ภาคประชาชน เสนอ 11 ข้อ ปรับร่าง พ.ร.บ.กัญชา หวังปกป้องประชาชน

ภาคประชาชน เสนอ 11 ข้อ ปรับร่าง พ.ร.บ.กัญชา หวังปกป้องประชาชน

ตามที่กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้เชิญภาครัฐ เอกชน ตลอดจนประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงความคิดเห็นต่อร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. …. เมื่อเร็วๆ นี้

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย กล่าวว่า โอกาสดังกล่าว ทางภาคประชาชน ได้นำเสนอไว้ใน 11 ประเด็น ดังนี้

1. นิยามของการใช้กัญชาในรูปแบบสันทนาการยังเป็นปัญหา เนื่องจากเขียนนิยามไว้แต่ไม่มีมาตรการปกป้องประชาชนที่ชัดเจน จึงเสนอให้มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม อีกทั้งการนิยามเช่นนี้จะทำให้มีการตีความของเจ้าหน้าที่เพื่อจับประชาชน

2. เสนอให้เพิ่มมาตราที่ให้สิทธิของครัวเรือนในการใช้กัญชาในระบบภูมิปัญญา

3. เสนอให้กรรมการกัญชา กัญชง มีตัวแทนของภาคประชาชนนอกจากตัวแทนของรัฐ

4. เสนอให้มีการเขียนนิยามใหม่ เพื่อปกป้องผู้ที่ไม่ใช้กัญชาแทนนิยามสันทนาการ ที่กำหนดไว้ในกฎหมายของรัฐบาล เพื่อให้เกิดมาตรการที่ชัดเจนขึ้น

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย

5. การขออนุญาต การต่อใบอนุญาต หรือการอุทธรณ์ ไม่ควรใช้ระยะเวลานานเกินไปโดยเสนอให้อยู่ในกรอบไม่เกิน 60 วัน

6. ในกระบวนการทำกัญชาในทุกขั้นตอนจะต้องกระทำผ่านใบอนุญาต ทั้งการปลูก การผลิต การขาย นำเข้า ส่งออก

7. มีมาตรการในการกำหนดวิธีการขาย สถานที่ขาย และ กำหนดบุคคลที่กฎหมายคุ้มครองจากกัญชา

8. มีมาตรการห้ามใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ แต่นิยามสันทนาการมีปัญหา รวมทั้งยังไม่มีมาตรการที่ชัดเจนว่าสิ่งใดเป็นสันทนาการ สิ่งใดเป็นสุขภาพ จึงเสนอให้ใช้นิยามใหม่เพื่อให้มีมาตรการที่ชัดเจน

9. เสนอหลักการว่า ควรปกป้องผู้ไม่ใช้กัญชา แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิผู้ใช้กัญชา

10. มีข้อเสนอให้เขียนอำนาจของเจ้าหน้าที่ให้สอดคล้องกับสถานะของกัญชา เนื่องจากในร่างกฎหมายเป็นการให้อำนาจเจ้าหน้าที่เสมือนว่ากำลังปราบปรามยาเสพติดชนิดร้ายแรง

11. บทกำหนดโทษมีความรุนแรงเกินไป เหนือกว่าบุหรี่และเหล้าหลายเท่าตัว และบางบทลงโทษยังรุนแรงกว่ายาเสพติด จึงเสนอให้การลงโทษสอดคล้องกับข้อเท็จจริง

เรียกร้อง

“หัวใจสำคัญที่เสนอคือ ให้กฎหมายกัญชาเป็นแม่แบบที่ชี้ทิศทางของกัญชาไทย โดยให้มาตรการที่เป็นการรักษาภูมิปัญญาการใช้กัญชาในทางยาของครัวเรือน และให้ออกมาตรการควบคุมที่ตรงกับข้อเท็จจริงโดยเฉพาะมาตรการคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้ยังเสนอว่า ห้ามมีมาตรการกีดกันประชาชนในการปลูก และให้กำหนดการคุ้มครองผู้บริโภคที่มีมาตรการชัดเจน เพื่อไม่ให้เกิดการตีความเพื่อแสวงหาผลประโยชน์” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว

และว่า เครือข่ายฯ ต้องการ พ.ร.บ. เพราะถ้าไม่มี กัญชา อาจถูกผลักไปสู่ยาเสพติดหรือการเข้าถึงที่ยากขึ้น ทั้งนี้อย่าลืมว่า กัญชา ยังอยู่ในเงื่อนไขของกฎหมายสหประชาชาติ การมีกฎหมายระดับ พ.ร.บ. จึงจะเป็นหลักประกันว่า ประชาชนจะมีสิทธิในการ ปลูกและใช้กัญชา และสามารถสร้างกลไกเชิงระบบเพื่อนำข้อดีมาใช้และจำกัดข้อเสีย

“กัญชา มิได้มีแต่เรื่องสันทนาการ แต่มีอีกนับสิบเรื่องที่มีความสำคัญ ต่อการปลูก การแปรรูป การขาย การรักษา ฉะนั้น มีเนื้อหาหลายประการที่ต้องแก้ในร่างรัฐบาล โดยเฉพาะนิยามเรื่องสันทนาการที่ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง แต่ทั้งหมดนี้เพื่อนำไปสู่การมี พ.ร.บ. เราจึงสนับสนุนให้มี พ.ร.บ.” นายประสิทธิ์ชัย ย้ำ