แจ้งจับกลุ่มชายฉกรรจ์เก็บค่ายกกระเป๋าใบละ 50 บาท ถ้าไม่จ่ายก็ห้ามขึ้นเกาะหลีเป๊ะ

 

เมื่อวันที่ 8 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางตำรวจท่องเที่ยว ส.ทท.5 กก.5 บก.ทท. ได้ทำหนังสือชี้แจงกรณีที่คนเผยแพร่คลิปที่เกิดขึ้นที่เกาะหลี่เป๊ะ จ.สตูล โดยมีกลุ่มคนกลุ่มหนุ่งห้ามไม่ให้ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเอากระเป๋าลงคจากเรือสปีดโบ๊ท ถ้าไม่ยอมจ่ายเงินค่าจอดเรือชายหาดคนละ 50 บาทจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณืกันอย่างกว้างขวางว่าเป็นการขูดรีดนักท่องเที่ยว

โดยในคลิปจะเป็นผู้ชาย 2-3 คนที่ยืนบริเวณชายหาด ขวางทางห้ามไม่ให้นักท่องเที่ยวซึ่งมีทั้งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 30 คนเอากระเป๋าลงจากเรือสปีดโบ๊ท เพราะต้องการให้เจ้าของเรือสปีดโบ๊ทยอมจ่ายค่าดำเนินการยกกระเป๋าของนักท่องเที่ยวคนละ 50 บาท แต่เรือสปีดโบ๊ทไม่ยอมจ่ายเพราะไม่รู้จะจ่ายไปทำไม

บรรดานักท่องเที่ยวพยายามจะเข้าไปเอากระเป๋าเดินทาง แต่ก็โดนขวางไว้ เมื่อขอให้เรือสปีดโบ๊ทไปขึ้นที่หาดอื่นแทน ทางเจ้าของเรือก็บอกว่าขึ้นที่หาดไหนก็ต้องโดนเรียกเงินคนละ 50 บาทเช่นกัน นสุดท้ายนักท่องเที่ยวต้องยอมจ่ายเงินคนละ 50 บาทถึงนำกระเป๋าลงจากเรือเข้าที่พักได้ ซึ่งเรื่องนี้มีการร้องเรียนว่าเป็นการกรรโชกทรัพย์นักท่องเที่ยว

โดยเจ้าหน้าทีตำรวสจท่องเที่ยวชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวต่อผู้บังคับบัญชาว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้เรือทุกลำที่ขนส่งนักท่องเที่ยวจากท่าเรือปากบารา จ.สตุล มาส่งที่เกาะหลี่เป๊ะ จะต้องนำ นักท่องเที่ยวมาส่งที่โป๊ะกลางทะเล ซึ่งโป๊ะดังกล่าวเป็นของอุทยาน เมื่อส่งนักท่องเที่ยวที่โป๊ะกลางทะเลเสร็จแล้วจะมีเรือหางยาวมารับนักท่องเที่ยวไปส่งบนเกาะโดยคิดค่าเรือหางยางหัวละ 50 บาท แต่ต่อมาบริษัทเรือสปีดโบ๊ทได้นำนักท่องเที่ยวจากท่าเรือปากบารามาส่งที่เกาะหบี่เป๊ะเลย โดยไม่ได้ไปส่งที่โป๊ะกลางทะเล และไม่ใช้เรือหางยาว ทำให้ชมรมเรือหางยาวไม่พอใจที่บริษัทเรือสปีดโบ๊ทบางบริษัทไม่ยอมจ่ายค่าหัวนักท่องเที่ยวคนละ 50 บาท ซึ่งบริษัทบางแห่งบอกว่าไม่รู้จะจ่ายไปทำไม เพราะไม่ได้ใช้เรือหางยาวในการรับส่งนักท่องเที่ยวแล้ว

จากคลิปดังกล่าวเจ้าเรือสปีดโบ๊ทชื่อบริษัทหลี่เป๊ะสปีดโบ๊ท จึงได้ไปแจ้งความที่สภ.เกาะหลี่เป๊ะกรณีที่ชมรมเรือหางยาวมาล้อมเรือสปีดโบ๊ทและไม่ยอมให้ เอากระเป๋าของนักท่องเที่ยวลงจากเรือ ส่วนชมรมเรือหางยาวก็ไปร้องศูนย์ดำรงธรรม จว.สตุล ว่าบริษัทหลี่เป๊ะสปีดโบ๊ทไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมที่เคยปฎิบัติ

อย่างไรก็ตาม ผวจ.สตูล ได้มีการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ประกอบด้วยบริษัทเรือสปีดโบ๊ท อำเภอละงู กรมเจ้าท่า ทหาร และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มติในที่ประชุมตกลงกันว่าให้บริษัทเรือสปีดโบ๊ทจ่ายค่าดำเนินการให้กับชมรมเรือหางยาวตามเดิม แต่ให้ลดเหลือ 40 บาทต่อหัว จากเดิมที่เคยเก็บ 50 บาท ซึ่งจากมติดังกล่าวบางบริษัทก็ยอมแต่มีบางบริษัทยังไม่ยอม จึงเกิดการร้องเรียนนำคลิปส่งไปตามโซเซียล

ทั้งนี้ทางตำรวจท่องเที่ยวประจำเกาะหลี่เป๊ะได้เข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ที่สภ.เกาะหลี่เป๊ะ และได้มีพุดคุยเจรจาระหว่างชมรมเรือหางยาวกับบริษัทเรือสปีดโบ้ท ตั้งแต่มีเหตุการณ์นี้ และการเจรจาก็ได้ตกลงกันว่า บริษัทเรือจะยอมจ่ายค่าหัวนักท่องเที่ยวคนละ 50 บาท ให้พวกเรือหางยาวที่เป็นชาวเกาะ โดยที่เรือหางยาวจะช่วยเป็นคนยกกระเป๋าและดูแลอำนวยความสะดวกทั้งหมดให้ ซึ่งการเจรจาก็ได้ตกลงกัน แต่มีบริษัทเรือสปีดโบ้ทบริษัทเดียวที่ไม่ยอมจ่าย ทำให้ชมรมเรือหางยาวไม่พอใจ จึงมีการล้อมเรือไม่ให้นำกระเป๋าลงจากเรือ ทางตำรวจท่องเที่ยวประจำเกาะหลี่เป๊ะจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนชมรมเรือหางยาวไม่ให้มีการกระทำแบบนี้ซึ่งเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยว