เผยแพร่ |
---|
อธิบดีสรรพสามิตแจง พ.ร.บ.ใหม่เริ่มใช้ 16 ก.ย. 60 ยันไม่เพิ่มภาระผู้เสียภาษี โต้สังคมออนไลน์ตีข่าวเพดานจัดเก็บสูง แจงเป็นเพดานทำไว้รองรับ 20 ปีข้างหน้า เผย 1 เดือนเก็บภาษีน้ำมันเครื่อง-เครื่องบินแล้ว 1.3 พันล้านบาท
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวว่า พระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 16 ก.ย. 2560 นี้เป็นต้นไป หรือพ้นจาก 180 วัน นับตั้งแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปแล้วเมื่อวันที่ 20 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยกรมยืนยันว่า เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ผู้เสียภาษีสรรพสามิตจะยังไม่มีภาระเพิ่มขึ้น เพราะกรมจะต้องปรับอัตราให้สอดคล้องกับภาระภาษีในปัจจุบันตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยมีมติไว้ว่า จะไม่เพิ่มภาระให้แก่ผู้เสียภาษี
สำหรับกรณีที่มีสื่อสังคมออนไลน์ระบุว่า บุหรี่จะเพิ่มเป็นมวนละ 5 บาท หรืออาบอบนวดจะถูกเก็บภาษี 1,000 บาทต่อรอบ กรณีดังกล่าวเป็นเพดานสูงสุดที่กรมจัดทำประมาณการไว้ในระยะ 20 ปีข้างหน้า ซึ่งอยู่บนสมมุติฐานค่าเงินและภาวะเศรษฐกิจที่จะเปลี่ยนไป
“เพดานใหม่จะใช้ไปจนถึงปี 2580 ส่วนอัตราภาษีที่จะเก็บจริง จะกำหนดไว้ในกฎหมายลำดับรอง คือ ประกาศกระทรวง โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งกรมต้องทำอนุบัญญัติรวมแล้ว 80 ฉบับ เพื่อให้สอดรับกับเนื้อหาของ พ.ร.บ. โดยหนึ่งในนั้นคือประกาศกระทรวงกำหนดอัตราภาษี ซึ่งอัตราจัดเก็บจริงจะลดจากเพดานลงมา ส่วนเพดานที่กำหนดไว้สูงเพราะมองถึงอนาคตอีก 20 ปีข้างหน้า” นายสมชายกล่าว
อีกทั้งเมื่อกฎหมายใหม่บังคับใช้ ฐานในการคำนวณภาษีสรรพสามิตจะเปลี่ยนไปใช้ “ราคาขายปลีกแนะนำ” ทุกตัวสินค้า ทั้งสินค้านำเข้าและสินค้าผลิตในประเทศ จากปัจจุบันสินค้านำเข้าจะใช้ “ราคาซีไอเอฟ” และสินค้าในประเทศจะใช้ “ราคา ณ โรงงานอุตสาหกรรม” หรือกรณีสุราจะใช้ “ราคาขายส่งช่วงสุดท้าย”
นอกจากนี้ ยังปรับปรุงวิธีการจัดเก็บจากเก็บในอัตราตามมูลค่าหรือตามปริมาณ แล้วแต่อัตราใดจะคิดเป็นเงินสูงกว่า เปลี่ยนเป็นจัดเก็บทั้งตามมูลค่าและตามปริมาณ
“ยกตัวอย่างที่โลกออนไลน์พูดกัน สถานอบตัวนวดตัว เดิมทีเก็บจากฐานมูลค่า คือด้านรายได้ เก็บเป็นเปอร์เซ็นต์ แต่ของใหม่เราเพิ่มขาเชิงปริมาณ คิดเป็นต่อรอบ ซึ่งสอดคล้องกับกระทรวงมหาดไทยที่มีเก็บค่าธรรมเนียมสถานบริการที่เก็บต่อตารางเมตร เราก็ทำให้สอดรับกัน แต่ในทางปฏิบัติกรมสามารถกำหนดให้ใช้ขามูลค่า ส่วนขาปริมาณก็กำหนดเป็นศูนย์ ฉะนั้น การจัดเก็บก็ยังเหมือนเดิม” นายสมชายกล่าว
ทั้งนี้ หลักในการยกร่างกฎหมายฉบับนี้ขึ้นมา คือเพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นสากล โดยเน้นอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการและประชาชนผู้เสียภาษี หรือขออนุญาตประกอบกิจการที่เกี่ยวข้อง รวมถึงปรับปรุงลดขั้นตอนกระบวนงานของกรมสรรพสามิตให้สะดวกรวดเร็วขึ้น ได้แก่ กระบวนงานในการชำระภาษี และออกใบอนุญาต กับการบังคับคดีและการอุทธรณ์
อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวด้วยว่า การเก็บรายได้ปีงบประมาณ 2560 ครึ่งปีแรก (ต.ค. 59-มี.ค. 60) ของกรมสรรพสามิต ภาพรวมยังเกินเป้าหมายอยู่กว่า 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะเดือน มี.ค.เกินเป้าราว 4,000 ล้านบาท จากภาษีเบียร์และเครื่องดื่ม ขณะที่แนวโน้มตลอดทั้งปีนี้น่าจะเก็บได้ตามเป้าหมาย เพราะภาษีรถยนต์ก็มีแนวโน้มดีขึ้นจากงานมอเตอร์โชว์ที่กำลังจะจัดขึ้นสิ้นเดือน มี.ค.นี้ ดังนั้น ในปีงบประมาณ 2560 นี้จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มภาระให้ผู้เสียภาษีส่วนภาษีน้ำมันหล่อลื่น ที่เริ่มจัดเก็บมาได้ประมาณ 1 เดือน มีการจัดเก็บแล้วราว 600 ล้านบาท ซึ่งหากรวมกับภาษีน้ำมันเครื่องบินด้วยจะอยู่ที่ 1,200-1,300 ล้านบาทต่อเดือน
ที่มา ประชาชาติธุรกิจออนไลน์