ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 เกษตรกรชาวจังหวัดสกลนครที่ผ่านมาปลูกอะไรก็ไม่สำเร็จ แต่เมื่อได้ลองปลูกกล้วยหอมทอง ผลไม้ที่เต็มไปด้วยสารอาหาร กลับพบว่าประสบผลสำเร็จมีรายได้มากถึงไร่ละ 1 แสนบาท และมีการรวมกลุ่มเกษตรกร จนเกิดเป็นวิสาหกิจชุมชนที่เข็มแข็งเพื่อส่งขาย โดยนายทอง ตกพันธุ์ อายุ 58 ปี และ นางมะณีวัน พรมกสิกร อายุ 51 สองสามีภรรยา ชาวบ้านนาถ่อน ตำบลต้นผึ้ง อำเภอพังโคน สกลนคร ช่วยกันดูแลกล้วยหอมทองกว่า 1 พันต้น ที่ปลูกไว้ในพื้นที่ 4 ไร่ โดยมะณีวัน เล่าว่า เดิมทำนา ปลูกยางพารา แต่ราคาตกต่ำ จึงหันมาปลูกมะเขือเทศก็ต้องขาดทุน เพราะโดนศัตรูพืชระบาด ต่อมาศึกษาพบว่ากล้วยหอมทองเป็นที่ต้องการของตลาด จึงซื้อพันธุ์กล้วยหอมทองจากปทุมธานี 400 ต้นมาปลูกตั้งแต่เมื่อ 4 ปีก่อน
นายทอง กล่าวว่า การปลูกกล้วยหอมทอง ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่การเตรียมดิน โดยขุดหลุมปลูกขนาด ขนาด 50X50 เซนติเมตร ลึก 50 เซนติเมตร ระยะห่างต่อหลุม 2 เมตร นำหน่อกล้วยลง จากนั้นใส่ปุ๋ยคอกผสม ใช้ดินและฟางกลบรอบหลุม หมั่นดูแลเติมปุ๋ยคอกและให้น้ำ ระวังโรคจุดใบด่าง และใบไหม้ ใช้เวลา 6-7 เดือน ต้นกล้วยจะให้ผลผลิตพื้นที่ 1 ไร่ ปลูกกล้วยได้ 400 ต้น เก็บผลผลิตขายได้ครั้งละ 8 – 9 หมื่นบาท แต่ละปีเก็บผลผลิตได้ 2 ครั้ง และเมื่อต้นกล้วยอายุ 2 ปีก็จะโค่นทิ้งแล้วนำหน่อกล้วยรอบต้นเดิมกลับมาปลูกทดแทน สำหรับกล้วยหอมทอง 1 เครือ น้ำหนักเฉลี่ย 18-20 กิโลกรัม ราคาขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 40 บาท
ทั้งนี้ นางมะนีวัน และเกษตรกรในตำบลต้นผึ้งรวมตัวเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกล้วยหอมทอง นอกจากขายผลยังขายหน่อกล้วย แปรรูปกล้วยหอมทองเพิ่มมูลค่า มีตลาดรองรับทั่วทั้งประเทศและเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้การปลูกกล้วยหอมทอง