ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ประโยคที่ว่ากินอะไรได้อย่างนั้น เรียกว่าเป็นประโยคคลาสสิคที่ใช้เตือนใจให้หันมาใส่ใจสุขภาพ ที่หากรู้จักทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ ก็จะสุขภาพดีตามไปด้วย หลายคนจึงหันมาทานอาหารคลีน โดยเริ่มต้นง่ายๆจากการปรุงอาหาร และเลือกใช้น้ำมันมะกอก ที่เป็นน้ำมันสกัดธรรมชาติจากผลมะกอก อันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับปรุงอาหารเพื่อสุขภาพ มาใช้ผัด ทอด ตามเดิมได้อย่างไม่รู้สึกผิด ซึ่งเบอร์ทอลลี่ แบรนด์น้ำมันมะกอกชื่อดัง ได้แนะนำประโยชน์ดีๆ 4 ข้อ ของน้ำมันมะกอกไว้ว่า
1. น้ำมันมะกอกช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล เพราะน้ำมันมะกอกไม่มีส่วนประกอบของเกลือ แถมยังปราศจากคอเลสเตอรอล และอุดมไปด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัวถึง 77% โดยเฉพาะกรดโอเลอิกหรือกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว
“สิ่งที่น่าสนใจ คือ น้ำมันมะกอกนั้นมีส่วนประกอบของกรดโอเลอิกถึง 80% ซึ่งการบริโภคไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวหรือกรดโอเลอิกที่ว่านี้ในปริมาณที่สมดุลและพอเหมาะ สามารถช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้คงที่ และยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆที่ตามมาจากการมีระดับคอเลสเตอรอลสูงได้อีกด้วย” นายพศิษฐ์ คณาศิริชัยนนท์ นักกำหนดอาหารวิชาชีพและวิทยากรด้านอาหารและสุขภาพ จากเพจเฟสบุ๊คชื่อดังด้านอาหารและโภชนาการ ‘เมื่อวานป้าทานอะไร?’ กล่าว
2. น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งไม่พบในน้ำมันชนิดอื่นๆ และยังอุดมไปด้วยวิตามินอี น้ำมันมะกอกเพียงหนึ่งช้อนโต๊ะมีวิตามินอีมากถึง 8% ของปริมาณวิตามินอีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ในน้ำมันมะกอกยังประกอบด้วย สารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ และสารโพลิฟีนอล ที่ไม่พบในน้ำมันชนิดอื่นๆ นอกจากนี้ ยังไม่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคเบาหวาน
3. น้ำมันมะกอกป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด น้ำมันมะกอกมีปริมาณของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆ เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดทานตะวัน นอกจากนี้ น้ำมันมะกอกยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับเส้นเลือด ลดภาวะเกล็ดเลือดจับตัวเป็นลิ่ม ช่วยให้เส้นเลือดแข็งแรงขึ้น และยังช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย
“คนที่ได้รับกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวจากน้ำมันมะกอกเป็นประจำนั้น จะมีระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดชนิด LDL ต่ำ ซึ่ง LDL นี้เองที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอันก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดนั่นเอง” นายพศิษฐ์ คณาศิริชัยนนท์ กล่าวเสริม
4. น้ำมะกอกช่วยลดเบาหวานได้หลายวิธี ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่า น้ำมันมะกอกนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนี้ สามารถช่วยลดความเสียหายจากสภาวะเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) อันเป็นผลมาจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงได้ จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี รวมทั้งอาการที่เกิดขึ้นจากเส้นประสาทชนิดต่างๆ ถูกทำลายโดยโรคเบาหวาน (diabetic neuropathy) ภาวะความเสียหายของประสาทในเรตินา (retinal neuropathy) ภาวะความดันเลือดสูง และโรคหัวใจ
น้ำมันมะกอกยังสามารถช่วยต้านการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ได้อีกด้วย โดยน้ำมันมะกอกจะช่วยลดการอักเสบและผลข้างเคียงจากการอักเสบในระยะยาวได้ เช่น ในโรคเบาหวาน และสภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นโรคเบาหวาน