นายดาเรน ไวท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จึเอฟเอ คอร์ปอเรชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ให้บริการธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มแฟรนไชส์ แบรนด์ คอฟฟี่เวิลด์ เปิดเผยว่า บริษัทฯ พัฒนาธุรกิจใหม่ คอฟฟี่ เวิลด์ ทรัคส์ ภายใต้งบลงทุน 1.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นร้านกาแฟเคลื่อนที่ เพราะเห็นโอกาสจากไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในสังคมเมือง ดังนั้นการนำแบรนด์และบริการเข้าไปหาลูกค้าถึงที่จึงเชื่อว่าคอฟฟี่ เวิลด์ ทรัคส์ จะเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้า

ทั้งนี้ เปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทย เมื่อเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว ไปตามสถานที่ต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ ทั้ง ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดกลางคืน ประตูน้ำ อ่อนนุช และล่าสุดจอดอยู่ที่ศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย ปรากฎว่าได้รับการตอบรับดี มียอดขายเทียบเท่ากับในร้านสาขา และบางทำเลยอดขายดีกว่าในร้านสาขาด้วย ทำให้หลังจากนี้จะไปตามอาคารสำนักงาน และงานกิจกรรมต่างๆ งานแสดงสินค้า และงานแคทเทอริ่งต่างๆ รวมกว่า 10 งานที่วางไว้แล้วในปีนี้ พร้อมกันนี้มีแผนจะเพิ่มคอฟฟี่ เวิลด์ ทรัคส์ อีก 2-3 คัน เพื่อรองรับในตลาดต่างจังหวัดที่เป็นเมืองและจังหวัดท่องเที่ยว อย่าง พัทยา และเชียงใหม่

“คอฟฟี่ เวิลด์ ทรัคส์ จะเข้ามาตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มเริ่มทำงาน และกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา ที่สามารถเข้าถึงได้ง่ายในรูปแบบการขายนี้ เพราะเน้นเคลื่อนที่จอดตามที่ต่างๆ ซึ่งมองว่าแนวโน้มการเติบโตของตลาดในช่วง 3-5 ปี ร้านขายกาแฟเคลื่อนที่จะได้รับความนิยมในเมืองไทยและทุกที่ในโลก และคาดว่าการแข่งขันจะมีมากขึ้นอีกด้วย ปัจจุบันภาพรวมธุรกิจตลาดร้านกาแฟในเมืองไทยมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท และมีผู้ลงทุนรายใหม่ๆ ทั้งจากแบรนด์ในต่างประเทศ รวมถึงร้านอินดี้ เชื่อว่าเชนแบรนด์ต่างประเทศที่แข็งแกร่งจะอยู่ในตลาดได้ในระยะยาว

นายดาเรน ไวท์ กล่าวว่า คอฟฟี่ เวิลด์ ทรัคส์ ราคาจำหน่ายจะถูกกว่าเมนูในร้านประมาณ 15% และจะมีการพัฒนาเมนูใหม่ๆ ที่มีขายเฉพาะที่คอฟฟี่ เวิลด์ ทรัคส์ เท่านั้น โดยจะเพิ่มหมวดอาหาร และของหวานให้มีความชัดเจนและหลากหลาย ซึ่งแต่ละเมนูที่ทำขึ้นจะไม่มีขายในร้านทั่วไป และเน้นการออกงานต่างๆที่ได้รับความนิยม เพื่อสร้างแบรนด์ โดยกลุ่มเป้าหมายหลัก

สำหรับแผนในปี 2560 มีเป้าหมายที่จะขยายสาขาอีก 15 สาขา ใช้งบลงทุน 3 ล้านบาทต่อสาขา แบ่งเป็นการขายแฟรนไชส์ 80% หรือ 12 สาขาและร้านที่เป็นของบริษัทบริหารเองอีก 20% หรือ 3 สาขา โดยในปีนี้ตั้งเป้ามียอดขายรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 10% หรือ 360 ล้านบาท จากปี 2559 มียอดขายรวม 320 ล้านบาท