ผู้ประกอบการ กุ้งขาวไทย เร่งยอดผลผลิตเพิ่ม เน้นส่งออก สร้างมูลค่าให้สูงขึ้น

สนค. เปิดตัวระบบแดชบอร์ดกุ้งขาวแวนนาไม หรือกุ้งขาว ชี้รัฐตั้งเป้าเพิ่มผลผลิตกุ้งทะเลได้ถึง 4 แสนตัน ในปี 2566 พร้อมคุมโรคระบาด เพิ่มช่องทางการขาย แนะผู้ประกอบการเร่งพัฒนาสินค้า สู่ตลาดโลก เลี่ยงแข่งขันด้านราคา

วันที่ 17 พฤษภาคม 2566 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค. ร่วมกับสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) จัดทำแดชบอร์ดสินค้าเกษตร ภายใต้นโยบาย “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” ล่าสุดได้เผยแพร่แดชบอร์ดกุ้งขาวแวนนาไม (กุ้งขาว) โดยรวบรวมข้อมูลตั้งแต่การผลิต ราคา ตลาดส่งออกของไทย และโอกาสในการขยายการส่งออก ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าถึงข้อมูลผ่านเว็บไซต์ www.คิดค้า.com

โดยในปี 2565 ไทยมีผลผลิตกุ้งขาวประมาณ 2.4 แสนตัน ลดลง 0.07% จากปีก่อนหน้า มีพื้นที่เพาะเลี้ยงทั่วประเทศกว่า 2.7 แสนไร่ และมีจำนวนฟาร์ม 22,336 แห่ง ผลผลิตส่วนใหญ่มาจากภาคใต้  62.34% ของผลผลิตทั้งประเทศ รองลงมาคือ ภาคตะวันออก 25.06% และภาคกลาง 12.60%

สำหรับ 3 จังหวัดแรก ที่มีผลผลิตสูงสุดคือ สุราษฎร์ธานี ปริมาณ 40,950 ตัน ฉะเชิงเทรา ปริมาณ 20,356 ตัน และตรัง ปริมาณ 18,740 ตัน จังหวัดที่มีพื้นที่เพาะเลี้ยงมากที่สุดคือ ฉะเชิงเทรา นครปฐม และจันทบุรี ตามลำดับ สำหรับในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 มีผลผลิตกุ้งขาวทั่วประเทศ ประมาณ 4.5 หมื่นตัน ลดลง 2.14% เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ในด้านราคา พบว่า ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2566 ราคาเฉลี่ยกุ้งขาวของไทยที่เกษตรกรขายได้ ขนาด 51-60 ตัว/กิโลกรัม อยู่ที่ 175.6 บาท/กิโลกรัม ซึ่งราคากุ้งปากบ่อของประเทศผู้นำตลาด ขนาด 50 ตัว/กิโลกรัม เช่น เอกวาดอร์  ราคา 106.5 บาท/กิโลกรัม และอินเดีย 137.5 บาท/กิโลกรัม ซึ่งมีราคาต่ำกว่าไทย ขณะที่ เวียดนามมีราคาสูงกว่าไทย 180.3 บาท/กิโลกรัม

การส่งออกของไทย ในปี 2565 ไทยส่งออกกุ้งขาวและผลิตภัณฑ์ เป็นปริมาณ 98,800.1 ตัน คิดเป็นมูลค่า 1,072.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 83.4% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ

1. กุ้งขาวมีชีวิต สด แช่เย็น และแช่แข็ง 576.91 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 784.0%

2. กุ้งขาวปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ไม่บรรจุในภาชนะที่อากาศผ่านไม่ได้ 174.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หดตัว 17.8%

3. กุ้งขาวปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย บรรจุในภาชนะที่อากาศผ่านไม่ได้ 320.88 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ขยายตัว 5.3%

ตลาดส่งออกสำคัญของไทยคือ สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วน 27% ญี่ปุ่น มีสัดส่วน 27% และจีน มีสัดส่วน 17.6% ของมูลค่าการส่งออกกุ้งขาวของไทย โดยมูลค่าการส่งออกกุ้งขาวไป 3 ประเทศดังกล่าว รวมกันมีสัดส่วนมากกว่า 70% ของมูลค่าการส่งออกกุ้งขาวทั้งหมดของไทย

ทั้งนี้ หากเปรียบเทียบการส่งออกสินค้ากุ้งและผลิตภัณฑ์ของโลก ในปี 2564 โลกส่งออกเป็นมูลค่า 26,429.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ผู้ส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) อินเดีย 21.7% ของมูลค่าการส่งออกของโลก (2) เอกวาดอร์ 19.5% (3) เวียดนาม 14.8% (4) อินโดนีเซีย 8.4% (5) จีน 7.5% โดยไทยเป็นอันดับ 6 อยู่ที่ 5.5%

หากพิจารณามูลค่าการส่งออกของไทย พบว่า มากกว่า 50% เป็นการส่งออกในรูปแบบกุ้งขาวมีชีวิต สด แช่เย็น และแช่แข็ง ซึ่งเป็นเพียงการผลิตขั้นต้น ดังนั้น ไทยยังสามารถพัฒนาไปสู่การผลิตสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูงขึ้น หลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคากับ เอกวาดอร์ อินเดีย อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการส่งออกในรูปแบบกุ้งแช่แข็ง

ขณะที่จีนส่งออกกุ้งปรุงแต่งในสัดส่วนที่มากกว่า ซึ่งพบว่า ราคาส่งออกเฉลี่ยของโลก (ข้อมูลปี 2563 ล่าสุด) ของสินค้า 3 กลุ่ม ดังนี้ (1) กุ้งมีชีวิต สด แช่เย็น แช่แข็ง มีมูลค่า 6,972 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน (2) กุ้งปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย ไม่บรรจุในภาชนะที่อากาศผ่านไม่ได้ มีมูลค่า 9,876 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน และ (3) กุ้งปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย บรรจุในภาชนะที่อากาศผ่านไม่ได้ มีมูลค่า 10,628 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน

ทั้งนี้ ภาครัฐไทยกำหนดเป้าหมายเพิ่มผลผลิตกุ้งทะเลให้ได้ถึง 4 แสนตัน ในปี 2566 และให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาโรคระบาด การเข้าถึงสินเชื่อของเกษตรกร สร้างช่องทางการขาย และนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต นอกจากนี้ สนค. เห็นว่า ผู้ประกอบการควรมุ่งผลิตสินค้าที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น และไทยต้องเร่งพัฒนาสู่การเป็นประเทศชั้นนำด้านสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูงต่อไป