ชวนส่อง 5 สิ่ง สุดคลาสสิค แม้เวลาจะเปลี่ยนไป แต่ยังฮอตฮิตในหมู่วัยรุ่น!

ค่านิยมของวัยรุ่นไทยเปลี่ยนแปลงไปทุกยุคทุกสมัยตามแต่อิทธิพลที่ได้รับมาจากกระแสสังคม
และวัฒนธรรม ซึ่งบ้างก็นิยมสาย ฝ. (ฝรั่ง) บ้างก็นิยมสายเกา (เกาหลี) โดยสามารถสังเกตเห็นจากภายนอกได้ง่ายๆ จากรสนิยมส่วนบุคคลอย่างแฟชั่น และสไตล์การแต่งตัว ที่บางทีก็ยากที่จะตามเทรนด์
ให้ทัน แต่ทว่าในปัจจุบัน ยังคงมีบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ต้องพยายามก็ตามทัน

และเรียกได้ว่าไม่มีเอาต์ เพราะสิ่งเหล่านั้นยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในชีวิต ที่เจือด้วยกลิ่นไอของความคลาสสิคซึ่งมีอยู่มาอย่างเนิ่นนาน กลายเป็นความผูกพันที่กลมกลืนเข้าด้วยกันกับไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นทุกสาย และยังคงขาดสิ่งเหล่านั้นไม่ได้ หากสงสัยแล้วว่าจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

• สเต็ปอัปดวงชะตา เขย่งคว้าเป้าหมายกับวัยรุ่นสาย “มูเตลู”

‘ดูดวง’ ‘แก้ชง’ และ ‘สะเดาะเคราะห์’ ยังคงเป็นคำค้นหายอดนิยมเสมอก่อนย่างเข้าสู่ศักราชใหม่ ซึ่งเรียกได้ว่าแม้เวลาจะผ่านไปแค่ไหนก็ยังคงหลงเหลือเอาไว้ ซึ่งความเชื่อของคนไทยที่สถิตอยู่คู่บ้านคู่เมืองมาอย่างยาวนาน ส่งผลต่อไลฟ์สไตล์ของผู้คนเจเนอเรชันใหม่ ที่ยังนิยมการมูเตลูเพื่อเสริมดวงชะตาและเติมเต็มความปรารถนาของตนเอง

ไม่ว่าจะเป็นด้านการเรียน การงาน การเงิน มงคลชีวิต ตลอดจนถึงเรื่องหัวใจที่ใครๆ ก็อยากจะสมหวังในความรัก แต่เพราะสะสมแต้มบุญเท่านั้นยังไม่พอ วัยรุ่นสายมู จึงขอพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบฟาสต์เลน ซึ่งถ้าหากลองสังเกตมองรอบตัวดีๆ จะเห็นได้ว่าไม่ได้มีเพียงแค่ไอเทมนำโชคที่มาในรูปแบบวัตถุมงคลเพียงเท่านั้น แต่ยังมีแบบกราฟิกออนไลน์อย่างวอลล์เปเปอร์ไพ่ทาโรต์ หรือแม้แต่เครื่องรางของขลังในยุคนี้ก็ยังสามารถกลับกลายเป็นเครื่องประดับสุดมินิมอลสวยๆ แบบดูดีมีสไตล์ ซึ่งได้รับความนิยมจากชาว Gen Z เป็นที่สุด!

• สับเท้าเข้า ‘โรงเรียนกวดวิชา’ คว้าเกรด 4 ตามวิถีของวัยรุ่น

การเรียนพิเศษที่โรงเรียนกวดวิชาที่เรียกได้ว่าได้กลายเป็นค่านิยม และวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่มีส่วนสำคัญในไลฟ์สไตล์ของนักเรียนไทย รวมถึงประเทศพัฒนาที่มีมาอย่างยาวนาน ที่ไม่ว่าจะเป็นเด็กเรียน
เด็กหลังห้อง หรือวัยรุ่นยุคไหนๆ ก็คงต้องผ่านประสบการณ์เรียนพิเศษที่สถาบันกวดวิชากันมาไม่มาก
ก็น้อย

ซึ่งนอกเหนือจากการมุ่งหวังที่จะพิชิตโจทย์หินในสนามสอบและก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยในฝันแล้ว อาจเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่บรรดาเด็กนักเรียนจะได้เปิดโลกทัศน์และทำความรู้จักกับสังคมในรูปแบบใหม่ๆ จากเพื่อนต่างสถาบัน อีกทั้งยังได้สนุกสนาน เพลิดเพลินไปกับรูปแบบการเรียนการสอนพร้อมผ่อนคลายความเครียดกับบรรยากาศที่แตกต่างออกไปจากในรั้วโรงเรียน

