เปิดใจ “ใบบัว” ตั้งใจเข้าประกวดนางงาม เพราะอยากฟื้นเศรษฐกิจบ้านเกิด 

“ใบบัว” สวิตตา คำฝอย มีดีกรีเป็นนางสาวไทยกระบี่ สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเทศบาล 2 จังหวัดกระบี่ และตัดสินใจเข้าเรียนคณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต ด้วยเหตุผลที่ว่าได้เห็นการทำงานหลายรูปแบบเหมือนคุณแม่ของเธอ ซึ่งทำงานในโรงพยาบาล และรักษาผู้ป่วยในคลินิกกายภาพบำบัด สามารถช่วยผู้ป่วยให้กลับมาใช้ชีวิตปกติหรือเกือบปกติที่สุด

และเมื่อเห็นคนไข้ ทำกายภาพแล้วกลับมาเดินได้ รู้สึกมีความสุขมาก จนรู้ว่าตนเองมีความชอบทางด้านกายภาพบำบัด

หลังจากนั้น “ใบบัว” ได้เข้าสู่วงการประกวดนางงาม ซึ่งมีรางวัลการันตีความงามโดยติด Top 10 จากการประกวดมิสแกรนด์ภูเก็ต โดยล่าสุดคว้ารางวัล นางสาวไทยกระบี่ และกำลังเข้าสู่การประกวดในเวทีนางสาวไทย ประจำปี 2566

ปัจจุบัน “ใบบัว” กำลังศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะกายภาพบำบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต เธอเล่าว่า มีความตั้งใจแต่แรกแล้วว่าจะเข้ามาเรียนที่นี่ ด้วยนวัตกรรมและการเรียนการสอนที่ทันสมัย และสามารถปั้นนักกายภาพบำบัดที่ดีหลายคน

นอกจากนี้ ทั้งเรื่องเรียนและประกวดนางงาม ใบบัวจะคุยกับคุณแม่เป็นหลัก คุณแม่จะเป็นคนช่วยดูว่าที่เราเลือกโอเคไหม พอเข้ามาเรียนที่นี่แล้วรู้สึกว่า ดีใจที่เลือกถูก ไม่ว่าจะเป็นสังคม นวัตกรรมการเรียนการสอน อาจารย์ ทุกอย่างดีหมดเลย

“สำหรับการแบ่งเวลาเรียนตั้งแต่การประกวดเวทีที่ผ่านมา ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เรียนพอดีแต่เราใช้วิธีปรึกษาอาจารย์ก่อน เพื่อให้อาจารย์พิจารณาการลาตามความเหมาะสม เมื่อกลับมาก็ตามงานจากเพื่อนๆ ค่ะ” ใบบัว กล่าว

เมื่อพูดถึงประสบการณ์จากการประกวดทั้ง 2 เวที ใบบัว เล่าว่า ความฝันในวัยเด็ก อยากเป็นนางงาม พอโตขึ้นมารู้สึกว่า นางงาม ไม่ใช่มีแค่เรื่องของความสวยงาม แต่สามารถทำควบคู่ไปกับหลายๆ อย่าง สามารถเป็นกระบอกเสียงที่ใหญ่ขึ้นได้

เช่น ถ้าอยากจะให้คนรู้จักกายภาพบำบัด นักกายภาพบำบัด ซึ่งไม่ได้มีดีแค่การนวด ก็ใช้กระบอกเสียงของเราพูดให้ดังขึ้น ทุกคนอาจเห็นความสำคัญ และเห็นว่านางงามไม่ได้มีดีแค่ความสวย

สำหรับไลฟ์สไตล์ของใบบัวคือ ชอบอยู่กับเพื่อน ชอบเต้นลีลาศ เล่นสเกตบอร์ด ว่ายน้ำ และตั้งแต่เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยจะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทบทวนตัวเอง เพราะเจอคนเยอะ ก็จะทบทวนว่าวันนี้ทำอะไรไปบ้าง ดีหรือยัง ถ้ายังไม่ดีพรุ่งนี้เอาใหม่

“สุดท้ายนี้ ฝากเป็นกำลังใจให้กับใบบัว และก็อีก 2 จังหวัดคือ ภูเก็ต และพังงา เพราะทั้ง 3 จังหวัดเป็นทีมเดียวกันจากฝั่งอันดามัน เราตั้งใจมาประกวดเพราะอยากขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ดีขึ้นจากสถานการณ์โควิด ที่ผ่านมา จึงอยากกลับมาเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวว่า อันดามันไม่ได้มีดีแค่ทะเล แต่อันดามันมีทั้งอาหาร และภูมิปัญญาท้องถิ่น” ใบบัว ฝากไว้อย่างนั้น