โลกยุค “ปลาโอลิมปิก กินปลาซีเกมส์” ธุรกิจน้อยใหญ่ CHANGE อย่างไร

โลกยุค “ปลาโอลิมปิก กินปลาซีเกมส์” ธุรกิจน้อยใหญ่ CHANGE อย่างไร

 

จากการเสวนา ในหัวข้อ CHANGE อย่างไรให้ก้าวนำโลก” จัดโดย The People เมื่อเร็วๆ นี้ คุณธนา เธียรอัจฉริยะ ประธานกรรมการ บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการที่ปรึกษาด้านกลยุทธ์และการจัดการ ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระดับโลก กล่าวว่า วันนี้โลกไม่ใช่ยุคของปลาใหญ่กินปลาเล็ก หรือ ปลาเร็วกินปลาช้า แต่เปรียบเสมือนยุค “ปลาโอลิมปิก กินปลาซีเกมส์” 

 

การแข่งขันบนโลกไร้พรมแดนมากขึ้น ไม่ว่าต้องการแข่งขันอะไรก็ต้องมีมาตรฐานระดับโลก เพื่อแข่งกับคู่แข่งที่บุกมาถึงบ้านเรา ภาคธุรกิจต้องเข้าใจว่า มาตรฐานระดับโอลิมปิกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของตัวเองอยู่ตรงไหน แล้วไปฝึกแบบมาตรฐานนั้น เช่น การฝึกนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงของไทย ที่โค้ชไปดูมาตรฐานการซ้อมระดับโลกจากประเทศชั้นนำ แล้วปรับมาฝึกกับทีม

 

ความยิ่งใหญ่ในระดับประเทศอาจไม่เพียงพอ เพราะท้ายที่สุด จะมีกลุ่มมาตรฐานโอลิมปิกมาแข่งอยู่ดี ต้องใหญ่และมีมาตรฐานระดับภูมิภาคหรือระดับโลก ขณะเดียวกัน Game Changer ที่สำคัญสำหรับองค์กร คือการหา A Player หรือบุคคลที่มีทักษะความสามารถที่ยอดเยี่ยม สำหรับงานและธุรกิจของบริษัท เข้ามาร่วมงานให้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมองบริษัทของตัวเองในฐานะทีมกีฬา        

 

คุณขยล ตันติชาติวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมทเธียร์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์อัจฉริยะ (Smart Facility Management) แบบครบวงจร กล่าวว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีคือคำตอบสำคัญที่จะช่วยสร้างโลกให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะการดูแลด้านความปลอดภัยและการดูแลสิ่งแวดล้อม

 

ขณะเดียวกัน ทุกคนยังต้องเผชิญกับ “BANI World” หรือโลกที่มีทั้งความเปราะบาง (Brittle) ความกังวล (Anxious) ความสัมพันธ์ซับซ้อน ไม่เป็นเส้นตรง (Nonlinear) และเข้าใจยาก (Incomprehensible) ผู้นำองค์กรจึงต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดี มองการณ์ไกลถึงการเปลี่ยนโลกให้ดีขึ้น พร้อมกับการสื่อสารให้คนในองค์กรเข้าใจ เพื่อให้ทุกคนอยากเปลี่ยนแปลงโลกไปพร้อมกัน 

 

บนเวที

 ส่วน ศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูงที่สร้างความแตกต่างอย่างมีคุณค่า กล่าวว่า โลกในขณะนี้เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา กล่าวคือ 

 

หนึ่ง ประชากรลดลงอย่างรวดเร็ว ในยุคหลังสงครามเย็น ไทยมีประชากร 30 ล้านคน และเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนกลายเป็ 66 ล้านคน ขณะที่ยุคถัดจากนี้ โลกก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ประชากรมีบุตรน้อยลง ผู้สูงอายุมากขึ้น และมีแนวโน้มที่จำนวนประชากรอาจถอยกลับไปเหลือ 30 ล้านคน 

 

สอง โลกก้าวสู่ยุคการปรับความต้องการเฉพาะบุคคล (Personalization) ผู้คนเปิดมือถือแล้วพบสิ่งที่ตัวเองชอบอยู่ตลอดเวลาจากข้อมูลทางเทคโนโลยี ส่งผลให้แนวโน้มความต้องการของคนต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ ต้องใส่ใจเรื่อง Personalizatioมากขึ้น เช่น อาจมีการออกแบบโลโก้เฉพาะสำหรับบ้านแต่ละหลังเพื่อเจ้าของแต่ละคน การออกแบบบ้านให้คนต่างเจเนอเรชันอาศัยอยู่ร่วมกันได้

 

หากต้องการให้องค์กรประสบความสำเร็จ ต้องไม่ยึดติดกับสูตรสำเร็จเดิมๆ ผู้นำต้องมองอนาคตให้ขาด และต้องให้ความสำคัญกับการสื่อสารวิสัยทัศน์ไปให้ถึงสมาชิกทีม เพื่อพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย 

 

ด้าน คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจด้านเวชภัณฑ์ เคมีภัณฑ์และเครื่องสำอาง กล่าวว่า ทุกวันนี้ไม่ว่าปลาใหญ่หรือปลาเล็กก็ต้องเหนื่อยทั้งนั้น เพราะวิธีการมองโลกของคนเปลี่ยนไป อะไรก็ตามที่หายไปมักมีสิ่งใหม่เข้ามาแทนที่เสมอ องค์กรจึงต้องพร้อมปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

 

ยิ่งกว่านั้น การทำธุรกิจในปัจจุบันไม่สามารถมองเป้าหมายแค่ผลกำไรเพียงอย่างเดียว แต่ต้องวางเป้าหมายระยะยาว มองไปถึงลูกค้า พนักงาน และสังคมด้วย ซึ่งหากคิดในมุมนี้จะสามารถเปลี่ยนวิธีการทำงานของทั้งองค์กรได้