วันที่ 6 เมษายน 2560 ภายหลังจากที่รัฐบาล ได้ใช้ ม.44 ออกกฎหมายห้ามนั่งกระบะ และแค็บหลังรถกระบะ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิต ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะผ่อนปรนไว้ก่อน โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้คำแนะนำเกี่ยวกับกฎหมายใหม่นี้ ก่อนที่จะประกาศใช้อย่างเข้มงวดหลังเทศกาลสงกรานต์ไปแล้วนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่สำรวจความคิดเห็นของประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ริมถนนมิตรภาพเส้นบายพาส ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่เห็นด้วย เพราะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

นายอนุวัฒน์ ยิ้มละม้าย ชาว อ.พิมาย ซึ่งวันนี้ได้ขับรถกระบะพาครอบครัวไปต่างจังหวัด ซึ่งมีผู้โดยสารมาด้วยทั้งหมด จำนวน 6 คน ให้นั่งแคปหลัง 4 คน เปิดเผยว่า จากสภาพความเป็นจริงของประชาชนในชนบท หลายคนต่างก็มีรถกระบะที่มีแคปด้านหลัง ซึ่งซื้อมาเพื่อวัตถุประสงค์คือการให้ญาติ พี่ น้อง และครอบครัว ได้นั่งร่วมเดินทางไปทำธุระต่างๆ แต่ถ้าหากรัฐบาลออกกฎหมายแบบนี้มา ก็จะทำให้ญาติพี่น้องไม่สามารถร่วมเดินทางไปไหนได้ ซึ่งตนมองว่าห้ามนั่งกระบะท้ายยังพอรับได้ แต่ถ้าจะไม่ให้นั่งแค็บหลัง ก็ไม่รู้ว่าจะซื้อรถกระบะที่มาแค็บมาเพื่ออะไร

นายนิวัต วิเศษวงศา ชาว อ.คง กล่าวว่า ตนก็ติดตามข่าวการออกกฎหมายใหม่นี้ ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วทำไม่ได้แน่นอน ถ้าตำรวจจะปรับก็ต้องยอมเสียค่าปรับ เลี่ยงไม่ได้เพราะพี่น้องมีหลายคน แต่มีรถยนต์คันเดียว ช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ก็ต้องพาญาติพี่น้อง 4  คน เดินทางจากกรุงเทพฯ กลับภูมิลำเนาที่ อ.คง จ.นครราชสีมา ก็จะให้นั่งแค็บหลังเหมือนเดิม ทั้งนี้ ตนไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ ถ้ารัฐบาลจะเห็นใจประชาชน ก็ขอให้ยกเลิกกฎหมายนี้ไปเลย เนื่องจากขณะนี้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก