“ดีเฮ้าส์”แลนด์ลอร์ดสารคาม ผุดโครงการมิกซ์ยูสพันล้าน รับเมืองการศึกษาโต-เข้าตลาดหุ้นปี′62

“ดีเฮ้าส์” ทุนขอนแก่นยึดหัวหาดอสังหาฯเมืองมหาสารคาม เดินหน้าพัฒนาบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม อาคารพาณิชย์ 5 โครงการ เจาะลูกค้ากลุ่มบุคลากรการศึกษา-นิสิตกว่าแสนคน พร้อมเร่งแต่งตัวเข้าตลาดหุ้นปี”62 หวังระดมทุนผุดโครงการมิกซ์ยูส 1,000 ล้าน หอพัก-โรงแรม-ไลฟ์สไตล์มอลล์รองรับเมืองการศึกษาโต ชี้จุดแข็งมีต้นทุนที่ดินต่ำกระจายอยู่ในทำเลทอง กางแผนทยอยลงทุนเพิ่มใน 5 ปี พื้นที่ 500 ไร่ มูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท

บุกสารคามรองรับเมืองการศึกษา

นายพงศ์พจน์ เลิศรุ้งพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดีเฮ้าส์ พัฒนา จำกัด กลุ่มทุนจากจังหวัดขอนแก่นที่เข้ามาปักหลักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดมหาสารคาม เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ศักยภาพของจังหวัดมหาสารคามเป็นเมืองการศึกษาที่มีการขยายตัวของนักศึกษาและบุคลากรอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับจังหวัดขอนแก่นแต่การแข่งขันในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังไม่สูงมากนักโดยดีเฮ้าส์เริ่มดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี2553มีโครงการที่ปิดการขายไปแล้วเมื่อปี 2555 จำนวน 1 โครงการ คือ โครงการพนารมย์ 79 ยูนิต มูลค่า 200 ล้านบาท

ขณะที่ปัจจุบันมีโครงการอยู่ระหว่างการขาย 4 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการแกรนด์ เรสซิเดน บริเวณกิโลเมตร 1 ตรงข้ามโกลบอลเฮ้าส์ เป็นบ้านเดี่ยว 122 ยูนิต มูลค่า 390 ล้านบาท 2.โครงการเดอะ แกรนด์ คาแนล บริเวณริมคลองกลางใจเมืองมหาสารคาม มีทั้งอาคารพาณิชย์ โฮมออฟฟิศ และทาวน์โฮม 165 ยูนิต มูลค่า 420 ล้านบาท 3.โครงการแกรนด์ บิส บริเวณสี่แยกสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตมหาสารคาม เส้นมหาสารคาม-โกสุมพิสัย เป็นอาคารพาณิชย์ 50 ยูนิต มูลค่า 180 ล้านบาท และ 4.โครงการบ้านวนารมย์ บริเวณสี่แยกศูนย์ราชการ 65 ยูนิต มูลค่า 200 ล้านบาท คาดว่าจะเริ่มดำเนินการกลางปี 2560

ทั้งนี้ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มข้าราชการ อาจารย์ แพทย์ และบุคลากรทางการศึกษา เนื่องจากจังหวัดมหาสารคามมีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยราชภัฏสารคาม และสถาบันพลศึกษา เป็นต้น ประกอบกับสถาบันการศึกษามีการก่อสร้างอาคาร รวมถึงการเปิดหลักสูตรใหม่ ๆ เพื่อรองรับจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้เมืองมหาสารคามเกิดการขยายตัวอย่างรวดเร็ว มีคนนอกพื้นที่เข้ามาทำงานมากขึ้น จึงทำให้มีลูกค้ากลุ่มแพทย์และสตาร์ตอัพเพิ่มเข้ามาด้วย


ลงทุนต่อเนื่อง – บริษัท ดีเฮ้าส์ พัฒนา จำกัด กลุ่มทุนจากขอนแก่น ข้ามฟากมาลุยธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ใน จ.มหาสารคาม โดยทุ่มงบฯกว่า 1,100 ล้านบาท ผุดโครงการมิกซ์ยูสและหอพักขนาด 2,000 ห้อง พร้อมวางแผนพัฒนาที่ดินอีก 500 ไร่ ภายใน 4-5 ปีข้างหน้า

แต่งตัวเข้าตลาดหุ้นปี”62

นายพงศ์พจน์กล่าวว่าการเติบโตอย่างต่อเนื่องของบริษัทและคาดการณ์ว่าภาวะเศรษฐกิจของประเทศน่าจะฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ต้นปี2561เป็นต้นไปจึงได้แต่งตั้งบริษัท แอสเซทโปร แมนเนจเมนท์ จำกัด (APM) เป็นบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เตรียมเข้าสู่การเป็นบริษัทมหาชน โดยเตรียมจะเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในไตรมาส 3/ 2562 เพื่อให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น และแบรนด์ดีเฮ้าส์แข็งแกร่งทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจมากขึ้น

