โลกกำลังเดือด วิถีอินทรีย์ยั่งยืน ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น ทางรอด

โลกกำลังเดือด วิถีอินทรีย์ยั่งยืน ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็น ทางรอด

เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิสังคมสุขใจ จัดเวทีเสวนา หัวข้อ “รวมพลังขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์” ชวนภาคีภาครัฐ ภาคเอกชน ร่วมผลักดันประเทศไทยพัฒนาไปสู่ความยั่งยืน ทั้งด้านสุขภาพ สังคม และสิ่งแวดล้อม ชี้ สังคมอินทรีย์ยั่งยืน ไม่ใช่แค่เทรนด์ หรือกระแส ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด ฉะนั้น ต้องเปลี่ยนให้เป็นพฤติกรรมที่ยั่งยืน

คุณอรุษ นวราช เลขานุการมูลนิธิสังคมสุขใจและนายกสมาคมผู้บริโภคอินทรีย์ไทย หรือ TOCA กล่าวว่า การขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ร่วมมือกัน สำหรับ TOCA มีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการหรือผู้บริโภคไปพบเกษตรกรอินทรีย์ตัวจริง เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เกิดการท่องเที่ยว ความเชื่อมั่น เกิดสังคมอินทรีย์บนฐานของการค้าที่เป็นธรรม

เพราะวันนี้วิถีอินทรีย์ไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอด เมื่อ UN บอกว่าโลกกำลังเดือด เนื่องจากกิจกรรมต่างๆ ของมนุษย์ที่ทำให้อุณหภูมิโลกเพิ่มสูงเกินกว่าที่จะเรียกว่าโลกร้อนแล้ว เราทุกคนจึงต้องเร่งช่วยกันเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ซึ่งที่ผ่านมา TOCA ได้พัฒนาเทคโนโลยีร่วมกับหน่วยงานรัฐและสถาบันการศึกษา ผ่าน TOCA Platform โดยคาดว่าภายใน 1 ปีข้างหน้า จะสามารถสร้างตัวชี้วัดให้เห็นได้ชัดเจนว่ากิจกรรมต่างๆ ในสังคมอินทรีย์มีผลต่อการลด Carbon Footprint มากน้อยเพียงใด

เวทีเสวนา

ด้าน คุณยงยุทธ สวนทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวถึงการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ในจังหวัดนครปฐม ว่า เนื่องจากจังหวัดนครปฐมเป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรอินทรีย์ เป็นต้นทางของวัตถุดิบที่ดีต่อสุขภาพ และมีร้านอาหารอร่อยหลากหลาย ประกอบกับมีแหล่งท่องเที่ยว ที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เชื่อว่าการรวมพลังของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะเครือข่ายสังคมอินทรีย์ที่มูลนิธิสังคมสุขใจดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวของจังหวัดนครปฐมให้เติบโตขึ้นอย่างแน่นอน

คุณสุรัชสานุ์ ทองมี ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ ภาคกลาง หรือ TCEB กล่าวว่า TCEB มีบทบาทสำคัญข้อหนึ่งคือการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้งานแสดงสินค้าเป็นแพลตฟอร์ม ซึ่งงานสังคมสุขใจเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ประกอบการด้านเกษตรอินทรีย์มาร่วมกว่า 200 บูธ

โดยในงานนี้ TCEB มีภารกิจในการจัดการเจรจาธุรกิจ หรือ Business Matching สนับสนุนให้เกิดตลาดใหม่ๆ จากเดิมที่ผู้ผลิตสินค้าอินทรีย์หรือเกษตรกรอินทรีย์เน้นการขายปลีกให้กับผู้บริโภคโดยตรง ให้มาขยายการขายส่งให้ผู้ประกอบการร้านอาหาร และโรงแรมต่างๆ ได้

ส่วน คุณผ่องพรรณ ศิริวัฒนาวงศา ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานราชบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้คนหันมาดูแลสุขภาพมากขึ้น มีความต้องการอาหารที่ปลอดภัย ผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อสุขภาพ สำคัญคือ ต้องยั่งยืน รักษาสิ่งแวดล้อม และดูแลชุมชน

เกษตรอินทรีย์

ที่ผ่านมา ททท. จัดกิจกรรม โดยร่วมกับ TOCA ส่งเสริมให้เชฟรุ่นใหม่ๆ สร้างสรรค์เมนูที่ใช้วัตถุดิบจากเกษตรอินทรีย์ เพื่อผลิตอาหารที่ปลอดภัย มีประโยชน์ และน่ารับประทาน รวมทั้งการทำคอนเทนต์ส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับอาหารอินทรีย์ รวมถึงการท่องเที่ยววิถีอินทรีย์

