วัยรุ่นสร้างตัว พลิกความชอบสู่ธุรกิจติดเทรนด์ กล่องสุ่ม Bear Blind Box

วัยรุ่นสร้างตัว พลิกความชอบสู่ธุรกิจติดเทรนด์ กล่องสุ่ม Bear Blind Box

นักธุรกิจอายุน้อยที่ล้มแล้วลุก สู้กับความล้มเหลว เก็บทุกประสบการณ์ที่จะช่วยสร้างความสำเร็จ และเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับความชอบ สู่การเป็นเจ้าของธุรกิจร้านกล่องสุ่ม Bear Blind Box ธุรกิจที่กำลังติดเทรนด์มาแรง วันนี้จะพาทุกคนมารู้จักกับหนุ่มน้อยนักธุรกิจ ที่ควบสถานะนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ ม.รังสิต อีกด้วย

หมีพูห์-โรจนินทร์ หอวัฒนกุลพงศ์ เล่าให้ฟังว่า ความสำเร็จของผมเริ่มต้นจากศูนย์ หลายคนอาจมองว่าเริ่มธุรกิจได้เพราะครอบครัว ก็คงปฏิเสธไม่ได้ เพราะเริ่มจากแม่ของผมจริง แต่ไม่ใช่เงินแม่นะ คือคำสอนหรือการบ่นของแม่ต่างหาก ที่ว่า “อยากได้ อยากมีอะไร ก็ต้องทำงานหาเงินมาซื้อเอง” นั่นคือจุดเริ่มต้นของการมองหารายได้

หมีพูห์-โรจนินทร์ หอวัฒนกุลพงศ์

ลองผิดลองถูกมาทุกอย่าง ตั้งแต่การไลฟ์ขายเสื้อยืดวินเทจ ตัวละ 10 บาท 20 บาท ขายรองเท้ามือสอง ขายของในเกมบ้าง อะไรทำแล้วได้กำไรทำหมด ด้วยความที่ยังเด็ก อ่อนประสบการณ์ บางอย่างก็เจ๊ง บางอย่างก็รุ่ง เรียนรู้ว่าความสำเร็จไม่ได้เรียบง่าย แต่ประสบการณ์สอนให้เรียนรู้และรู้จักตัวเองมากขึ้น ว่าชอบวงการธุรกิจ การค้าขาย

พอเก็บเงินได้ในระดับหนึ่ง เริ่มหาธุรกิจใหม่ๆ ที่จะสร้างกำไรได้มากขึ้น ด้วยยุคสมัยที่มีธุรกิจเพิ่มขึ้นใหม่เรื่อยๆ เราต้องไว ทันกระแส และมีความอดทน แต่พอความอดทนไม่พอ ไปได้ไม่สุดสักทาง

จนมาถึงธุรกิจปัจจุบันเริ่มคิดให้มากขึ้น ไปทีละขั้นตอน ใส่ใจให้มาก ไปส่งสินค้าด้วยตนเอง พูดคุยกับลูกค้าตลอดการซื้อขาย จนกระทั่งเปิดหน้าร้านมีฐานลูกค้ามากขึ้น สำหรับตน ความล้มเหลวที่เคยเจอไม่มีผลต่อการเริ่มต้นใหม่ ไม่กลัวที่จะเสี่ยงอีกครั้งแม้ว่าจะต้องเริ่มนับหนึ่ง เพราะการทำธุรกิจมีความเสี่ยงเสมอ อยู่ที่จะมีความกล้ามากพอหรือเปล่าเท่านั้นเอง

วัยรุ่นสร้างตัว

“ธุรกิจกล่องสุ่ม คือ การเพิ่มดีเทลของสินค้า เพิ่มความอยากรู้ของลูกค้า ว่าจะได้สินค้ารูปแบบไหนกลับไป โดยสินค้าที่ขาย คือ  Art Toy ของเล่นและของสะสมในรูปแบบศิลปะ ที่กำลังเป็นกระแสในปัจจุบัน จริงๆ ธุรกิจนี้เกิดจากความชอบของผม เมื่อก่อนผมชอบสะสมฟิกเกอร์โมเดล มีซื้อมาขายไป จนเริ่มเอะใจว่าเราก็ได้กำไรจากความชอบนี้ไม่ใช่น้อย ทำไมเราถึงไม่ขายเองเลย” หมีพูห์ บอกอย่างนั้น

