เคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำรอบ 2 ของปี ขึ้นแค่ 10 จังหวัด ไม่ฟันธงถึง 400 บาทต่อวัน

เคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำรอบ 2 ของปี ขึ้นแค่ 10 จังหวัด ไม่ฟันธงถึง 400 บาทต่อวัน
เคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำรอบ 2 ของปี ขึ้นแค่ 10 จังหวัด ไม่ฟันธงถึง 400 บาทต่อวัน

เคาะแล้ว! ค่าจ้างขั้นต่ำรอบ 2 ของปี ขึ้นแค่ 10 จังหวัด ไม่ฟันธงถึง 400 บาทต่อวัน

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 คณะกรรมการค่าจ้าง (บอร์ดค่าจ้าง) ชุดที่ 22 ที่มี นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน ประชุมหารือประจำเดือนที่กระทรวงแรงงาน เพื่อพิจารณาสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ และแนวทางการศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ โดยใช้เวลาหารือนานกว่า 2 ชั่วโมง

ทั้งนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ ตามที่คณะอนุกรรมการวิเคราะห์และปรับปรุงสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ เสนอและเห็นชอบแนวทางการศึกษาความเป็นไปได้ในการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามพื้นที่

นายไพโรจน์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 ครั้งที่ 2/2567 ว่า การประชุมคณะกรรมการค่าจ้างฯ วันนี้มีมติให้มีการปรับสูตรการคำนวณอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ โดยคำนวณตามรายพื้นที่และประเภทกิจการ ซึ่งต้องพิจารณาจากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันรวมถึงอัตราเงินเฟ้อ

ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบให้ 10 จังหวัดพื้นที่ท่องเที่ยว ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ภูเก็ต ชลบุรี เชียงใหม่ สุราษฎร์ธานี กระบี่ สงขลา พังงา ประจวบคีรีขันธ์ และระยอง ยกตัวอย่างพื้นที่กรุงเทพฯ ในเขตปทุมวัน เขตสาทร จ.พังงา ในพื้นที่ อ.เขาหลัก จ.สงขลา อ.หาดใหญ่ หรือ จ.ชลบุรี ใน ต.แสนสุข

โดยให้สำรวจอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับอยู่ตามมาตรฐาน ค่าครองชีพ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นจำเป็นของลูกจ้าง และข้อเท็จจริงของสังคมเศรษฐกิจ ตลอดจนความสามารถในการจ่ายของนายจ้าง ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดเล็ก (SME) พร้อมกันนี้ ให้ทางอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัด สำรวจในจังหวัดของตนเองว่ามีพื้นที่ใดที่ควรได้รับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ และควรปรับเพิ่มในอัตราเท่าไร โดยเฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยวและบริการ จากนั้นให้ส่งผลการสำรวจกลับเข้าที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างฯ ในวันที่ 26 มีนาคมนี้

นายไพโรจน์ กล่าวต่อไปว่า ยืนยันว่าการพิจารณาสูตรค่าจ้างครั้งนี้ เป็นมิติใหม่ของการคิดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยครั้งนี้มีการคำนวณจากรายพื้นที่หรือคิดตามประเภทกิจการ อย่างไรก็ตาม การปรับเพิ่มอัตราค่าจ้างครั้งนี้จะพยายามทำให้เสร็จตามไทม์ไลน์ คือประกาศใช้อัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ในเดือนเมษายน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีพื้นที่เป้าหมายใน 10 จังหวัดเท่านั้นหรือไม่ที่จะได้รับการปรับค่าจ้างครั้งที่ 2 ประจำปี 2567 นายไพโรจน์ กล่าวว่า ก็จะเป็นแนวทางนี้แต่อาจจะมากกว่านี้หรือไม่ก็ต้องดูการพิจารณาของ 10 จังหวัดนี้ก่อน

ส่วนจะได้ถึง 400 บาทต่อวันหรือไม่นั้นจะพยายามทำให้ดีที่สุดแต่ไม่ขอพูดไปก่อน ซึ่งจะต้องทำตามข้อเท็จจริงที่ได้มาจากการสำรวจ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีแรงกดดันจากรัฐบาลแต่อย่างใด พร้อมย้ำว่า การพิจารณาครั้งนี้มีการระดมสมองจากผู้ที่เกี่ยวข้อง

ด้าน นายอรรถยุทธ ลียะวณิช ผู้แทนฝ่ายนายจ้างในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 กล่าวว่า วันนี้เป็นการพิจารณาพิจารณาสูตรใช้ในปี 2567 ซึ่งมีการปรับสูตรมาโดยตลอด จนวันนี้อนุการพิจารณามื้อเช้าได้สูตรใหม่ขึ้นมาซึ่งปรับปรุงให้เกิดความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายมากขึ้น เพื่อที่จะใช้ในปี 2567 นี้

เมื่อถามว่า หากจะต้องมีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำให้ถึง 400 บาท จะต้องมีการเพิ่มอย่างน้อย 30 บาท ทางฝ่ายนายจ้างมีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร นายอรรถยุทธ กล่าวว่า การจะปรับขึ้นจะต้องมีเหตุและผล โดยปกติจะมีการปรับขึ้นปีละ 1 ครั้ง นอกจากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นเช่นเงินเฟ้อขึ้นมากกว่า ร้อยละ 5 และเป็นข้อมูลที่ทางจังหวัดส่งเข้ามาว่าควรจะปรับหรือไม่ ดังนั้นหากมีเหตุปัจจัย ที่สามารถทำให้ค่าจ้างขึ้นเราก็รับได้ ซึ่งตั้งแต่ที่ตนอยู่ในคณะกรรมการค่าจ้างก็ยอมรับการปรับค่าจ้างถ้ามีเหตุและผล

ทั้งนี้ หากมีการปรับค่าจ้างขึ้นถึงวันละ 400 บาทนั้น ทางธุรกิจเอสเอ็มอี ก็มีความกังวลอยู่ แต่การจะขึ้นหรือไม่ขึ้นนั้น ก็ต้องมีเหตุปัจจัยว่าสามารถทำได้หรือไม่

ขณะที่ นายวีรสุข แก้วบุญปัน ผู้แทนฝ่ายลูกจ้างในคณะกรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 กล่าวว่า ที่พิจารณาอัตราค่าจ้างในวันนี้คิดว่าเป็นธรรมแล้ว ซึ่งตอนนี้กระทรวงแรงงานกำลังสำรวจตัวแปรของค่าจ้างแต่ละจังหวัดที่จะไม่เท่ากันแล้ว รวมถึงความแตกต่างของแต่ละสาขาอาชีพ อย่างเช่น จ.ชลบุรี ที่มีทั้งอุตสาหกรรมการผลิตและการแหล่งท่องเที่ยว ก็จะมีการคำนวณค่าจ้างขั้นต่ำซึ่งจะต่างออกไป

ที่มา มติชนออนไลน์