แอพ FoodStory ตอบโจทย์ร้านอาหาร-ลูกค้า

ในบรรดาธุรกิจสตาร์ตอัพเมืองไทย ต้องบอก แอพพลิเคชั่น “FoodStory” มาแรงและเป็นที่สนใจของผู้คน ซึ่งมีสองหนุ่มเป็นผู้ก่อตั้งและช่วยกันบริหารคือ คุณฐากูร ชาติสุทธิผล รับตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย จำกัด ส่วน คุณชวิน ศุภวงศ์ หรือ คุณแจ๊ค ดูแลในฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ลีฟวิ่ง โมบาย จำกัด โดยแอพนี้เป็น 1 ใน 3 ของผู้ชนะจากเวทีประกวดธุรกิจสตาร์ตอัพ “True Incube Asia Pacific Mobile App Challenge 2014” ที่ได้รับคัดเลือกไปแข่งขันในระดับนานาชาติ

slide002

ทั้งนี้ คณะกรรมการเวทีดังกล่าวตัดสินให้ “FoodStory” ชนะการแข่งขัน ด้วยเหตุผลที่ว่า FoodStory เป็นระบบจัดการหน้าร้านบนไอแพดสำหรับร้านอาหารและร้านกาแฟที่มีมากกว่า 200 ฟีเจอร์ เช่น บริหารสต๊อก จองโต๊ะอาหาร รายงานผลประกอบการ ฯลฯ โดย FoodStory มีจุดเด่นอยู่ที่สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ใช้แอพได้แบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ ทีมงาน FoodStory มีประสบการณ์ในการเขียนซอฟต์แวร์ให้กับธนาคาร รวมถึงประสบการณ์ทำร้านอาหารในต่างประเทศอีกด้วย

มองเทรนด์เศรษฐกิจยุคดิจิตอล
นอกจากนี้ ยังได้รับเลือกให้นำผลงานไปโชว์ในงานธุรกิจสตาร์ตอัพ ที่หลายหน่วยงานของภาครัฐและเอกชนจัดขึ้น เพื่อเป็นตัวอย่างให้เห็นถึงความสำเร็จของสตาร์ตคนไทย พร้อมกันนั้น ทางบริษัทยังไปออกบู๊ธในต่างประเทศอย่าง สิงคโปร์และฮ่องกง ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีเพราะมีลูกค้ามาติดต่อใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยมีตัวแทนจำหน่ายแอพด้วย

12524282_10153833360896251_7308725709040482094_n

ด้านคุณแจ๊ค อธิบายการทำงานของแอพนี้ว่า เป็นระบบที่ทำให้เจ้าของร้านอาหารและลูกค้าได้พบกันด้วยระบบ อีโค่ซิสเต็ม (Eco System) เป็นตัวเชื่อมระหว่างแอพทั้งสอง สามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลและแชร์เรื่องราวซึ่งกันและกัน ทำให้ร้านอาหารสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ยิ่งขึ้น และลูกค้าสามารถหาร้านอาหารที่ตรงความต้องการของตนได้อย่างเหมาะสม เป็นรูปแบบการแลกเปลี่ยนที่ครบวงจรระหว่างผู้ประกอบการร้านอาหารและกลุ่มลูกค้า หากพูดถึงเรื่องของความสะดวกสบายและทันสมัยแล้ว FoodStory สามารถตอบโจทย์ทั้งร้านอาหารและผู้บริโภคได้อย่างลงตัว

สำหรับที่มาที่ไปของแอพนี้ เขาเท้าความให้ฟังว่า ตอนแรกคิดไว้ว่าจะทำแอพง่ายๆ เกี่ยวกับร้านอาหารเพื่อให้ลูกค้าเพียงแค่รีวิวอาหารและใช้โปรโมชั่น แต่ด้วยความมุ่งมั่นที่ต้องการที่จะปฏิวัติวงการร้านอาหารให้มีระบบที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย ทีมงานจึงเริ่มเก็บข้อมูลจากร้านอาหารต่างๆ ว่าต้องการอะไร อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคอาหารก็เปลี่ยนแปลงไปมาก เนื่องมาจากสมาร์ตโฟนและอินเตอร์เน็ต ดังนั้น จึงต้องสร้างวิสัยทัศน์ว่าระบบร้านอาหารควรจะเป็นอย่างไรในโลกของยุคดิจิตอล ที่ผ่านมาได้ปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง มาหลายรูปแบบ

fooddi001

“พวกเราเริ่มพัฒนาแอพมาตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว โดยเริ่มต้นจากการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปเนื่องด้วยอินเตอร์เน็ตและสมาร์ตโฟน ซึ่งทำให้ร้านอาหารต้องปรับตัวให้เข้ากับเศรษฐกิจยุคดิจิตอล หลังจากนั้นก็ทำการทดลองใช้ในร้านอาหารจริงก่อนที่จะเริ่มออกตลาดในปีที่ผ่านมา ด้วยคอนเซ็ปต์ของแอพที่ว่า เป็นระบบจัดการร้านอาหารยุคดิจิตอล ครบครันทุกความต้องการในมือคุณ ”

