อยากเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ไม่ยาก แชร์ 4 เทคนิคทำคอนเทนต์ปัง ไม่ต้องจ้างอินฟลูฯ

ในยุคที่ใครๆ ก็เป็น คอนเทนต์ครีเอเตอร์ ได้ ไม่เว้นแม้แต่ ผู้ประกอบการร้านอาหาร ที่นอกจากขายอาหารแล้ว คุณก็สามารถสร้างคอนเทนต์ให้กับร้านได้ โดยไม่ต้องหมดงบไปกับการจ้างอินฟลูเอนเซอร์โปรโมตร้าน อีกทั้งการเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์หน้าใหม่ก็สามารถเริ่มได้ด้วย 4 หลักคิด

โดย คุณจักรพันธุ์ ขวัญมงคล บรรณาธิการบริหาร BrandThink ได้บรรยายในงานสัมมนาผู้ประกอบการด้านอาหาร เพื่อนคู่คิดธุรกิจร้านอาหาร จัดโดย ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ ไว้อย่างน่าสนใจว่า

“การสร้างเรื่องเล่าให้ร้านอาหารหรือสินค้าของตัวเองเป็นกุญแจสำคัญ ยิ่งเรื่องราวน่าสนใจ ความไกล จากที่เคยเป็นอุปสรรค จะกลายเป็น Unique Selling Points”

ดังนั้น

“นอกจากคุณภาพกับรสชาติแล้ว คนทำร้านอาหารไม่ใช่แค่พ่อครัวแม่ครัวหรือผู้ให้บริการอีกต่อไป แต่สามารถเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้เอง ในขณะที่กำลังผัดข้าว ลวกเส้น หรือปิ้งย่างก็ทำคอนเทนต์ได้”

แต่ในโลกของคอนเทนต์ การทำอะไรซ้ำๆ แน่นอนว่ามีสูตรสำเร็จอยู่ประมาณหนึ่ง เมื่อทำซ้ำไปเรื่อยๆ จะอันตราย ดังนั้น คนทำร้านอาหารสามารถเป็นคอนเทนต์ครีเอเตอร์เองได้ โดยใช้ความเป็นมือใหม่ในการเล่าเรื่อง ไม่ต้องจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อโปรโมตร้าน

ซึ่งการเป็นมือใหม่ ไม่ใช่ข้อเสีย แต่เป็นข้อดี เพราะเราจะได้ความสดใหม่ ความไม่กลัว ความไม่กังวล แค่ทำให้สนุก ด้วย 4 เทคนิค ที่สามารถปรับใช้ได้กับทุกธุรกิจ ไม่ใช่แค่ธุรกิจอาหาร

1. To-Know คอนเทนต์นี้บอกอะไรเขา เช่น บอกส่วนลด บอกราคา แจกสูตร บอกข้อดี แจ้งพิกัด หรือขายอะไร

2. To-do ให้ทำอะไร เช่น แจกสูตรทำอาหาร เพื่อสื่อให้รู้ว่าคุณก็สามารถทำได้ ให้ลองทำ และคนจะอยากดูคอนเทนต์นี้ต่อ

3. To-Inspire สร้างแรงบันดาลใจ ทำให้รู้สึกว่าอยากออกเดินทาง ใช้ชีวิต ไปหาร้านอาหารในคอนเทนต์

4. To-Make a Wisdom สร้างภูมิปัญญา ให้เอาสิ่งที่มีในคอนเทนต์ไปใช้ในชีวิตจริง

“การทำคอนเทนต์ เราอย่าหยุดสงสัย เพราะความสงสัยจะช่วยย่อยสิ่งที่คิดเป็นคอนเทนต์ได้ง่ายขึ้น อย่ากลัวที่จะแตกต่าง เป็นตัวเองให้เต็มที่ และอย่าทำคอนเทนต์ด้วย AI แม้ AI จะมีประโยชน์มาก แต่การทำคอนเทนต์อาหาร หากทำด้วย AI มักออกมาไม่ดีเสมอ” บรรณาธิการบริหาร BrandThink ทิ้งท้าย