สงครามราคา ทำล้นตลาด SMEs ไทย ไม่ท้อ หาทางเพิ่มมูลค่ากระเทียม

สงครามราคา ทำล้นตลาด SMEs ไทย ไม่ท้อ หาทางเพิ่มมูลค่ากระเทียม

ลาซาด้า ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้สินค้าไทยคุณภาพดีได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่กว้างขึ้นด้วยเครื่องมือการตลาดอีคอมเมิร์ซ ที่จะช่วยให้ร้านค้าท้องถิ่นสามารถยกระดับมาตรฐานของแบรนด์ และต่อยอดการเติบโตได้อย่างมั่นคง

ซึ่งรวมถึง ‘กระเทียมดำ B-Garlic’ แบรนด์ผู้ผลิตที่ปลุกปั้นกระเทียมดำ จากการใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมต่างๆ ทั้งในด้านการผลิต และการตลาดออนไลน์ผ่านร้านค้าบน LazMall จนกลายเป็นผู้นำตลาดกระเทียมดำไทย อีกทั้งยังสามารถสร้างยอดขายบนแพลตฟอร์ม LazMall ได้มากกว่า 2 แสนบาทต่อเดือน

คุณนพดา อธิกากัมพู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นพดาซุปเปอร์ฟู้ดส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระเทียมดำ ภายใต้แบรนด์ ‘B-Garlic’ ได้เปิดเผยถึงกลยุทธ์และปัจจัยที่นำไปสู่ความสำเร็จในการยกระดับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นว่า มีจุดเริ่มต้นมาจากความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาศักยภาพชุมชนและเกษตรกรไทย จึงได้สานต่อธุรกิจค้ากระเทียมสดของครอบครัวที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นกว่า 40 ปี

คุณนพดา อธิกากัมพู ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นพดาซุปเปอร์ฟู้ดส์ ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกระเทียมดำ ภายใต้แบรนด์ ‘B-Garlic’

กระทั่งเห็นความท้าทายของการแข่งขันทางด้านราคาจากการเปิดการค้าเสรี ที่ส่งผลให้กระเทียมไทยล้นตลาด และเกิดภาวะราคากระเทียมไทยตกต่ำ เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียม ได้รับผลกระทบตามไปด้วย

แต่เพื่อช่วยให้เกษตรกรผู้ปลูกกระเทียมมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น คุณนพดาจึงค้นหาแนวทางเพิ่มมูลค่าให้กับกระเทียมไทย และก่อตั้งแบรนด์ B-Garlic ขึ้นในปี 2559 พร้อมเปิดตัวสินค้าซิกเนเจอร์อย่าง กระเทียมดำ เป็นเจ้าแรกของประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานจาก อย.

แม้ปัจจุบัน เริ่มมี “ธุรกิจกระเทียมดำ” เข้ามาในตลาดมากยิ่งขึ้น แต่ B-Garlic ยังคงเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง เพราะความใส่ใจในการรักษามาตรฐานความยั่งยืนไปพร้อมกับการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

โดยคุณนพดา ได้เผยเคล็ดลับในการดำเนินธุรกิจและสร้างจุดแข็งท่ามกลางการแข่งขัน จนสามารถ “ยืนหนึ่ง” ในตลาดกระเทียมดำได้ต่อเนื่อง ดังต่อไปนี้

ยกระดับวัตถุดิบท้องถิ่นให้เป็นสินค้าพรีเมียม

B-Garlic ได้ทุ่มเทเพื่อส่งมอบรสชาติและคุณภาพของสินค้าดีที่สุด โดยยึดมั่นในมาตรฐานกระบวนการผลิตระดับสูงสุด เพื่อเปลี่ยนภาพจำว่า กระเทียมสดเป็นสินค้าที่มีกลิ่นฉุน ไม่น่ารับประทาน ผ่านกรรมวิธีการผลิตเฉพาะ จนได้มาเป็นกระเทียมดำที่ไร้กลิ่นฉุน รสชาติหวาน อมเปรี้ยว เคี้ยวทานง่าย พอดีคำ อีกทั้งคุณค่าทางสารอาหารเพิ่มมากขึ้น

