เปิดประตู สินค้าไทยสู่ตลาดอาหรับ สร้างโอกาสใหม่ โชว์พลัง Soft Power

เปิดประตู สินค้าไทยสู่ตลาดอาหรับ สร้างโอกาสใหม่ โชว์พลัง Soft Power

คุณอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท เวก้า กรุ๊ป ผู้จัดงานแสดงสินค้าในตะวันออกกลางได้เปิดเผยว่า บริษัท เวก้า อินเตอร์เทรด แอนด์ เอ็กซิบิชั่นส์ ดูไบ ได้ปั้น 3 โครงการใหญ่ให้เป็นไฮไลต์สำคัญในงาน มหกรรมหมู่บ้านนานาชาติ โกลบอล วิลเลจ ดูไบ 2023-2024 ณ นครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แก่ ตลาดน้ำ ตลาดรถไฟ และถนนสายเอเชีย

โดย โกลบอลวิลเลจ ดูไบ เป็นงานเทศกาลแสดงสินค้าและวัฒนธรรมนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยรวมหมู่บ้านจากทั่วโลกกว่า 30 ประเทศไว้ในงานเดียว จัดต่อเนื่องยาวนาน 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 18 ตุลาคม 2566 – 28 เมษายน 2567 เป็นเวทีระดับโลกที่ผู้ประกอบการไทยนำเสนอสินค้าและบริการให้กับผู้ซื้อและนักธุรกิจชาวอาหรับรวมทั้งนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก

สำหรับโครงการ “ตลาดน้ำ” คุณอัครวุฒิ บอกว่า ได้ริเริ่มจากแนวคิดตลาดน้ำไทยซึ่งเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นำมาประยุกต์สร้างใหม่โดยรวมร้านอาหารไทย ที่หลากหลายต่างๆ มาอยู่ที่พื้นที่เดียวกันด้วยแนวคิด รูปแบบ และจำลองเอกลักษณ์ของตลาดน้ำไทยที่ลือชื่อ การจัดครั้งนี้ได้รวมร้านค้า-ร้านอาหาร จากเมืองไทยมากมายกว่าครั้งก่อนๆ

คุณอัครวุฒิ ตั้งศิริกุศลวงศ์ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท เวก้า กรุ๊ป ผู้จัดงานแสดงสินค้าในตะวันออกกลาง (สูทน้ำเงิน)

สร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับชาวอาหรับและนักท่องเที่ยวที่แวะเวียนเข้ามาได้ซึมซับและเรียนรู้วัฒนธรรมไทยท่ามกลางบรรยากาศตลาดน้ำและอาหารเลิศรสหลากเมนู ชู Soft Power วิถีไทยให้เป็นที่ประทับใจทั่วอาหรับและทั่วโลก

“ตลาดน้ำ” ได้สร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยได้เป็นที่รู้จัก และเติบโตอย่างก้าวกระโดด อาทิ มะพร้าวไทย Coco by Koi มะม่วงไทย A mango Bangkok Grill ร้านอาหาร Famteema Kitchen Ploy zaab  Maam Su Snack Krua Thai Talay Thai เป็นต้น

สำหรับไฮไลต์ต่อมา “ตลาดรถไฟ” คุณอัครวุฒิ กล่าวว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตลาดรถไฟไทย โดยคงลักษณะโครงสร้างรถไฟ แต่ดัดแปลงใหม่ คือ จำลองโบกี้รถไฟ เป็นร้านค้าขนม ของหวาน และเครื่องดื่มต่างๆ จากทั่วโลก เป็นที่ชื่นชอบได้รับการตอบรับจากผู้เข้าชมเป็นอย่างดี ประสบความสำเร็จและมีร้านไทยหลายรายที่มาสร้างชื่อในงานนี้ อาทิเช่น Phuketique, COCOMango, Mikucha  เป็นต้น

และไฮไลต์สุดท้ายคือ “ถนนสายเอเชีย” ซึ่งเวก้าฯ ได้ริเริ่มจำลองบรรยากาศของเส้นทางสายไหม รวมชาติต่างๆ ทั่วเอเชียเชื่อมต่อวัฒนธรรมเข้าด้วยกัน ภายในงานตื่นตาตื่นใจกับสินค้านานาชาติที่สร้างประสบการณ์สดใหม่ในตลาดใหญ่แห่งนี้

ไฮไลต์

คุณอัครวุฒิ กล่าวเสริมว่า ทั้ง 3 โครงการ ในโกลบอล วิลเลจ ดูไบ มีกระแสตอบรับที่ดี ผู้ประกอบการหลายรายสามารถปักธงในพื้นที่ตะวันออกกลางและขยายฐานไปยังประเทศอื่นๆ ได้อย่างงดงาม กล่าวได้ว่า ตลาดน้ำ ตลาดรถไฟ ตลาดเอเชีย บุกเบิกสร้างความสำเร็จให้กับผู้ประกอบการไทยและนานาชาติเอเชีย ให้แสดงพลังซอฟต์พาวเวอร์วิถีไทยสู่ตะวันออกกลางได้อย่างน่าประทับใจ

“เรากำลังเปิดรับผู้ประกอบการไทยที่อยากมาสัมผัสบรรยากาศการค้ารูปแบบใหม่ ได้พบกับลูกค้าอาหรับและจากทั่วโลก ผู้สนใจขอข้อมูลตลอดจนเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งต่อไปที่จะจัดช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ถึงเมษายน ปี 2568 อีเมลติดต่อมายัง [email protected] อีกทั้งยังเข้าชมข้อมูลโครงการต่างๆ ในตะวันออกกลาง ได้ที่ www.vegainter.com” คุณอัครวุฒิ กล่าว