หยุดยาวสงกรานต์ คนไทยแห่เที่ยวนอกทุบสถิติ แลกเงินทุกสกุลเกลี้ยงสต๊อก!

ช่วงหยุดยาวสงกรานต์คนไทยแห่เที่ยวต่างประเทศ ร้านแลกเงินยอดทะลัก “ซุปเปอร์ริช” เผยยอดสูงสุดรอบ 5 ปี ทั้ง “ยูโร-เยน-ดอลลาร์สหรัฐ” เพิ่มสูงกว่าช่วงปกติหลายเท่าตัว ต้องสั่งจองล่วงหน้า แจงคนไทยไปนอกเดือน เม.ย.แตะ 1.2 ล้านคน ประเทศยอดนิยม ญี่ปุ่น-เกาหลี-ไต้หวัน


ซุปเปอร์ริชยอดสูงสุดในรอบ 5 ปี

นายปิยะ ตันติเวชยานนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซุปเปอร์ริช อินเตอร์เนชั่นแนลเอ็กซ์เชนจ์ (1965) จำกัด เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า บรรยากาศการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในช่วงสงกรานต์ปีนี้ ถือว่าเป็นปีที่คึกคักมาก โดยมีความต้องการแลกเงินสูงมากตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน จนทำให้ไม่เพียงพอกับความต้องการหมดสต๊อกที่บริษัทเตรียมไว้ในทุกสกุลเงิน โดยยอดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในช่วงเดือนนี้ของบริษัทสูงที่สุดในรอบ 5 ปี เช่น สกุลเงินยูโร ตั้งแต่ต้น เม.ย.เป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันมียอดการแลกเฉลี่ยอยู่ที่ 3 แสนยูโรต่อวัน จากช่วงปกติวันละ 1 แสนยูโร ส่วนเงินเยนช่วงนี้มียอดแลกเปลี่ยนอยู่ที่ 20 ล้านเยนต่อวัน เพิ่มเกือบเท่าตัว หากเทียบกับช่วง เม.ย.ปี 2559 ที่มียอดแลกที่ระดับ 10 ล้านเยนต่อวัน ขณะเดียวกันช่วงเวลาปกติ มียอดแลกเปลี่ยนเงินเยนอยู่เพียง 5-6 ล้านเยน

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพบว่ายอดแลกเงินเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากเช่นกันโดยเพิ่มมาอยู่ที่ 2-3 แสนดอลลาร์ต่อวัน จากช่วงปกติที่มียอดแลกเงินดอลลาร์เพียง 1 แสนดอลลาร์ต่อวัน โดยความต้องการแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ที่เพิ่มขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากเงินในสกุลอื่น ๆ หมดสต๊อกที่บริษัทเตรียมไว้ ทำให้ลูกค้าหันมาแลกดอลลาร์สหรัฐเพื่อนำไปใช้จ่ายในการท่องเที่ยวแทน

“ปีนี้การแลกเปลี่ยนคึกคักมากบางสกุลเงินเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวหากเทียบกับช่วงสงกรานต์ปีก่อนๆ หน้า สกุลเงินที่เคยขายไม่ค่อยออก ไม่ได้รับความนิยม อย่างดอลลาร์สิงคโปร์ ก็กลับมามียอดแลกคึกคักมากขึ้น ซึ่งสะท้อนว่าคนไทยนิยมไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาก หากเทียบกับปีอื่น ๆ ทำให้ตอนนี้สต๊อกเงินที่บริษัทเตรียมไว้ก็ชอร์ต หมดเกลี้ยงทุกสกุลเงิน จากที่ทยอยเข้ามาแลกตั้งแต่ต้น เม.ย.เป็นต้นมา” นายปิยะกล่าวและว่า

ดังนั้นเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการแลกเงินให้เพียงพอ บริษัทจึงต้องรับซื้อสกุลเงินต่างประเทศทุกสกุลสูงกว่าราคาตลาดราว 0.5-1.00% เช่นราคาอัตราแลกเปลี่ยนดอลลาร์สหรัฐในตลาดเงินซื้อขายอยู่ที่ 34.45 บาทต่อดอลลาร์ แต่บริษัทรับซื้อแพงกว่าตลาดโดยเกิน 34.47 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เป็นต้น ขณะเดียวกันจากต้นทุนการซื้อสกุลเงินที่เข้ามาแพงขึ้น ทำให้บริษัทมีการปรับราคาขายอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้นเช่นกันอยู่ที่ราว 7-8 สตางค์ต่อสกุลเงิน

