เผยแพร่ |
---|
ใครเข้าข่ายได้รับบ้าง เงินดิจิทัล 10,000 บาท นโยบาย “เพื่อไทย”
ผ่านไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการโหวต นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น
เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2566 ที่ผ่านมา มีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าฯ นายเศรษฐาเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ก็จะเป็นกระบวนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อที่จะบริหารประเทศต่อไป
แน่นอนว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท จะถูกผลักดันให้เกิดขึ้นทันที เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะ 6 เดือน
หากเป็นไปตามที่ทางพรรคเพื่อไทยประกาศมาอย่างต่อเนื่องก็คือ หากพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ก็ต้องนำนโยบายเศรษฐกิจของพรรคมาเป็นหลัก โดยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญก็คือ การเติมเงิน 10,000 บาท ในดิจิทัลวอลเลต เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งประชาชนทั่วไปกำลังเฝ้ารอว่าจะได้รับเงินเมื่อไร
ใครเข้าข่ายได้รับเงินดิจิทัล 10,000 บาท
สำหรับนโยบายดังกล่าวเรียกว่า เหรียญดิจิทัล (Digital Coin) หรือเรียกว่าเหรียญดิจิทัลเพื่อไทย จะแจกเงินเข้าสู่กระเป๋าเงิน บุคคล ดังนี้
- บุคคลตามเลขที่ลงทะเบียนไว้
- ประชาชนไทย อายุ 16 ปีขึ้นไปที่มีบัตรประชาชน เลข 13 หลัก
- จำนวนคนที่จะได้รับทั้งหมด ขั้นต่ำประมาณ 50 ล้านคน
นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทย ระบุด้วยว่า ผู้สูงอายุและผู้พิการ หรือประชาชนที่มีสวัสดิการอื่นๆ จะยังคงได้รับเงินเต็มจำนวน ไม่มีการหักใดๆ ทั้งสิ้น โดย Digital Wallet 10,000 บาท จะถูกส่งตรงถึงกระเป๋าเงินดิจิทัลของประชาชน ภายใต้ระบบที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ขณะที่วงเงิน 10,000 บาทที่ให้ประชาชนนั้น จะเป็นในรูปแบบคูปอง ไม่ใช่เหรียญคริปโตแต่อย่างใด และร้านค้าที่รับเงิน 10,000 บาทจากประชาชนผู้ใช้งานนโยบายดังกล่าว สามารถนำเงินดิจิทัลมาแลกเป็นเงินบาทได้กับธนาคารที่ร่วมในโครงการในภายหลัง
ซึ่งมีการประเมินว่า หากโอน 50 ล้านคน คนละ 10,000 บาท จะเป็นเงิน 500,000 ล้านบาท จะก่อเกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจมหภาค 6 เท่า ก่อให้เกิดการหมุนเวียนในระบบ 3 ล้านล้านบาท และหากการจัดตั้งรัฐบาล ไม่มีอะไรสะดุดอีก นโยบายนี้ก็น่าจะเริ่มได้ในวันที่ 1 ม.ค. 2567
ดร.สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์ นักวิชาการอิสระด้านเศรษฐศาสตร์และการเมือง กล่าวว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยกำลังจะทำอยู่หากจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว ถือว่าตอบโจทย์ในระยะสั้นได้ เพราะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ การแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท อันนี้จะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ในช่วงที่กว่าจะมีงบประมาณปี 2567 ออกมาได้ คาดว่าต้องรอจนถึงไตรมาส 1/2567 ทำให้เม็ดเงินที่จะแจกไปนี้ ช่วยกระตุ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 นี้ได้
“หากมีการจัดตั้งรัฐบาลและเข้ามาเร่งรัดใช้งบประมาณปี 2566 ที่ยังเหลืออยู่ในส่วนของงบลงทุน เพื่อไทยจะต้องรีบเร่งการเบิกจ่ายออกมาให้เร็วที่สุด รวมถึงการเร่งทำตามมาตรการที่หาเสียงไว้ ทั้งการช่วยสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีด้วย ซึ่งส่วนนี้อาจช่วยให้เศรษฐกิจไทยปี 2566 สามารถขยายตัวได้ถึง 3.8% จากที่จะขยายตัวได้เพียง 3% ได้” ดร.สมชาย กล่าว