เอพีรายงานเรื่องราวของสุนัขที่หวิดจะตกเป็นอาหารในประเทศไทย แต่โชคดีได้รับความช่วยเหลือจนตอนนี้มีบ้านใหม่ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐอเมริกา

คาเรน ควิกลีย์ และมิเชล ไวริช ช่วยกันระดมเงิน 11,000 ดอลลาร์ หรือราว 385,000 ผ่านเว็บไซต์จนช่วยเหลือและเลี้ยงดู สุนัขพันทาง เพศเมีย อายุ 2 ปี ชื่อเทเรซา ให้มันรอดพ้นโรงเชือดสุนัขในไทยมาได้ และเข้ารับการรักษาอาการเจ็บปางตาย

“โชคร้ายที่ในประเทศไทยยังมีคนกินเนื้อสุนัขอยู่ และคนที่จะเชือดสุนัขตัวนี้ก็กำลังตัดหัวมัน” คาเรนกล่าวเล่าถึงอาการบาดเจ็บรุนแรงของเทเรซา ตอนที่มันถูกสับเข้าที่จมูกและส่วนหน้าของกราม

 เงินที่ได้รับบริจาคมาใช้สำหรับเป็นค่าเดินทางและค่าผ่าตัดเพื่อนำฟันส่วนที่เสียออก และปรับลิ้นของมันใหม่

รายงานระบุว่า สำหรับประเทศไทย การฆ่าและขายเนื้อสุนัขเป็นสิ่งผิดกฎหมายก็จริง แต่กลับเป็นสินค้าส่งออกได้โดยไม่ต้องมีใบอนุญาต ซึ่งในภูมิภาคนี้ ประเทศที่นิยมกินเนื้อสุนัขก็คือเวียดนาม

ตอนนี้เทเรซามีชีวิตที่สุขสบายเหมือนสุนัขทั่วไป ในบ้านของควิกลีย์ เมืองซีวิลล์

“มันทำทุกอย่างได้ และนั่นคือสิ่งที่พิเศษมากของเทเรซา มันมีความสุขจริงๆ ตื่นขึ้นมาอย่างมีความสุข ชอบวิ่งเล่นในสนาม” นายหญิงให้สัมภาษณ์ (http://6abc.cm/2mzwdO6)

ดร.จอห์น ลูอิส สัตวแพทย์ในร็อบบินสวิลล์ กล่าวว่า เทเรซาใช้ชีวิตมีความสุขได้ แม้ว่าจะมีอุปสรรคจากอาการของมัน ปกติแล้วมันจะหายใจทางปาก แต่ก็หายใจทางจมูกได้บ้างเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิต มันกินและดื่มน้ำได้ เล่นของเล่นได้ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญทีเดียว

ตอนนี้ควิกลีย์ต้องการขอใบประกอบวิชาชีพให้เทเรซาเป็นสัตว์บำบัด เพื่อให้มันทำหน้าที่ให้กำลังใจเด็กๆ ที่มีอวัยวะผิดส่วนในโรงพยาบาลเด็กที่ฟิลาเดลเฟีย