ทั้งยังได้ร่วมกับคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) และหน่วยงานภาครัฐต่างๆ เพื่อพัฒนานวัตกรรมการแปรรูปด้วยการบ่มระดับมาตรฐานสากล จนได้มีกระเทียมดำที่อร่อย และที่ดีต่อสุขภาพเช่นทุกวันนี้

เกษตรกรปลูกกระเทียม

ใช้ประโยชน์จากอีคอมเมิร์ซอย่างครบวงจร

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการทำการตลาด และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้กว้างยิ่งขึ้น B-Garlic เลือกใช้ช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางในการขาย รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่างลาซาด้า โดยได้เปิด Flagship Store บน LazMall และประยุกต์ใช้เครื่องมือการตลาดต่างๆ ในการเจาะข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมลูกค้าแบบเรียลไทม์ พร้อมนำมาปรับกลยุทธ์ในการเพิ่มยอดขายและสร้างการรับรู้ของแบรนด์

นอกจากนี้ ยังเข้าร่วมแคมเปญต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เช่น จัดดีลพิเศษเพื่อจูงใจลูกค้าใหม่ และเข้าร่วมโปรแกรม LazCoins เพื่อมอบสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมสำหรับนักช้อปขาประจำ ผ่านการสะสมและแลกเหรียญเป็นส่วนลด ทำให้ B-Garlic สามารถเพิ่มยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง และในขณะเดียวกัน ก็สามารถควบคุมต้นทุน ตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างตรงจุด

เตรียมแผนต่อยอดธุรกิจกระเทียมดำสู่ระดับโลก

นอกจากการทำธุรกิจภายในประเทศ คุณนพดายังมีความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้าหมายที่จะต่อยอดในการขยายตลาดไปจนถึงระดับโลก เพื่อเพิ่มชื่อเสียงให้กับประเทศและยกระดับสินค้าไทย ด้วยความเชื่อมั่นของคุณภาพสินค้า และศักยภาพของกระเทียมดำไทย

กระเทียมดำ

โดย B-Garlic ได้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าระดับโลก ทั้งในสหรัฐอเมริกา เยอรมนี ออสเตรเลีย จีน ญี่ปุ่น และดูไบ ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น และล่าสุดได้เข้าร่วมงาน THAIFEX เพื่อขยายฐานลูกค้าไปทั่วโลก และทำให้ลูกค้าต่างชาติได้สัมผัสผลิตภัณฑ์ พร้อมทำความรู้จักกับ ‘กระเทียมดำ’ สมุนไพรไทยมากยิ่งขึ้น

“สิ่งที่ทำให้แบรนด์ของเราโดดเด่นและสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าคือ คุณภาพสินค้าผสานกับนวัตกรรมบนแพลตฟอร์มลาซาด้า ซึ่งสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้ามากกว่าราคาหรือโปรโมชัน และนั่นคือ กุญแจสำคัญที่ทำให้แบรนด์ของเรายั่งยืน” คุณนพดา กล่าวทิ้งท้าย

ผลิตภัณฑ์ของ SMEs ไทย

เกี่ยวกับ ลาซาด้า กรุ๊ป

ลาซาด้า กรุ๊ป เป็นผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา ลาซาด้าได้ขับเคลื่อนความก้าวหน้าในประเทศไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม ผ่านธุรกิจการค้าและเทคโนโลยี ปัจจุบันธุรกิจที่กำลังเติบโตนี้ได้เชื่อมโยงผู้ใช้งานเป็นประจำราว 160 ล้านราย เข้ากับผู้ขายที่ดำเนินธุรกิจอยู่มากกว่า 1 ล้านรายต่อเดือน

ผ่านการทำธุรกรรมทางการเงินที่ปลอดภัย ด้วยช่องทางการชำระเงินต่างๆ ที่เชื่อถือได้ รวมถึงลาซาด้าวอลเล็ต อีกทั้งยังรับบริการจัดส่งพัสดุจากเครือข่ายโลจิสติกส์ในประเทศที่กลายเป็นหนึ่งในเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดของภูมิภาคนี้