สินค้า เป็นต้น
ข้อมูลจาก มติชนออนไลน์