จุดความร้อน พม่า พุ่ง 2,034 จุด ลมตะวันตกหอบเข้าไทย ภาคเหนืออ่วม ฝุ่นเกินมาตรฐานทุกพื้นที่ !!!

วันที่ 24 มีนาคม กรมควบคุมมลพิษ(คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีคพ.เปิดเผยว่า วันนี้ตรวจสอบสภาพอากาศพบว่า ภาคเหนือทุกจังหวัดอากาศแย่ที่สุดในรอบปี โดยพบฝุ่นละอองสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานทั้ง 9 จังหวัด โดยค่าสูงสุดที่ตรวจวัดได้ อยู่ที่ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง วัดได้ 237 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนจังหวัดอื่นๆ ล้วนแต่สูงเกินค่ามาตรฐานคือ 120 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตรทั้งสิ้น วันนี้ ทุกพื้นที่ภาคเหนือ ทรุดหนักหมดเลย สาเหตุหลักมาจาก 2 เรื่องคือ ลมที่พัดมาจากพื้นที่ฝั่งตะวันตก หรือจากประเทศเมียนมา รวมทั้งมีลมจากพื้นดินดันขึ้นข้างบน ข้อมูลจาก สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ จิสดา แจ้งมาว่า ภาพรวมการเกิดจุดความร้อนในพื้นที่ ชายแดนไทยเมียนมา วันนี้ มี 234 จุด ส่วนที่ประเทศเมียนมาทั้งประเทศมีมากถึง 2,034 จุด อีกประการคือ ยังคงการลักลอบเผาเพื่อหาของป่า ล่าสัตว์ และการเตรียมพื้นที่เกษตร

“เรื่องนี้ผมได้ทำหนังสือแจ้งไปทางรัฐบาลเมียนมาแล้ว เพราะเรามีความร่วมมือกันอยู่ ซึ่งเราก็เข้าใจดีว่า การจัดการปัญหาหมอกควันพื้นที่ชายแดน ที่เป็นที่อยู่ของชนกลุ่มน้อยนั้นจัดการค่อนข้างลำบาก และเมื่อมีข้อตกลงกันในความร่วมมือ ก็ต้องช่วยกันจัดการ อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้ไปโทษประเทศใดประเทศหนึ่งว่าเป็นต้นเหตุ เนื่องจากทุกประเทศที่แสดงความจำนงในความร่วมมือลดปริมาณหมอกควัน ก็ต้องช่วยกัน ซึ่งในส่วนของประเทศไทยนั้น ยอมรับว่า ยังมีบางพื้นที่ที่ยังมีการลักลอบเผากันอยู่ แต่จากมาตรการที่ทำมาโดยตลอดนั้น ผมพอใจระดับหนึ่ง เพราะสามารถกำจัด และลดปริมาณการเกิดหมอกควัน น้อยกว่าปีที่แล้วได้มาก”นายจตุพร กล่าว

อธิบดีคพ. กล่าวว่า สำหรับ การคาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น กรมอุตุนิยมวิทยา แจ้งว่า บริเวณภาคเหนือจะมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน ไม่มีฝนในพื้นที่ ทำให้ฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น หากเกิดสถานการณ์ไฟป่า หรือการเผาในพื้นที่ ก็จะส่งผลให้ฝุ่นละอองสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งนี้ในช่วงระหว่างวันที่ 25-29 มีนาคม บริเวณอากาศแปรปรวนที่ภาคเหนือ และมีโอกาสเกิดพายุฤดูร้อน มีลมกรรโชคแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ อาจทำให้ปริมาณฝุ่นในบรรยากาศลดลงได้เล็กน้อย คพ.จึงขอให้ทุกจังหวัดระดมสรรพกำลังเฝ้าระวังการเกิดไฟ และดับไฟอย่างต่อเนื่อง รวมถึงควบคุมกิจกรรมอื่นๆที่อาจทำให้เกิดฝุ่นขึ้นในพื้นที่ และขอให้ชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์หมอกควันและไฟป่าที่เริ่มสูงขึ้นและแนะนำการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ รวมทั้งขอความร่วมมือจากประชาชนในการงดเผาป่าและเศษวัสดุการเกษตรในช่วงนี้ต่อไป

 

ที่มา มติชนออนไลน์