เปิดใจ “เสนาะ แสงมณี” อดีตพระเอกลิเกสู้ชีวิต ที่ผันตัวเองมาขายก๋วยเตี๋ยวรถเร่

“บนเวทีมีสายตาร้อยคู่อาจมองมาที่เราแค่คนสองคน แต่ตามข้างถนนคนร้อยคนเขามองมาที่เราหมดเลย”

 คำพูดของอดีตพระเอกลิเก ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นขวัญใจของบรรดาแม่ยก แต่วันนี้ผันตัวเองมาเป็นพ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว โดยใช้รถพ่วงข้างที่ตกแต่งประดับประดาเหมือนโรงลิเกเคลื่อนที่ ดูสวยงามแปลกตาสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ที่ได้พบเห็น

ทั้งยังมีเสียงเพลงและเสียงร้องลิเกดังขับกล่อมลูกค้ามาแต่ไกล เป็นเอกลักษณ์ประจำร้านก๋วยเตี๋ยวลิเก ที่ใครเห็นก็อดไม่ได้ที่ต้องเดินเข้าไปสั่งมาชิมสักชาม
 ข่าวสดออนไลน์ นัดพูดคุยกับเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลิเก หน้าโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ ใกล้กับวัดไร่ขิง เพื่อพูดคุยถึงแรงบันดาลใจในการแต่งชุดลิเกขายก๋วยเตี๋ยว และเหตุใดทำไมก๋วยเตี๋ยวลิเก ถึงกำลังเป็นร้านดัง ใน อ.สามพราน จ.นครปฐม


เมื่อมาถึงก็ได้ยินเสียงร้องลิเกดังมาแต่ไกล ชายในชุดลิเกสีสันสดใสแต่งองค์ทรงเครื่องอย่างเต็มยศ ร่ายรำขณะกำลังลวกเส้นก๋วยเตี๋ยว ดูเป็นที่ถูกอกถูกใจของลูกค้าที่รายล้อมอยู่ยิ่งนัก

 ลุงเสนาะ แสงมณี อายุ 54 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวลิเก ที่อดีตเคยเป็นพระเอกและเจ้าของคณะลิเก แต่เมื่อเวลาเปลี่ยนไป ความนิยมในการจ้างคณะลิเกออกงานต่างๆเริ่มน้อยลง บวกกับอายุของลุงเสนาะที่มากขึ้น และเจ้าภาพมีตัวเลือกในการจ้างคณะลิเกชื่อดังอื่นๆอีกมาก ทำให้ไม่มีใครจ้างไปเล่นลิเกเหมือนเมื่อก่อน เลยเริ่มผันตัวเองออกมาขายก๋วยเตี๋ยว ขับเร่ขายรอบอ.สามพราน จ.นครปฐม โดยสร้างจุดเด่นด้วยการนำชุดลิเกที่เป็นอาชีพเก่า มาใส่ขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อเป็นจุดขายและต้องการอนุรักษ์ศิลปะความเป็นลิเกเอาไว้


 ลุงเสนาะ เล่าถึงที่มาของร้านก่อนจะมาเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวลิเกว่า ได้สูตรก๋วยเตี๋ยวมาจากแม่ เพราะแม่เคยขายมาก่อนเลยนำสูตรมาใช้ แล้วก็ปรับสูตรตามที่ลูกค้าแนะนำมาบ้างให้ถูกปากลูกค้า เริ่มแรกเลยขายอยู่ที่วัดศรีษะทอง ตั้งแต่ปี 2541-2545 และหยุดไปทำเพลงแต่โดนโกงขึ้นมา จึงนึกท้อเลยกลับไปรับจ้างเล่นลิเกและรำตามงานศพ พอเริ่มเก็บหอมรอมริบได้ จึงมาเริ่มต้นขายก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง จัดหาอุปกรณ์และตกแต่งร้านให้เหมือนโรงลิเกเคลื่อนที่ เลยนึกขึ้นได้ว่าเรามีชุดลิเกเก่าอยู่แล้ว เลยนำมาใส่ขายก๋วยเตี๋ยว และตั้งชื่อร้านว่าก๋วยเตี๋ยวลิเก เพื่อเป็นจุดเด่นและดึงดูดความสนใจของลูกค้า
ส่วนเหตุผลที่ต้องกลับมาขายก๋วยเตี๋ยวอีกครั้ง เพราะอายุที่มากขึ้นทำให้ไปสมัครงานที่ไหน ก็ไม่มีใครรับ แม้กระทั่งงาน รปภ. จึงต้องหันมาจับงานด้านค้าขายอีกครั้ง
ทุกวัน ลุงเสนาะ จะขับเร่ขายก๋วยเตี๋ยว ตระเวนขายไปเรื่อยๆตามจุดต่างๆจนกว่าของจะหมด แต่แค่ 14.00-15.00 น. ของก็เริ่มหมดแล้ว หากใครอยากลองชิมต้องลุ้นกันสักหน่อยว่าลุงเสนาะจะไปจอดขายกันที่จุดไหนบ้าง


สำหรับรสชาติของก๋วยเตี๋ยวต้องบอกเลยว่าไม่ธรรมดา เพราะลูกค้าการันตรีว่าอร่อยมากๆ และดูจากจำนวนของลูกค้าที่เข้ามาไม่ขาดสายจนบางครั้งก็เห็นลูกค้าต้องเข้ามาช่วยลุงเสนาะขายกันเลยทีเดียว ทางร้านมีก๋วยเตี๋ยวให้เลือกสั่งสามอย่าง มี น้ำตก น้ำใสและต้มยำ ราคาตามมาตรฐานร้านก๋วยเตี๋ยวทั่วไปชามละ 30 บาท
“ก๋วยเตี๋ยวก็คือก๋วยเตี๋ยว เราขายก๋วยเตี๋ยวแบบบ้านนอกๆทั่วไป ที่เราขายได้บางทีเขาอาจจะสงสารเรา เห็นเราใส่ชุดลิเก ถามว่าอายไหมผมไม่อายเพราะอาชีพของผมก็คือลิเก เด็กๆเดินมากับแม่เขาถามว่าตัวอะไร แม่ต้องบอกว่าเป็นชุดลิเกแล้วอธิบายว่าลิเกคืออะไร มันก็ดีนะ ทำให้เด็กรู้จักลิเกมากขึ้นด้วยเพราะเราเองก็ต้องการอนุรักษ์และรักษาศิลปะความเป็นลิเกเอาไว้ ไม่อยากให้ยึดติดว่าลิเกต้องอยู่บนเวทีเท่านั้น “


 ทุกวันนี้นอกจากขายก๋วยเตี๋ยวแล้ว ลุงเสนาะยังรับจ้างเล่นลิเกอยู่ หากใครสนใจจ้างคณะลิเก หรือเหมาก๋วยเตี๋ยวของลุงเสนาะ ไปเลี้ยงตามงานต่างๆ สามารถติดต่อลุงเสนาะได้ที่เบอร์ 086-8087006 , 096-5678700