• ถูกใจวัยทีน ‘ยาดมสมุนไพร’ กับแพ็กเกจจิ้งใหม่ที่ (ไม่) เปลี่ยนแปลง

ยุติภาพจำเดิมๆ กับการดมยาดมสมุนไพร ว่ามีไว้เฉพาะชาว สว. (ผู้สูงวัย) เพียงเท่านั้น
เพราะเดี๋ยวนี้เขามียาดมโฉมใหม่สุดโมเดิร์น ออกมาจำหน่ายเพื่อตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ให้เลือกสรรมากมาย
ที่ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของกลิ่นหอมล้ำลึกเย็นสดชื่นของสมุนไพร ฉบับไทยแลนด์โอนลี่ที่ไม่ว่าชาติไหนมาเที่ยวประเทศไทยต่างก็ต้องซื้อติดมือกลับไปเป็นโหล

เช่นเดียวกันกับชาว #วัยรุ่นยาดม ที่มักจะควักไอเทมนี้มาใช้ก่อนที่หัวจะปวด ได้อย่างไม่ต้องกลัวว่าจะเสียลุกส์ เพราะยอมให้กับสรรพคุณที่อัดแน่นเต็มแท่ง ที่ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล หรือแม้แต่ใครที่รู้สึกเหนื่อยล้า เพียงเปิดฝาสูดดมสักทีสองทีก็บอกได้เลยว่า Super Refreshing!

• ‘รถเมล์’ คมนาคมคู่ใจ…และตลอดไปในความทรงจำ

ไม่ว่าจะรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ หรือรุ่นไหนๆ ก็รับประกันได้ว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จัก รถเมล์ และคงต้องยกให้เป็นตัวพ่อของวงการคมนาคมในประเทศไทยที่มัดใจมหาชนได้ด้วยราคาค่าโดยสารที่ย่อมเยา จากในอดีตที่เริ่มต้นในราคา 75 สตางค์เพียงเท่านั้น นอกจากนี้ ยังอาจเป็นต้นตอของเรื่องราวความทรงจำในวันวานของใครบางคนระหว่างที่กำลังไปถึงปลายทางทั้งเรื่องดี เรื่องร้าย หรือเรื่องราวที่ใครๆ ก็ไม่อาจคาดคิดมาก่อน

ทำให้เกิดเป็นความผูกพันที่รถเมล์นั้นยังคงอยู่คู่คนไทย และทำหน้าที่ขนส่งมวลชนมาได้เป็นเวลายาวนานหลายสิบปี ซึ่งได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นรถแอร์ สีครีมน้ำเงิน รถแอร์ยูโรทู สีส้ม รถแอร์ NGV สีฟ้า และล่าสุด กับรถโดยสารพลังงานไฟฟ้าฝีมือคนไทย สีน้ำเงิน กับไทย สมายล์ บัส ที่เปิดให้บริการแล้ว 13 เส้นทาง พร้อมกับบัตรโดยสารเติมเงินใบเดียวเที่ยวได้ทุกที่อย่าง Hop Card งานนี้คงต้องขออำลา รถเมล์ร้อนสีขาวแดงตลอดกาลเพราะจะใกล้ถึงคราวอวสานแล้ว

• ไปรษณีย์ไทย มิตรแท้คู่ทุกบ้าน กับโลโก้ติดตามองหาง่ายที่กระจายอยู่ทุกอำเภอ

เรียกได้ว่าเห็นมาตั้งแต่จำความได้! สำหรับแบรนด์ขนส่งสีแดงโลโก้รูปซองจดหมายบิน
คล้ายจรวดที่อยู่คู่ฟ้าเมืองไทยมายาวนานกว่า 14 ทศวรรษ อย่าง “ไปรษณีย์ไทย” ที่มาพร้อมกับวีรบุรุษแห่งจีพีเอสในวงการส่งด่วนอย่างบุรุษไปรษณีย์ที่ ปัจจุบันนี้มีอยู่ถึงกว่า 20,000 คนทั่วประเทศ เป็นที่มาของคำพูดฮิตติดปากของผู้คนทุกยุคทุกสมัย และยังคุ้นชินกับการเรียกการส่งพัสดุทุกยี่ห้อแบบเหมาๆ ว่า “ส่งไปรษณีย์” แม้ว่าจะมีขนส่งคลื่นลูกใหม่มากมายก็ตาม

ซึ่งต้องยังยกนิ้วโป้งค้างไว้และกดไลก์ให้แบบรัวๆ เพราะบริการที่เข้าอกเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เป็นไปตามกระแสนิยม ไม่ว่าจะเป็นบริการพลังความล้ำสุดไฮเทคอย่าง Digital Post ID, E-Timestamp หรือ แอปพลิเคชัน Prompt Post ที่ช่วยรวบรัดขั้นตอนให้พ่อค้า-แม่ค้าออนไลน์สามารถฝากส่งล่วงหน้าทางไปรษณีย์ได้รวดเร็วมากขึ้น