สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 1 มีนาคม ว่า นายบารัค และนางมิเชล โอบามา ลงนามในสัญญาที่จะตีพิมพ์หนังสือบันทึกความทรงจำ หรือชีวประวัติ กับสำนักพิมพ์เพนกวินแรนดอมเฮาส์ ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในข้อตกลงที่ไม่มีการเปิดเผยค่าตอบแทน แต่คาดกันว่ามีมูลค่าหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายโอบามา ที่เป็นประธานาธิบดีชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรก เคยมีผลงานหนังสือบันทึกความทรงจำออกมาแล้ว 2 เล่มและหนังสือเด็กอีก 1 เล่ม เขาเคยประกาศว่าตนเองมี “สัมผัสของการเป็นนักเขียน” และว่าเขาไม่เคยมีความคิดที่จะเขียนบอกเล่าประสบการณ์การทำงานในทำเนียบขาวแบบเหตุการณ์ต่อเหตุการณ์ตามแบบแผนทั่วไป

ขณะที่หนังสือบันทึกความทรงจำของนางมิเชล โอบามา คาดว่าจะเป็นที่รอคอยอย่างใจจดใจจ่อไม่แพ้กัน โดยเธอถือเป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งคนแรกที่เป็นชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน และได้รับคะแนนนิยมสูงมากจนถึงจุดที่อาจสามารถบอกได้ว่า เป็นผู้หญิงที่ได้รับความเคารพนับถือและชื่นชมมากที่สุดคนหนึ่งของประเทศ

สำนักพิมพ์เพนกวินแรนดอมเฮาส์ระบุในแถลงการณ์ว่า “ได้รับสิทธิในการตีพิมพ์หนังสือ 2 เล่มที่เขียนโดยอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา และนางมิเชล ภริยาตามลำดับ”

ทั้งนี้ ข้อตกลงในการทำสัญญาดังกล่าวไม่ได้รับการเปิดเผย แต่ไฟแนนเชียลไทม์สของอังกฤษเปิดเผยว่าอยู่ที่ 60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,100 ล้านบาท) ซึ่งนับเป็นค่าตอบแทนสูงสุดสำหรับหนังสือบันทึกความทรงจำของประธานาธิบดี

ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวทางสำนักพิมพ์จะบริจาคหนังสือ 1 ล้านเล่มในนามของครอบครัวโอบามาให้องค์กรการกุศลเฟิร์สต์บุ๊กด้วย

จนถึงตอนนี้ สถิติสูงสุดที่ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐได้รับเป็นค่าตอบแทนสำหรับการเขียนหนังสือบันทึกความทรงจำอยู่ที่ 15 ล้านดอลลาร์ สำหรับผลงานเรื่อง “มายไลฟ์” ของอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ที่ตีพิมพ์จำหน่ายเมื่อปี 2547 ขณะที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู. บุช ได้รับค่าตอบแทน 10 ล้านดอลลาร์ สำหรับการเขียนหนังสือเรื่อง “ดีซิชั่นพอยท์” เมื่อปี 2553

ขณะที่มีรายงานข่าวว่า นางฮิลลารี คลินตัน ได้รับเงิน 14 ล้านดอลลาร์ จากการเขียน “ฮาร์ดชอยเซส” หนังสือบันทึกความทรงจำในช่วงที่เธอเป็นรัฐมนตรีต่างประทศภายใต้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา