วันกัญชาโลก ถนนข้าวสาร จัดกิจกรรม รวมตัวสูบบ้อง นักวิจัย ค้านสุดตัว

วันกัญชาโลก ถนนข้าวสาร จัดกิจกรรม รวมตัวสูบบ้อง นักวิจัย ค้านสุดตัว

จากกรณี มีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียล ระบุเป็นภาพโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ การจัดงาน KHAOSAN420 ในวันที่ 20 เม.ย. นี้ ซึ่งเป็นวันกัญชาโลก โดยมีกิจกรรมรวมตัวสูบบ้อง และเดินขบวนพาเหรด บริเวณถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นแหล่งรวมของผู้ประกอบการด้านกัญชาจำนวนหลายรายนั้น

ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย กล่าวแสดงความห่วงใยต่อความถูกต้องเหมาะสมในการจัดงานดังกล่าว โดยมีเหตุผลประกอบดังนี้

หนึ่ง รากฐานของพืชกัญชา คือ การเป็นยาให้กับมวลมนุษย์ ประชาชนในแต่ละประเทศล้วนใช้กัญชาเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพมาช้านาน การใช้กัญชามีได้หลากหลายรูปแบบ โดยในแต่ละวิธีการมีเป้าหมายสำคัญเพื่อการดูแลสุขภาพ กายและใจ การใช้กัญชา จึงมิได้มีรากฐานการใช้มาเพื่อความมัวเมาเพียงด้านเดียว แต่มีไว้และใช้กันมานานเพื่อการรักษาสุขภาพ

สอง สังคมยังมีความห่วงใยต่อการที่ประชาชนจะเข้าถึงการใช้กัญชาได้ โดยเฉพาะการใช้ที่อาจจะกระทบผู้อื่น คือ การใช้กัญชาโดยวิธีการสูบ ฉะนั้น โดยหลักการที่ถูกต้อง คือ การใช้กัญชา ต้องไม่รบกวนผู้ไม่ใช้กัญชา นั่นคือจะต้องไม่ใช้กัญชาโดยวิธีการสูบในพื้นที่สาธารณะ

โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์งาน วันกัญชาโลก ที่ถนนข้าวสาร

อีกทั้งมีความพยายามที่จะสร้างความเข้าใจผิดของสังคมที่มีต่อกัญชาด้วยการปล่อยคลิปคนสูบกัญชาเพื่อโจมตีกัญชา โดยมีเป้าหมายเพื่อการนำกัญชากลับไปสู่การเป็นยาเสพติด ฉะนั้น การกระทำที่ไม่เหมาะสมในขณะนี้ เท่ากับเพิ่มกระแสการผลักกัญชาไปสู่การเป็นยาเสพติดอีกครั้ง

สาม สมาคมนักวิจัยฯ  มีความห่วงใยต่อการจัดกิจกรรมงาน KHAOSAN420 ในวันที่ 20 เม.ย. นี้ เพราะเป็นการใช้กัญชาโดยวิธีการสูบในพื้นที่สาธารณะ อาจก่อเกิดความเข้าใจผิดต่อประชาชนว่า การใช้กัญชา มีเพียงวิธีการเหล่านี้ และนำไปสู่ความบันเทิงมากกว่าการดูแลรักษาสุขภาพ ซึ่งขัดกับเจตนารมณ์ของกฎหมาย ที่ห้ามใช้กัญชาโดยวิธีการสูบในพื้นที่สาธารณะ

ดร.พิพัฒน์ นนทนาธรณ์ นายกสมาคมนักวิจัยแห่งประเทศไทย

ฉะนั้น จึงขอให้ผู้จัดงานพิจารณาถึงความเหมาะสมตามบริบทสังคมและความถูกต้องตามกฎหมาย มิเช่นนั้นการดำเนินการดังกล่าวเท่ากับส่งแรงผลักให้กับฝ่ายการเมืองนำกัญชากลับไปสู่ยาเสพติด โดยจะทำให้ความพยายามของทุกภาคส่วนที่จะทำให้กัญชาออกจากยาเสพติดเพื่อความมั่นคงทางยาของประชาชนที่ผ่านมาประสบความล้มเหลว และทุกคนในประเทศจะไม่สามารถเข้าถึงกัญชาได้

“งานวันกัญชาโลก ควรเป็นงานที่จะสะท้อนถึงหลักการสำคัญของกัญชาที่มีต่อมนุษย์ มิใช่ทำให้งานวันกัญชาโลกลดทอนความสำคัญลงเหลือเพียงความบันเทิงจากการสูบบ้อง หัวใจของงานกัญชาโลก ควรที่จะทำให้สังคมเห็นว่ากัญชาเป็นที่พึ่งของประชาชน มิใช่มีไว้เพียงเพื่อบันเทิงแต่ฝ่ายเดียว” นายกสมาคมนักวิจัยฯ กล่าว