คุณแจ๊ค ให้ข้อมูลว่า “การพัฒนาแอพดังกล่าว เริ่มต้นกันจากศูนย์ ก่อนหน้านั้นได้วิ่งหาร้านอาหารนำเสนอระบบ ถึงขั้นให้ร้านเหล่านั้นใช้ระบบฟรีๆ เพื่อเรียนรู้วิธีการทำงานจริง ในขณะเดียวกัน ก็เริ่มกระแสความคิดแบบสตาร์ตอัพขึ้นในเมืองไทย ทีมงานก็พยายามพัฒนาตนเองและเรียนรู้เพื่อเข้าแข่งขัน จนได้รับรางวัลเป็นตัวแทนไปแข่งในต่างประเทศ เหมือนได้เปิดโลกใหม่ ได้รู้จักคนมากขึ้น ได้รับคำแนะนำดีๆ และโอกาสดีๆ จากร้านอาหารต่างๆ ทำให้เริ่มนำระบบออกสู่ตลาดได้ในกลางปี 2558

จนตอนนี้มีร้านอาหารที่ใช้งานระบบเรามากกว่า 100 สาขาในไทย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย อีกทั้งยังถูกนำไปใช้ในงานอีเว้นต์ใหญ่ประจำปีใจกลางกรุงเทพฯ ด้วยเช่นกัน และนี่ก็คือจุดเริ่มต้นของพวกเรา”

ชี้จุดเด่นของ 2 แอพ
เจ้าตัวบอกว่า ในประเทศไทยปัจจุบันนี้ยังไม่มีแอพที่เหมือนกันโดยตรง ส่วนใหญ่จะบริการเพียงแค่การจัดการภายในร้านอาหาร หรือเป็นฐานข้อมูลร้านค้าให้กับลูกค้าเท่านั้น แต่ FoodStory ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมต่อร้านอาหารและผู้ชอบรับประทานอาหาร ให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยตรง เช่น การจองโต๊ะ หรือสั่งอาหารไปทานที่บ้าน หรือที่ทำงาน

คุณแจ๊ค อธิบายรายละเอียดว่า FoodStory มีทั้งหมด 2 แอพคือ 1) FoodStory Owner สำหรับเจ้าของร้านอาหารบนไอแพด คือระบบบริหารร้านอาหารที่รวมระบบบันทึกยอดขาย (Point-Of-Sale) แบบเคลื่อนที่ ที่ใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพ สามารถให้เจ้าของร้านจัดการร้านและเข้าใจเกี่ยวกับธุรกิจของตัวเองได้ทุกที่ทุกเวลา สามารถรองรับธุรกิจร้านอาหารได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจร้านอาหารแบบคาเฟ่หรือบุฟเฟ่ต์ จนถึงระดับภัตตาคารอาหาร เริ่มต้นง่ายด้วยไอแพดเพียง 1 เครื่องก็สามารถใช้ระบบจัดการร้านอาหารของ FoodStory ได้แล้ว

ระบบการจัดการภายในร้านมีรูปแบบการใช้งานที่สวยและสามารถเข้าใจง่าย ใช้เวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็สามารถใช้งานระบบการจัดการร้านได้แล้ว FoodStory ออกแบบมาสำหรับธุรกิจร้านอาหารโดยเฉพาะ เพื่อช่วยให้การดำเนินธุรกิจร้านอาหารเป็นเรื่องง่าย คุ้มค่า และตอบสนองความต้องการของธุรกิจร้านอาหารได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ เช่น การสั่งรายการอาหารแบบไร้สาย ที่ “สามารถทำทุกอย่างได้ที่โต๊ะโดยไม่ต้องเดินกลับไปกลับมา”