นอกจากนั้นเมื่อเข้าสู่ตลาดหุ้นแล้วได้เตรียมขยายการลงทุนไปตามหัวเมืองใหญ่ๆรวมทั้งเตรียมพัฒนาพื้นที่100ไร่ใกล้มหาวิทยาลัยมหาสารคาม (มอใหม่) เป็นโครงการมิกซ์ยูส โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ การให้เช่า จะพัฒนาเป็นหอพัก 2,000 ห้อง หรือประมาณ 20 ตึก บนพื้นที่ 40 ไร่ ซึ่งจะมีการแยกเป็นหอพักชาย หอพักหญิง หอพักรวม และหอพักอาจารย์ เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและเป็นสัดส่วน เจาะตลาดนักศึกษาและบุคลากรในมหาวิทยาลัยที่มีมากกว่า 50,000 คน และมีแนวโน้มมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งมีความได้เปรียบในการเดินทาง เพราะอยู่ห่างจากรั้วมหาวิทยาลัยเพียง 100 เมตร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการประมาณปี 2562 ด้วยการระดมทุนจากตลาดหุ้น และคาดว่าจะคืนทุนภายใน 7-8 ปี

ขณะที่อีกส่วนหนึ่งจะพัฒนาเพื่อการขาย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด อาคารพาณิชย์ และทาวน์โฮมประมาณ 500 ยูนิต บนพื้นที่ 60 ไร่ รองรับนักศึกษาที่เข้ามาอยู่ รวมทั้งมีพื้นที่ให้เช่าเปิดร้านอาหาร และร้านแบรนด์ดังต่าง ๆ โดยจะเริ่มลงทุนประมาณปี 2562 ใช้งบประมาณทั้งหมดราว 1,100 ล้านบาท

จุดแข็งต้นทุนแลนด์แบงก์ต่ำ

นายพงศ์พจน์กล่าวต่อว่า บริษัทมีข้อได้เปรียบคือมีแลนด์แบงก์ประมาณ 500 ไร่ในจังหวัดขอนแก่นและมหาสารคาม โดยกระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ แยกเป็นจังหวัดมหาสารคาม 90% และขอนแก่น 10% ซึ่งพื้นที่ทำเลทองบริเวณมหาวิทยาลัยซื้อไว้เฉลี่ยไร่ละ 1-2 ล้านบาท ปัจจุบันราคาที่ดินพุ่งสูงขึ้นถึงไร่ละ 20 กว่าล้านบาท รวมถึงที่ดินในโซนอื่น ๆ จากไร่ละ 1 ล้านบาท ปัจจุบันสูงถึงไร่ละ 8 ล้านบาท ทำให้กลุ่มทุนจากขอนแก่น 2-3 ราย ที่เคยเข้ามาลงทุนอสังหาฯในจังหวัดสารคาม สู้ได้ลำบาก เพราะกำแพงราคาที่ดิน รวมถึงแบรนด์ใหญ่จากกรุงเทพฯ ที่เข้ามาแล้วก็ต้องกลับไปลงทุนในภาคกลางเช่นเดิม และรายใหม่ ๆที่จะมาลงทุน

“ปัจจุบันแม้ว่ากลุ่มทุนต่าง ๆ ประสบภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีนัก แต่ดีเฮ้าส์ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ เนื่องจากเจาะกลุ่มลูกค้าระดับกลาง-บน และมีโลเกชั่นกระจายอยู่รอบเมือง สามารถเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายให้ลูกค้า ขณะเดียวกันก็เจอปัญหาธนาคารไม่ปล่อยกู้ให้ลูกค้ารายย่อยแต่ลูกค้าของดีเฮ้าส์ก็ยังคงมีเท่าเดิม ไม่ลดลง จึงกระตุ้นการขาย เช่น ฟรีค่าโอน ลดค่าจดจำนอง”

วางแผนพัฒนาที่ดินอีก 500 ไร่

นายพงศ์พจน์กล่าวอีกว่า วางแผนจะพัฒนาพื้นที่ 20 แปลง ประมาณ 500 ไร่ ในจังหวัดมหาสารคามและขอนแก่น มูลค่ากว่า 3,400 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2560-2564 ประกอบด้วย 1.โครงการพัฒนาที่ดิน 3 ไร่ใกล้มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม เป็นหอพัก 240 ห้อง 2.โครงการพัฒนาที่ดิน 200 ไร่ใกล้โชว์รูมนิสสัน จังหวัดมหาสารคาม เป็นบ้านเดี่ยว 580 ยูนิต

3.โครงการพัฒนาที่ดินริมคลองสมถวิล อำเภอเมืองมหาสารคาม บริเวณหน้าโครงการเดอะ แกรนด์ คาแนล บนพื้นที่ 6 ไร่ โดยจะพัฒนาเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของจังหวัด โดยเตรียมจะเซ็นสัญญากับเครือข่ายโรงแรมชั้นนำ เพื่อทำให้เป็นมาตรฐานสากล มีคุณภาพและการบริการที่ดี

4.โครงการพัฒนาที่ดิน 14 ไร่ใกล้โชว์รูมฮอนด้า และมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม จะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูส เช่น ไลฟ์สไตล์มอลล์ อาคารพาณิชย์ และโรงแรม 5.โครงการพัฒนาพื้นที่บริเวณถนนมิตรภาพ ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น จำนวน 15 ไร่ เป็นแวร์เฮาส์ขนาด 10,000 ตารางเมตร

นอกจากนี้เตรียมลงทุนเพิ่มอีก 20 ล้านบาทขยายพื้นที่คลังสินค้าเพิ่มอีก 5,000 ตารางเมตร เป็นศูนย์กระจายวัสดุก่อสร้างไปสู่ไซต์งานต่าง ๆ ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้การก่อสร้างแต่ละโครงการของดีเฮ้าส์รวดเร็วขึ้น รวมถึงรีโนเวตสำนักงานใหญ่ที่จังหวัดมหาสารคาม

ที่มา  ประชาชาติธุรกิจออนไลน์