และว่า พอเปิดหน้าร้าน เวลามีคอลเล็กชันใหม่มา เราได้เปิดเล่นก่อนด้วย เป็นการโชว์สินค้าให้ลูกค้าเห็น และราคาที่ได้ถูกกว่าที่เราไปซื้อเขา เพราะสั่งตรงมาจากจีนเอง สำหรับจุดแข็งของร้านคือ การเข้าใจและเป็นกันเองกับลูกค้า เราเปิดร้านเพื่อแลกเปลี่ยนความชอบกัน อะไรที่แพงไปก็จะแนะนำลูกค้าว่าเป็นเพราะอะไร  ลูกค้าเองเลยเชื่อใจและมาซื้อที่ร้านมากขึ้น

“ขอบคุณคณะบริหารธุรกิจ ม.รังสิต ที่ช่วยปรับ Mind Set ทางธุรกิจ เป็นที่ปรึกษาในบางอย่างที่ยังไม่รู้หรือรู้แล้วแต่ยังไม่สุด ฉะนั้น ก่อนเริ่มธุรกิจจึงต้องเรียนรู้และศึกษา เพื่อป้องกันให้เราเสียหายน้อยที่สุด” หมีพูห์ บอกอย่างนั้น

ของในร้าน

สำหรับมุมมองการทำธุรกิจ หมีพูห์ กล่าวว่า การเริ่มธุรกิจต้องอาศัยความกล้าลงมือทำ การที่ยังเรียนไม่จบไม่ใช่ปัญหา เพราะต้องลงมือทำถึงจะรู้ผลของมัน ประสบการณ์น้อยต้องพยายามให้มาก สามารถเรียนควบคู่กันไปได้ แต่ต้องแบ่งเวลาให้เป็นด้วย ส่วนตัวถ้าวันไหนมีเรียนจะให้น้องที่ร้านช่วยดูให้ เลิกเรียนก็เข้ามาดูร้าน การจ้างลูกน้องเป็นสิ่งที่ทำให้เรียนรู้ว่ามันไม่ง่าย พอมาอยู่ในจุดที่เป็นหัวหน้าคน ต้องบริหารให้เป็น การคำนวณค่าสินค้า ค่าจ้าง รวมถึงการเลือกคนเข้ามาช่วยดูแลร้าน ต้องเข้าใจและไว้ใจได้

“ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี ในวัย 23 ปี วันแรกที่เปิดร้านคิดหนักเลย เพราะต้อนรับด้วยความเงียบกริบ ไม่มีลูกค้าเลย คิดว่าร้านจะไปรอดไหม ก็แอบกังวล แต่พอได้เห็นตอนนี้ ภูมิใจและดีใจที่ตัดสินใจลงมือทำ การได้เห็นความสำเร็จของตัวเอง ทำให้ลืมความเหนื่อยที่ผ่านมา ความล้มเหลวยังคงเป็นความเศร้าที่จดจำได้ แต่เป็นแรงผลักดันให้พยายามให้มากกว่าเดิม อยากขอบคุณตัวเองมากๆ ที่ไม่ท้อไปก่อน” หมีพูห์ บอก

จัดของ

และว่า นี่เป็นเพียงก้าวหนึ่งในการเดินทางสายธุรกิจของเขา อนาคตอยากขยายเพิ่มอีก 2-3 สาขา เพื่อรองรับกับของที่นำมาขาย ที่สำคัญ ตั้งใจว่าอยากสร้างคอมมูนิตี้ แหล่งรวมคนที่ชอบ Art Toy หรืองานศิลปะทั่วไป มาร่วมพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้กัน

“เริ่มธุรกิจนี้จากความชอบ จึงอยากสร้างความทรงจำและประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบในสิ่งเดียวกัน ถึงจะต้องใช้เวลา แต่เป็นเป้าหมายที่ตั้งใจ และจะทำให้ได้ ฝากสำหรับน้องๆ ที่ยังไม่กล้าลงมือทำ แนะนำให้เริ่มจากจุดเล็กๆ ก่อน ไม่ต้องรีบ เริ่มจากความชอบ และสนุกกับสิ่งนั้น ขอแค่กล้าลงมือทำและกล้าที่จะเสี่ยง และจำไว้เสมอว่าทุกอย่างต้องมีอุปสรรค” หมีพูห์ กล่าวทิ้งท้าย