นายกฯชี้ เอสเอ็มอีไทยขาดจิตวิญญาณติดกับดักรับจ้าง- คิดแต่ขาย ไม่แปรรูปวัตถุดิบ

บิ๊กตู่” ชี้เอสเอ็มอีไทยขาดจิตวิญญาณ ติดกับดักรับจ้าง-คิดแต่ขาย ไม่แปรรูปวัตถุดิบ ห่วง”นักเรียน” ไม่สนใจครูสอนก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ส่งผลคะแนนสอบต่ำ ซัดสื่อจวกหัวข่าวคำเดียว ที่รัฐคิดทำงานแทบตายไปหมด ขออย่าเอาปัญหาพระมาปนเรื่องพัฒนาปท.

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 10 มีนาคม ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวช่วงหนึ่งว่า รัฐบาลได้ออกมาตราการจำนวนมาก เพื่อพัฒนาเอสเอ็มอีให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยผู้ประกอบการของไทยจะต้องพัฒนาตัวเอง จะได้ไม่ต้องเอาเอสเอ็มอีของต่างประเทศเข้ามา และไม่จำเป็นเปิดเอสเอ็มอีรายใหม่ เพียงแต่พัฒนาเอสเอ็มอีที่มีอยู่แล้วก็เพียงพอ

“ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทยยังขาดจิตวิญญาณ ในการประกอบธุรกิจโดยเฉพาะเอสเอ็มอีด้านเกษตร เพราะทุกคนติดกับดัก การรับจ้าง คิดแต่การขาย ไม่คิดต่อว่าสามารถนำวัตถุดิบไปใช้ประโยชน์แปรรูปอะไรได้อีก และการให้เงินสนับสนุนของรัฐมันต้องมีกติกา ที่ผ่านมาให้กันผิดๆ มันให้แบบนั้นไม่ได้หรอก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้เราต้องใช้ศิลปะ วัฒนธรรม มาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับประเทศให้ได้ ส่วนปัญหาการขาดแคลนแรงงาน รัฐบาลพยายามเร่งผลิตคนให้ตรงกับความต้องการ โดยแรงงานส่วนใหญ่จบปริญญาตรี แต่ไม่ตรงกับความต้องการของตลาด รัฐบาลจึงสนับสนุนให้เรียนอาชีวะให้มากขึ้น เรียนจบมีงานทำแน่นอน

“วันนี้ผมก็ไม่สบายใจที่นักเรียน นักศึกษา ไม่ค่อยสนใจฟังครูสอน มัวแต่สนใจโทรศัพท์ ก้มหน้าดูแต่โทรศัพท์ ไม่ถามอะไร ผลสอบออกมาคะแนนต่ำ ก็ต้องช่วยกันพัฒนาตัวเอง วันนี้เอสเอ็มอี 1.0-4.0 หลายคนสงสัยว่าจะไปได้ไหม สื่อบางสื่อไม่เข้าใจก็ดูถูกประเทศไทยว่าจะเป็น 4.0 ได้อย่างไร ยังมีเรื่องพระ ซึ่งมันคนละเรื่องกันหมด มันเขียนเก่งจริงๆ เอาเรื่องที่มีปัญหากับเรื่องดีๆที่จะเดินไปข้างหน้ามาตีกัน แล้วประชาชนทั้งประเทศจะเข้าใจอะไร พูดทุกวันๆมา 3 ปีเต็มๆ ปีละ 52 ครั้งทุกวันศุกร์ 150 กว่าครั้งแล้ว แต่ท่านเขียนคำเดียวเขียนหน้ากระดาษเดียว ที่คิดแทบตายทำกันคนละเท่าไหร่ ท่านเขียนจั่วหน้าอันเดียวไปหมด ขอร้องเถอะ” นายกฯกล่าว

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องการกระตุ้นสถาบันการเงินให้กลับมาช่วยเรา เดิมเรากู้จากธนาคารพาณิชย์แล้วกลายเป็นหนี้เสีย ดังนั้นต้องทำงบ 2 หมื่นล้านให้ดี เพื่อจะทำให้ธนาคารพาณิชย์กล้ากลับมา ไม่ใช่รัฐบาลไม่ดูแล ปล่อยธนาคารพาณิชย์ไป แต่เขาเป็นธุรกิจจะล้มลลายได้หรือไม่ ผู้ถือหุ้นเขาก็มี นี่คือระบบเสรี ดังนั้นต้องเปิดโอกาสด้วย เท่าที่พูดคุยกันเขาก็อยากกลับมาช่วยเรา แต่ขอดูตรงนี้ก่อนว่าสอบผ่านไหม อย่างไรก็ตาม การทำงานของกระทรวงมหาดไทยฝากดูในส่วนนี้ ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดตอนนี้ก็ดูทั้งหมด สำหรับการผลักดันเอสเอ็มอี เหมือนเติมน้ำเกลือแร่ให้นักเตะฟุตบอล พักครึ่งแรกแล้วเติมน้ำเกลือให้ใหม่ ไม่ใช่เติมไปแล้วตรงกลาง ครึ่งหลังแย่กว่าเดิมอีก หมดแรงมากกว่าเดิม ตนก็ไม่เข้าใจ ดังนั้นต้องพัฒนาความรู้ไม่ใช่เอาเงินไปใช้จนหมดแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาเลย เอาเงินเติมเป็นน้ำเกลือแร่ไป ไม่ใช่เป็นน้ำอย่างอื่น

 

ที่มา มติชนออนไลน์