ห้ามกินทุเรียนคู่กับอะไร แล้วกินแบบไหน ให้ปลอดภัยจากอันตราย

ทุเรียนแม้จะเป็นผลไม้ที่มีรสชาติอร่อย หวานมัน เต็มไปด้วยสารอาหารและให้พลังงานสูง ทั้งยังเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย แต่หากกินมากไป หรือกินไม่ถูกวิธีก็อาจก่อให้เกิดอันตรายได้

ช่วงเดือนเมษายนเป็นต้นมา ก็เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลของทุเรียน ผลไม้ที่ได้รับการขนานนามว่าราชาแห่งผลไม้ ซึ่งออกผลผลิตมาให้คนที่ชอบทานทุเรียนได้ลิ้มรสชาติหลังจากรอคอยมานานนับปี อย่างไรก็ตาม แม้ทุเรียนจะขึ้นชื่อเรื่องความอร่อยและมีประโยชน์ แต่หากกินไม่ถูกวิธีก็เป็นอันตรายต่อชีวิตได้เหมือนกัน เราได้รวบรวมวิธีกินทุเรียนให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ และข้อควรระวังในการกินทุเรียน ดังนี้

1. ห้ามกินทุเรียนกับน้ำอัดลม

ทุเรียนกับน้ำอัดลมไม่ควรกินคู่กัน เพราะทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลและไขมันสูง กินแล้วย่อยยาก ขณะที่น้ำอัดลมรสหวานก็มีน้ำตาลสูงมากและมีกรดคาร์บอนิก หากกินคู่กันนอกจากจะทำให้แน่นท้องหรือท้องอืดแล้ว ร่างกายจะได้รับน้ำตาลในปริมาณที่มากเกินความจำเป็น ส่งผลให้น้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากป่วยเป็นเบาหวานหรือโรคหัวใจ ก็อาจถึงขั้นช็อกได้ แต่สำหรับคนปกติ การที่น้ำตาลสะสมในร่างกายมาก หากเผาผลาญได้ไม่หมดก็จะกลายเป็นไขมัน ทำให้ร่างกายอ้วนขึ้นได้โดยง่าย

2. ห้ามกินทุเรียนกับลำไย

สาเหตุที่ไม่ควรกินทุเรียนคู่กับลำไย เพราะลำไยและทุเรียนต่างก็เป็นผลไม้น้ำตาลสูง กินแล้วให้พลังงานมากขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ร้อนในได้เหมือนกัน ดังนั้น ทางที่ดีอย่ากินทุเรียนกับลำไยจะดีกว่า โดยเฉพาะผู้ป่วยเบาหวานที่จำเป็นต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดอย่างเคร่งครัด เพราะอาจเป็นอันตรายกับชีวิตได้

3. ไม่ควรกินทุเรียนกับผลไม้หวานจัด

นอกจากลำไยแล้ว ผลไม้น้ำตาลสูงชนิดอื่น อาทิ ลิ้นจี่ เงาะ ขนุน มะม่วงสุก ก็ไม่ควรจับคู่กินด้วยกันกับทุเรียน เพราะร่างกายจะได้น้ำตาลในปริมาณสูงมากๆ ในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งได้ในเวลาอันสั้น ซึ่งหากไม่ได้เผาผลาญก็จะเก็บสะสมและกลายเป็นไขมันในร่างกาย หรือหากป่วยเป็นเบาหวานก็อาจมีอาการวูบถึงขั้นหมดสติได้

4. ไม่ควรกินทุเรียนกับขนมหวาน

ปัญหาก็คือเรื่องปริมาณน้ำตาลอีกเช่นเคย ดังนั้น หากจะกินทุเรียนก็ควรเลี่ยงขนมหวาน ขนมปัง น้ำหวาน เบเกอรี่ทั้งหลายไปก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายได้น้ำตาลในปริมาณที่สูงจนเกินไป นอกจากนี้ เมนูที่มีปริมาณน้ำตาลสูงมาก อย่างเค้กทุเรียน หรือข้าวเหนียวทุเรียน ถ้าเลี่ยงได้ก็จะดีต่อร่างกายด้วย

5. ห้ามกินทุเรียนกับแอลกอฮอล์

เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์อย่างเหล้า เบียร์ ไวน์ ไม่ควรนำมากินคู่กับทุเรียนเด็ดขาด เนื่องจากทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคาร์โบไฮเดรตและไขมันทำให้พลังงานสูง ขณะเดียวกัน เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เองก็ให้พลังงานสูงและดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้น จึงส่งผลให้กระบวนการเผาผลาญของร่างกายต้องทำงานหนัก ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้น

นอกจากนี้ ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีกำมะถันมาก ซึ่งสารนี้ละลายได้ดีในแอลกอฮอล์ เมื่อกินคู่กันจะทำให้เมาเร็ว ร่างกายจะเกิดความร้อนสูงมากกว่าปกติ และทำให้ขาดน้ำจนถึงจุดที่ระดับเกลือแร่ขาดสมดุลได้ อีกทั้งการกินทุเรียนกับเหล้าจะทำให้เอนไซม์กำจัดสารพิษที่ได้จากกระบวนการเผาผลาญแอลกอฮอล์ลดลง และอาจไปเสริมพิษของแอลกอฮอล์

นำไปสู่อาการไม่พึงประสงค์ เช่น รู้สึกร้อนวูบวาบ หน้าแดง วิงเวียน สั่น ง่วงซึม คลื่นไส้ และอาเจียน ในบางรายอาจมีปฏิกิริยารุนแรงจนก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ หัวใจล้มเหลว สมองทำงานผิดปกติ จนก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตได้เลย ทั้งนี้ อาการจะรุนแรงแค่ไหนขึ้นอยู่กับปริมาณที่รับประทาน และความสามารถของกระบวนการทำลายแอลกอฮอล์ในร่างกายของแต่ละคน

ทุเรียนควรกินยังไงให้ปลอดภัยต่อสุขภาพ?

สำหรับหลายคนเมื่อนึกถึงทุเรียน คงจะนึกถึงกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์และรสชาติหวานมัน รวมถึงเนื้อที่นุ่มละมุน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ทุเรียนเป็นผลไม้ที่เป็นที่รู้จักและนิยมบริโภคกันอย่างแพร่หลาย ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ

อย่างไรก็ตาม แม้ทุเรียนจะมีรสชาติอร่อย มีประโยชน์ แต่ก็ต้องห้ามใจเอาไว้ไม่ควรกินเกิน 2 เม็ดต่อวัน และไม่ควรกินบ่อย ยิ่งกินทุกวันยิ่งไม่ควร เพราะนอกจากทุเรียนจะให้พลังงานและน้ำตาลสูงแล้ว หากกินบ่อยๆ กินมากๆ อาจทำให้มีอาการร้อนในขึ้นมาได้

สำหรับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ควรจำกัดการกินทุเรียนวันละไม่เกิน 1 เม็ดเล็ก ส่วนโรคไตควรหลีกเลี่ยงการกินทุเรียนไปก่อน เพราะอาจทำให้อาการกำเริบได้ เนื่องจากร่างกายขับโพแทสเซียมจากทุเรียนไม่ทันจนทำให้มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะได้

ข้อมูลจาก : กรมอนามัย