นายจอห์น เคลลี รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐแจ้งกับคณะกรรมาธิการของวุฒิสภาว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเพิ่มจำนวนสนามบินที่จะสั่งห้ามไม่ให้นำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นเครื่องเพิ่มเติม หลังจากได้มีการประกาศมาตรการห้ามการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่กว่าโทรศัพท์มือถือ อาทิ แล็ปท็อป แท็บเล็ต และกล้องถ่ายรูป ติดตัวขึ้นเครื่องบินที่ออกจากสนามบิน 10 แห่ง ใน 8 ประเทศไปก่อนหน้านี้

เคลลียืนยันว่าภัยคุกคามที่ทำให้เกิดความห่วงกังวลจนต้องมีการประกาศมาตรการดังกล่าวเป็นของจริง และดูจะยิ่งจริงจังมากขึ้นจนทำให้อาจต้องมีการประกาศเพิ่มการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวที่สนามบินอื่นๆในระยะเวลาอันใกล้นี้ พร้อมกับยืนยันว่าแม้ประเทศที่อยู่ในรายชื่อที่ถูกห้ามส่วนใหญ่จะเป็นประเทศมุสลิมแต่มาตรการที่ประกาศไปไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามหรือเป็นการกระทำบนความอคติ แต่เป็นเพราะมีข้อห่วงกังวลเฉพาะซึ่งเป็นภัยคุกคามที่แท้จริงซึ่งเกิดขึ้นหลังจากการติดตามตรวจสอบข้อมูลที่แปรเปลี่ยนจากการพูดคุยเป็นการลงมือทำแล้วจริงๆ

ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า จะมีการเพิ่มมาตรการควบคุมการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขึ้นเครื่องในสนามบิน 14 แห่งทั่วสหรัฐ นอกจากนี้กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิยังจะพุ่งเป้าไปที่การตรวจสอบเที่ยวบินบางเที่ยวขณะลงจอดในสหรัฐเพิ่มเติมโดยเฉพาะเที่ยวบินที่เดินทางมาจากประเทศในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการที่ได้ประกาศไปแล้วเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้การเพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขันในการนำอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดใหญ่ขึ้นเครื่องบินล่าสุดนี้ถูกประกาศใช้หลังเจ้าหน้าที่พบว่า กลุ่มก่อการร้ายได้พัฒนาระเบิดชนิดใหม่ซึ่งซุกซ่อนในแล็ปท็อปโดยที่ระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบินไม่สามารถตรวจพบได้