ขณะที่ คุณวิวรรธน์ สงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาและถ่ายทอดเทคโนโลยี สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) อีกหนึ่งองค์กรภาครัฐที่ขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ กล่าวว่า สำนักงานฯ ดูแลพื้นที่เพื่อเกษตรกรรมซึ่งขณะนี้มีประมาณ 40 ล้านไร่ มีเกษตรกรประมาณ 3 ล้านครัวเรือน หรือประมาณ 30 ล้านคน โดยในเรื่องเกษตรอินทรีย์มีเป้าหมายในการเพิ่มพื้นที่ปีละประมาณ 5 หมื่นไร่ จึงมั่นใจได้ว่าประเทศไทยจะมีพื้นที่เพื่อการเพาะปลูกในรูปแบบเกษตรอินทรีย์เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน

สำหรับเครือข่ายภาคเอกชน คุณพลาย ภิรมย์ Head of Environment Division บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล กล่าวว่า การขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ให้เกิดผลจริงจังนั้น เป้าที่ 12 การผลิตและบริโภคที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 17 เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน หรือ SDGs ต้องไม่ใช่เป็นเทรนด์ แต่ต้องเปลี่ยนให้เป็นพฤติกรรมที่ยั่งยืน ให้ทุกคนหันมาบริโภคอินทรีย์ เพราะเกษตรอินทรีย์ หรือเกษตรที่ยั่งยืนไม่ทำร้ายโลก

สินค้าหลากหลาย

โดยเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อย่างมาก มีโครงการที่ดูแลตั้งแต่การผลิต การเชื่อมโยงชุมชน รวมทั้งขยายผลไปในชุมชนต่างๆ อีกทั้งสนับสนุนด้านการตลาดควบคู่ไปกับการรณรงค์ให้ผู้บริโภคตระหนัก และเห็นเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องปรับเปลี่ยนตนเองและมีส่วนร่วมอย่างจริงจัง

คุณทวีศักดิ์ อ่องเอี่ยม เกษตรกรกลุ่มบางกระเจ้าเกษตรอินทรีย์ เจ้าของรางวัลชนะเลิศระดับเขตในโครงการ 76 จังหวัด 76 โมเดล การผลิตสินค้าเกษตรมูลค่าสูง กล่าวว่า เกษตรกรสามารถนำความรู้ของตนเองมาปรับประยุกต์และใช้เทคโนโลยีต่างๆ ช่วยให้เกิดความสำเร็จได้ วันนี้มีความรู้ด้านเกษตรอินทรีย์มากมาย เกษตรกรแต่ละคนมีความถนัดความเก่งคนละเรื่องคนละแบบ นำความรู้มาแบ่งปันกัน ช่วยกันพัฒนาให้เกิดความก้าวหน้า ซึ่งจะทำให้เกิดเครือข่ายสังคมที่สุขใจอย่างแท้จริง

และเพราะการขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์ให้สำเร็จได้ “ความต่อเนื่อง” คือหัวใจสำคัญ ดังนั้น มูลนิธิสังคมสุขใจ และ TOCA จึงร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน ล่าสุดผนึกกำลัง สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และภาคีภาครัฐ ภาคเอกชน เกษตรกรอินทรีย์

ช้อปจุใจ

ร่วมกันจัดงานสังคมสุขใจ ครั้งที่ 9 “รวมพลังขับเคลื่อนสังคมอินทรีย์” เปิดพื้นที่ ให้คนอินทรีย์ทั้งห่วงโซ่ มาพบปะ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซื้อขายสินค้า และเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ในงานช้อปจุใจกับ 9 ไฮไลต์กิจกรรม เต็มอิ่มกับองค์ความรู้มากมาย สนุกกับเวิร์กช็อปดีดี และช้อปสินค้าเกษตรอินทรีย์คุณภาพดีจากเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 200 บูธ

เข้างานฟรี! ระหว่างวันที่ 26-28 มกราคม 2567 ณ สวนสามพราน จ.นครปฐม ตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น.  ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ข้อมูลการเดินทางสอบถามได้ที่ โทร. 034-322-588-93 หรือติดตามกิจกรรมที่ Facebook/งานสังคมสุขใจสวนสามพราน https://www.facebook.com/SangkomSookjai