เผยแพร่ |
---|
บ้านปู จัดงาน Impact Day 2023 รับเทศกาลท่องเที่ยว ชู SE ดันเศรษฐกิจ สร้างคุณค่าให้สังคม
บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) ผู้นำด้านพลังงานที่หลากหลายในระดับนานาชาติ ร่วมกับ สถาบัน ChangeFusion จัดงาน “Impact Day 2023 : Where Tourism Meets Social Good กิจการเพื่อสังคมเชื่อมโยงชุมชนและท่องเที่ยวไทย” เปิดโอกาสให้กิจการเพื่อสังคม (Social Enterprise : SE) ที่เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวได้ขยายตลาด เปิดบูธแนะนำสินค้าและบริการ ณ ใจกลางสยามสแควร์ พร้อมจัดกิจกรรมไฮไลต์ เช่น เวทีเสวนาอนาคตธุรกิจเพื่อสังคมและ SE Ecosystem ของไทย การพบปะแลกเปลี่ยนแนวคิดของผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคม และการออกบูธสินค้างานคราฟต์ ที่พัก สถานที่ท่องเที่ยว จากกว่า 20 กิจการเพื่อสังคมภายใต้โครงการพลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม หรือ Banpu Champions for Change (BC4C) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและขยาย SE Ecosystem ของไทยให้เติบโต สามารถสร้างผลกระทบทางบวกต่อเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม
นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส-สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) เผยว่า “ตลอด 12 ปีของโครงการ พลังเปลี่ยนแปลงเพื่อสังคม (Banpu Champions for Change : BC4C) เราได้สนับสนุนกิจการเพื่อสังคมประมาณ 130 กิจการให้มีโอกาสทดลองดำเนินธุรกิจ ตามแนวคิดและความสนใจของตนเอง ซึ่งกิจการของ SE เหล่านี้ได้สร้างประโยชน์ให้กับคนกว่า 2.5 ล้านคน สำหรับงาน Impact Day ถือเป็นอีเวนต์สำคัญปลายปีของ BC4C ที่เปิดโอกาสให้ SE ได้พบลูกค้าตัวจริง ได้ฟังฟีดแบ็ก (Feedback) และเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงยิ่งขึ้น โดยปีนี้เราชูประเด็นความเกี่ยวโยงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนกับกิจการเพื่อสังคม โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่เป็น High Season จึงอยากส่งเสริม เทรนด์การท่องเที่ยวที่ยั่งยืน เปลี่ยนการท่องเที่ยวธรรมดาให้สามารถส่งต่อชีวิตชีวาและคุณค่าให้กับชุมชนและสังคมได้”
โดยภายในงานประกอบไปด้วยกิจกรรมไฮไลต์ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น
1. Talk Session : “อนาคตธุรกิจเพื่อสังคมและ SE Ecosystem ของไทย” ร่วมฉายภาพและชี้เทรนด์อนาคตของการผลักดันธุรกิจเพื่อสังคมไทยให้เติบโต โดย นายรัฐพล สุคันธี ผู้อำนวยการสายอาวุโส-สื่อสารองค์กร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) นายสุนิตย์ เชรษฐา ผู้อำนวยการสถาบัน ChangeFusion พร้อมด้วยเหล่าผู้คร่ำหวอดในวงการกิจการเพื่อสังคม ได้แก่ ดร.วรวิทย์ จิรัฐิติเจริญ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม และนายสมศักดิ์ บุญคำ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โลเคิล อไลค์ จำกัด (Local Alike)
2. SE Market : เปิดตลาดช้อป Package ท่องเที่ยวและสินค้างานฝีมือสุดชิกจาก SE ไทยทั่วประเทศกว่า 20 ร้านค้า
3. มินิคอนเสิร์ตจากศิลปิน “อะตอม ชนกันต์”
นอกจากนี้ ภายในงานได้ประกาศผล 3 กิจการเพื่อสังคมระยะเริ่มต้น (Incubation Program) ที่คว้ารางวัลชนะเลิศและทุนสนับสนุนเพื่อต่อยอดธุรกิจทีมละ 250,000 บาท จากโครงการ BC4C ในรุ่นที่ 12 โดยเกณฑ์การคัดเลือกผู้ชนะจะพิจารณาจากโมเดลธุรกิจที่มีแนวทางการสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ มีตัวชี้วัดการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่ง 3 กิจการที่ชนะเลิศในปีนี้ (โดยไม่เรียงลำดับ) ได้แก่
1. คีรีฟาร์ม (Khiri Farm)
ธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จาก ‘ฟางข้าว’ หลังฤดูเก็บเกี่ยวเพื่อปลูกเห็ด และต่อยอดสู่แพลตฟอร์มการเรียนรู้ ‘เห็ดก้อน’ ที่สร้างรายได้ให้ทั้งธุรกิจ ชุมชน และเป็นกิจกรรมให้ผู้สูงวัย
2. เติมน้ำ (Termnaam)
ธุรกิจ ‘ผงล้างจาน’ ไร้สารเคมีตกค้าง สะดวกต่อการพกพาสำหรับนักเดินทาง และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
3. พื้นที่ปลอดภัยเรื่องเพศในวัยรุ่น (Sex-O-Phone)
แพลตฟอร์มให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ มุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาและความสงสัยของวัยรุ่นเรื่องเพศ และลด ‘ภาวะท้องไม่พร้อม’ ในวัยเรียน
ด้าน นายสุนิตย์ เชรษฐา ผู้อำนวยการสถาบัน ChangeFusion องค์กรไม่แสวงผลกำไรภายใต้มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เผยว่า “เราเชื่อว่าในอนาคตอันใกล้จะมีผู้ประกอบการ SE เพิ่มขึ้นจากเทรนด์ธุรกิจเพื่อความยั่งยืนที่กำลังมาแรง ดังนั้น เพื่อให้ SE ที่เกิดขึ้นใหม่สามารถเติบโตขึ้นต่อไปได้ ในโครงการ BC4C เราจึงเน้นย้ำถึงหลักการทำธุรกิจเพื่อสังคม 3 ข้อเป็นสำคัญ ได้แก่ การมี Passion คือต้องมีความมุ่งมั่น การรู้จัก Marketplace ธุรกิจต้องสอดรับกับความต้องการของตลาด และที่สำคัญคือ การมี SE Ecosystem หรือระบบนิเวศของกิจการเพื่อสังคมเพื่อสนับสนุนเกื้อกูลกัน โดย SE จำเป็นต้องอาศัยเงินจากนักลงทุน บวกกับคำแนะนำจากผู้คร่ำหวอดในวงการตัวจริงที่จะคอยแบ่งปันประสบการณ์ให้กับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และสำคัญที่สุดคือ การสนับสนุนจากภาครัฐ ทั้งในด้านเงินทุน และการอำนวยความสะดวกด้านโครงสร้างพื้นฐาน ที่จะทำให้กิจการเพื่อสังคมของไทยสามารถเจริญเติบโตทัดเทียมกับกิจการเพื่อสังคมของประเทศอื่นๆ ได้”