อีกทั้งมีระบบการจองโต๊ะ ระบบบอกสถานะของอาหาร ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานที่ร้าน หรือห่อกลับ ทำให้เรื่องการสั่งอาหารเป็นเรื่องง่าย สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งสามารถเชื่อมโยงไปยังระบบสต๊อกของสินค้าซึ่งจะทำให้การควบคุมต้นทุนอาหารได้ชัดเจน รวมทั้งมีระบบรักษาความปลอดที่สูงด้วยการจัดเก็บข้อมูลบนเซิร์ฟเวอร์ (Cloud) ทำให้เจ้าของร้านมั่นใจได้ว่า ข้อมูลทั้งหมดของร้านจะปลอดภัย และเข้าถึงรายงานได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถวิเคราะห์วางกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อผลกำไรสูงสุด

2) FoodStory Customer สำหรับลูกค้าบนสมาร์ตโฟน จะอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าในการหาร้านอาหาร อ่านรีวิว และติดตามข้อมูลของร้านอาหารได้แบบเรียลไทม์ เช่น โปรโมชั่น รายการอาหาร หรือระบบการจองโต๊ะล่วงหน้า ที่แสดงโต๊ะว่างในแต่ละตารางเวลาของร้านอาหารนั้นๆ การติดต่อสื่อสารกับร้านอาหารไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป อยากได้บรรยากาศแบบไหน อาหารประเภทอะไร ราคาเท่าไหร่ หรือรีวิวเรื่องการบริการหรือรสชาติอาหารของร้านนั้นๆ ได้แบบตรงใจ เพียงแค่กดสั่งผ่านสมาร์ตโฟน

คิดค่าบริการเป็นรายเดือน

สรุปคือลูกค้าจะได้รับความสะดวกสบายที่มากขึ้น พนักงานจะสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดย FoodStory เป็นสื่อกลางที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้ทั้งร้านอาหารและลูกค้า จึงเน้นความง่ายดายในการใช้งาน ไม่ใช่เพิ่มภาระให้พนักงานภายในร้านให้ทำงานยากขึ้นกว่าตอนที่ไม่มีระบบ อีกทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ ความทันสมัย

คุณแจ๊ค บอกว่า ในส่วนแอพ FoodStory Owner มีฐานลูกค้ามากกว่า 120 สาขาในเมืองไทย สิงคโปร์ และออสเตรเลีย ขณะที่แอพ FoodStory Customer กำลังจะเริ่มให้สามารถสั่งอาหารได้ภายในเดือนมิถุนายนนี้

กรณีอัตราค่าบริการสำหรับร้านอาหารจะคิดค่าบริการรายเดือนเท่านั้น ขึ้นอยู่กับประเภทของร้านค้าและบริการที่ต้องการ โดยเริ่มต้นแค่เดือนละพันนิดๆ สูงสุดอยู่ที่เดือนละ 3,000 กว่าบาท ซึ่งเป็นราคาทั่วไปตามท้องตลาด ไม่ได้แพงหรือถูกเกินไป

เจ้าของและผู้ก่อตั้งแอพ “FoodStory” พูดถึงฟีดแบ็กจากงานสตาร์ตอัพที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อไม่นานมานี้ว่า ได้ผลตอบรับที่ดีเกินคาด เพราะมีผู้สนใจเข้าชมอย่างล้นหลาม ทั้งผู้ที่สนใจนำแอพไปใช้ในร้านอาหาร และรอใช้บริการส่งอาหาร อีกทั้งยังรวมถึงโอกาสที่จะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ที่จะสามารถสร้างคุณค่าร่วมกันให้กับผู้ประกอบการร้านอาหารอีกมากมาย

เขายังระบุถึงแผนธุรกิจในอนาคตว่า มีเป้าหมายหลายอย่าง ประการแรกต้องการสร้างสังคมผู้ประกอบการร้านอาหาร เรียนรู้และแบ่งปัน เพื่อพัฒนาวงการร้านอาหารอย่างต่อเนื่อง สร้างเครือข่ายพันธมิตรเพื่อผู้ประกอบการร้านอาหาร และขยายตัวแทนจัดจำหน่ายเพื่อเข้าถึงร้านอาหารทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

นับว่า แอพพลิเคชั่น “FoodStory” เป็นที่ชื่นชอบและถูกอกถูกใจทั้งในส่วนของร้านอาหารและลูกค้า เพราะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับทั้ง 2 ฝ่าย ไม่ต้องไปเสียเวลานั่งรอให้หงุดหงิด ทางร้านเองสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกว่าตอบโจทย์ทั้งของผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการได้อย่างลงตัวจริงๆ