ให้ลูกค้าสั่งจองล่วงหน้า

นางสาวชนาพร พูนทรัพย์หิรัญ ประธานกรรมการกลุ่ม บริษัท ทเวลฟ์ วิคทอรี่ (40) กล่าวในทิศทางเดียวกันว่า สถานการณ์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศในช่วงเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์คึกคักมากกว่าทุกปี เนื่องจากมีคนไทยออกไปเที่ยวต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทำให้ยอดแลกเปลี่ยนเงินหลายสกุลปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30% หากเทียบกับช่วง เม.ย.ปี 2559 แม้เศรษฐกิจไทยยังไม่ได้ฟื้นตัวชัดเจน

โดยสกุลเงินที่ยอดฮิต และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแลกมากที่สุด คือ สกุลเงินเยน ที่มียอดแลกต่อวันอยู่ที่ 20-30 ล้านเยน โดยเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากช่วงเดียวกับปีก่อน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ยูโร และฟรังก์สวิส มียอดแลกเงินใกล้เคียงกันที่ 1-2 แสนดอลลาร์/ฟรังก์สวิส/ยูโรต่อวัน เพิ่มขึ้นกว่า 20% หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน

“ยอดการแลกเปลี่ยนเงินสงกรานต์ปีนี้คึกคักมาก แต่ไม่ถึงกับหมดสต๊อกที่เราเตรียมไว้ เพราะบริษัทมีการวางแผนเพื่อรับเทศกาลนี้ เช่นแจ้งลูกค้าทุกช่องทางว่าให้แจ้งบริษัทไว้เนิ่น ๆ หรือสั่งจองไว้เพื่อให้บริษัทเตรียมเงินไว้ แล้วเข้ามารับวันอื่น ๆ ซึ่งวิธีนี้ ทำให้บริษัทสามารถบริหารสต๊อกได้ค่อนข้างดี และบริษัทยังมีการประสานงานกับสาขาที่อยู่ในจุดที่มี

ยอดแลกไม่สูง ก็จะเอาสต๊อกสาขานั้น ๆ มาหมุนก่อน แต่ก็ยอมรับว่าช่วงที่มียอดแลกเงินสูง ราคารับซื้อหรือขายก็ถูกปรับเพิ่มขึ้นตามดีมานด์ หรือของที่หายากมากขึ้น” นางชนาพรกล่าว

เมษาฯนี้คนไทยเที่ยวนอกเกินล้าน

ด้านนายศุภฤกษ์ ศูรางกูร นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (ทีทีเอเอ) กลุ่มบริษัทนำเที่ยวทัวร์ขาออก หรือเอาต์บาวนด์ กล่าวกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ถึงปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ว่า ในช่วงเดือนเมษายนของทุกปีจะเป็นช่วงที่คนไทยเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศมากที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงที่มีวันหยุดยาวและเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่ บวกกับในต่างประเทศเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ และอากาศหนาว ทำให้ทุกครอบครัววางแผนเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศกันมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์

ทั้งนี้ คาดว่าตลอดทั้งเดือนเมษายนนี้ตัวเลขคนไทยที่เดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศราว 1-1.2 ล้านคน ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเทศยอดนิยมที่คนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีนี้ อันดับ 1 ยังคงเป็นญี่ปุ่น เนื่องจากการท่องเที่ยวของญี่ปุ่น รวมถึงเมืองใหม่ ๆ ในประเทศญี่ปุ่นหันมารุกเจาะคนไทยอย่างหนัก รองลงมาคือ เกาหลี, จีน และไต้หวัน ส่วนประเทศในแถบยุโรปที่ได้รับความนิยมคือ อังกฤษ, ฝรั่งเศส และอิตาลี

สำหรับคนไทยที่เริ่มต้นเดินทางท่องเที่ยว และมีงบประมาณไม่มากก็นิยมเลือกไปประเทศแถบอาเซียนมากขึ้น ทั้ง ลาว, เมียนมา, เวียดนาม, กัมพูชา และสิงคโปร์ เป็นต้น

ก่อนหน้านี้ นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่าปีนี้ ทอท.คาดการณ์ปริมาณการจราจรทางอากาศผ่านสนามบินทั้ง 6 แห่งในสังกัด ระหว่างวันที่ 5-18 เมษายนนี้ว่ามีสายการบินมาใช้บริการ 32,357 เที่ยวบิน เฉลี่ยประมาณ 2,312 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.22% และมีผู้โดยสารมาใช้บริการประมาณ 5.36 ล้านคน เฉลี่ยประมาณ 383,188 คนต่อวัน เพิ่มขึ้น 12.05%

ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์