ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 9 มีนาคม นักท่องเที่ยวทั้งในประเทศ,ต่างประเทศ รวมถึงประชาชนชาวบ้านในพื้นที่เชียงคำ-อำเภอใกล้เคียงที่ผ่านเส้นทางสายนี้ หรือผู้ที่ขับรถสัญจรไป-มา และผ่านบริเวณหน้าแขวงการทางเชียงรายที่ 2 (เชียงคำ) บ้านหนอง ต.ฝายกวาง อ.เชียงคำ จ.พะเยา ผู้ที่ผ่านส่วนมากเมื่อเห็นดอกเหลืองอินเดียแล้วต้องแวะถ่ายรูป (Tabebuia spectabilis) หากว่าดอกออกพร้อมกันทุกต้นจะมีความสวยสดงดงาม เป็นสีเหลืองทองอร่ามตระการตา ทั้งสองข้างทางบนเส้นทางสายนี้ ประกอบกับต้นเหลืองอินเดีย ซึ่งไปบานตรงกับต้นทองกวาวถนนสายพะเยา-ดอกคำใต้-เชียงคำ ขณะนี้ต้นทองกวาวกำลังบานสะพรั่ง ตลอดสองข้างทางกว่า 20 กม. เป็นสีสันสร้างความดึงดูดใจ,ประทับใจให้แก่ผู้เดินสัญจรไปมาถนนสายนี้
นอกจากนี้ ดอกทองกวาวเป็นต้นไม้ผลัดใบ จะออกดอกในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายนของทุกปีและปีนี้ ชาวดอกคำใต้,ชาวพะเยาเรียกถนนเส้นนี้ว่า “ถนนสายดอกไม้” แล้วยังเป็นเส้นทางหลัก หรือทางหลวงของแผ่นดินสายพะเยา-เชียงคำ สามารถเดินทางเชื่อมต่อไปยังแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงคือขึ้นภูชี้ฟ้า อ.เทิง จ.เชียงรายได้
นายนพฤทธิ์ ศิริโกศล นายอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา กล่าวว่า กว่า 10 ปี ต้นเหลืองอินเดียที่ปลูกไว้บริเวณหน้าแขวงการทางเชียงราย 2 (เชียงคำ) บนถนนสายนี้ที่เชื่อมไปยังจังหวัดใกล้เคียง เช่น เชียงคำ-อ.ท่าวังผา จ.น่าน เชียงคำ-อ.สอง จ.แพร่ เชียงคำ-อ.เทิง จ.เชียงราย แต่ปีนี้ต้นเหลืองอินเดียออกดอกมาก และสวยงามกว่าทุกปีที่ผ่านมา ปัจจัยคงจะมาจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงในห้วงหน้าหนาว อุณหภูมิพอดีไม่หนาวจนเกินไปต่ำกว่า 10 องศาฯ ภาพรวมในขณะนี้ดอกเหลืองอินเดียกำลังเริ่มบานสะพรั่งอย่างสวยงาม โดยจะทยอยบานไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมของทุกปีและปีนี้ จากนั้นก็จะร่วงหล่นไปตามธรรมชาติของพันธ์ุไม้ทั่วไป ดอกเหลืองอินเดียจะออกไม่ตรงกันเสมอไปแต่ละต้น-รุ่นที่ปลูกไว้บริเวณข้างทาง ดอกที่บานแล้วจะหมดอายุในระยะไม่กี่วัน,ประมาณอาทิตย์ก็จะร่วงโรยหล่นตามธรรมชาติ