ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ในการคิดภาษีอีคอมเมิร์ซ กรมนำโปรแกรมมาใช้มาตั้งเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 โปรแกรมดังกล่าวบอกให้ทราบว่าร้านค้าใดมีลูกค้าเขาไปเยี่ยมชมเว็บไซต์มากๆ หลังจากนั้นให้เจ้าหน้าที่กรมไปขอซื้อสินค้าเพื่อดูว่าออกใบเสร็จอย่างไร มีการเสียภาษีอย่างไร ซึ่งการจัดเก็บภาษีอีคอมเมิร์ซ เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมระหว่างร้านค้าที่ขายทั่วไปกับขายออนไลน์ เพราะร้านค้าทั่วไปในสินค้าเดียวกันเสียภาษี แต่ถ้าไม่เก็บอีคอมเมิร์ซเป็นการไม่เท่าเทียมกัน การเสียภาษีเป็นหน้าที่ของผู้เงินได้ทุกราย ซึ่งในต่างประเทศมีการเก็บภาษีจากอีคอมเมิร์ซมานานแล้ว
นายประสงค์ กล่าวต่อว่า ในธุรกิจเอสเอ็มอีกว่า 2.7 ล้านราย ยังพบว่ามีการเสียภาษีไม่ถูกต้องกว่า 60% กรมสรรพากรอยากให้กลุ่มธุรกิจนี้เสียภาษีอย่างถูกต้อง ขณะนี้กรมมีมาตรการบัญชีเดียว เพื่อกระตุ้นให้เอสเอ็มอีทำบัญชีเสียภาษีกับบัญชีธุรกิจเล่มเดียวกัน ตรงนี้เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการกู้เงิน เพราะในวันที่ 1 มกราคม 2562 มีข้อบังคับว่าธุรกิจที่ไปกู้เงินกับธนาคารต้องใช้บัญชีที่ยื่นกับกรมสรรพากรในการขอสินเชื่อ ถ้าใครยังทำไม่ถูกต้อง อนาคตจะลำบาก ซึ่งการเปิดให้เอสเอ็มอีมาจดแจ้งทำบัญชีเดียว มีเข้ามาจดแจ้งกว่า 4 แสนราย