ว.ดุสิตธานี ร่วมขับเคลื่อนอาหารไทย ขึ้นแท่น Soft Power อวดชาวโลก

ว.ดุสิตธานี ร่วมขับเคลื่อนอาหารไทย ขึ้นแท่น Soft Power อวดชาวโลก

เมื่อเร็วๆ นี้ THACCA หรือ Thailand Creative Culture Agency ได้จัดพิธีเปิดงาน THACCA SPLASH – Soft Power Forum 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นงานประกาศแนวทางการใช้ Soft Power หรือ “พลังที่โน้มนำให้ผู้อื่นหรือประเทศอื่นทำในสิ่งที่เราต้องการ โดยไม่ใช้กำลังบังคับ แต่ใช้ความนุ่มนวลผ่านค่านิยม และวัฒนธรรม”

ในการกระตุ้นเศรษฐกิจของไทยในระดับนานาชาติ โดยอาศัย 11 อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ที่เป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของไทยเป็นตัวชูโรง ได้แก่ หนังสือ เทศกาล การท่องเที่ยว ดนตรี เกม กีฬา ศิลปะ (รวมถึงศิลปะการแสดง) การออกแบบ แฟชั่น กลุ่มภาพยนตร์ ละคร และซีรีส์ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ “อาหาร”

อาหารและวัตถุดิบไทย นับได้ว่าเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ประจำชาติที่โดดเด่นในสายตาชาวโลก ซึ่งไม่ได้จำกัดเพียงแค่เมนูยอดฮิตอย่าง ต้มยำกุ้ง หรือ ผัดไทย เท่านั้น แต่อาหารไทย ที่สร้างความประทับใจให้กับชาวต่างชาติมีอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย

นอกจากความหลากหลายของเมนูในแต่ละภูมิภาคแล้ว วัตถุดิบของไทย เป็นสิ่งที่ดึงดูดให้ผู้คนทั่วโลกเดินทางมาศึกษาถึงที่ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบพื้นบ้านที่แปลกตาไปจนถึงสินค้าที่เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ที่ไม่สามารถคัดลอกได้ในภูมิประเทศอื่นๆ ของโลก

เสวนา

จุดเด่นของอาหารไทยยังมีในอีกหลายแง่มุม ตั้งแต่ Street Food นวัตกรรมอาหารแห่งอนาคต ความยั่งยืนทางอาหาร ไปจนถึงการเรียนรู้วัฒนธรรมที่สอดแทรกไปกับอาหาร ด้วยความสำคัญของอาหารไทยนี้เองจึงทำให้ THACCA ได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหารขึ้น

โดยมี เชฟชุมพล แจ้งไพร ทูตอาหารยั่งยืนคนแรกของโลก เป็นกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหาร มีพันธกิจในการขับเคลื่อนและผลักดันนโยบายและแผน พร้อมทั้งแนวทางและมาตรการที่ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนา Soft Power ด้านอาหารไทย

ในฐานะที่เป็นสถาบันการศึกษาที่โดดเด่นและเชี่ยวชาญด้านธุรกิจอาหารและการบริการในประเทศไทย วิทยาลัยดุสิตธานี นำโดย ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร อธิการบดี และ อาจารย์ ดร.ณัฐนรี สมิตร หัวหน้าวิชาการจัดการธุรกิจการบริการ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จึงได้รับเชิญจากประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมอาหาร ให้ร่วมเป็นหนึ่งในอนุกรรมการของคณะฯ และกรรมการวิพากษ์หลักสูตร

ซึ่งหนึ่งในโครงการที่วิทยาลัยดุสิตธานีได้รับบทบาทสำคัญคือ ได้เป็น 1 ใน 59 สถาบันการศึกษาทั่วประเทศที่ผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้เป็นหน่วยฝึกอบรมในโครงการ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย ภายใต้นโยบาย 1 ครอบครัว 1 Soft Power ซึ่งเป็นโครงการยกระดับศักยภาพของคนไทย

แชร์ประสบการณ์

เพื่อสร้างแรงงานทักษะสูง 20 ล้านคน จาก 20 ล้านครอบครัว โดยวิทยาลัยดุสิตธานี ได้เป็นหนึ่งในสถานศึกษาที่มีส่วนร่วมพัฒนาทักษะด้านการจัดการ และการประกอบอาหารไทย มีหลักสูตรที่เปิดโอกาสให้คนไทยทุกคนทั่วทุกสารทิศได้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมอาหารไทย ได้แก่ หลักสูตรเชฟอาหารไทยมืออาชีพ หลักสูตรทำกินได้ ทำขายดี หลักสูตรการจัดการธุรกิจอาหารไทย และหลักสูตรผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร

ไม่เพียงแค่นั้น ตัวแทนนักศึกษาปริญญาโทและศิษย์เก่า วิทยาลัยดุสิตธานี ได้แก่ คุณบอมบ์-ธันยพัฒน์ เจริญทรัพย์ นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) กลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจอาหาร และ เชฟบิ๊ก-ภูริพรรษ ใจวีระวัฒนากุล นักศึกษาปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (MBA) กลุ่มวิชาการจัดการธุรกิจอาหาร และศิษย์เก่าหลักสูตรปริญญาตรี สาขาวิชาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร ได้มาร่วมงานนี้ในฐานะผู้ร่วมผลักดันอุตสาหกรรมอาหารไทยเช่นกัน

โดย คุณบอมบ์ ได้นำ “ข้าวเหนียวหมูปิ้ง” Soft Power ใกล้ตัวจนถูกมองข้าม จากร้านหมูแข็งแรง-หมูปิ้งโบราณ ซึ่งเป็นธุรกิจของตนมาแจกจ่ายให้กับแขกผู้ร่วมงานตลอดทั้ง 3 วัน

สาธิตเมนู

ส่วน เชฟบิ๊ก ได้สาธิต 2 เมนูจากผลิตภัณฑ์สินค้า GI “ส้มฉุนลิ้นจี่จักรพรรดิ ทับทิมสยามปากพนัง สับปะรดเลิศล้ำภูเก็ต หอมแดงคัดพิเศษ ศรีสะเกษ เมืองไทย” และ “น้ำหมากเม่าสกลนครกรานิต้า” และแบ่งปันประสบการณ์การเป็นเชฟ รวมถึงเส้นทางการพัฒนาตนเองในสายอาชีพครัว ให้แขกผู้ร่วมงานและผู้ฟังใน Podcast ได้รับแรงบันดาลใจ ซึ่งทั้งคู่ เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจของวิทยาลัยดุสิตธานี

วิทยาลัยดุสิตธานี มุ่งมั่นสรรค์สร้างบุคลากรอันเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และทักษะทางวิชาชีพแก่วงการอาหารไทย เพื่อให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก รวมถึงส่งมอบความรู้ด้านการประกอบอาหาร และการบริหารธุรกิจร้านอาหารให้กับประชาชน เพื่อต่อยอดอาชีพสู่ความยั่งยืนในอนาคต ช่วยเพิ่มโอกาสในการหารายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจในระดับครัวเรือน และเปลี่ยนความใฝ่ฝันให้เป็นอาชีพ ที่สำคัญ เป็นสถาบันที่จะนำพาอาหารไทยไปสู่นานาชาติได้อย่างยั่งยืน