จูรี จริงจัง อยากเป็นผู้แทน ช่วยบ้านเกิด ลืมตาอ้าปาก ยืนด้วยตัวเอง

จูรี จริงจัง อยากเป็นผู้แทน ช่วยบ้านเกิด ลืมตาอ้าปาก ยืนด้วยตัวเอง

เรียกเสียงฮือฮาไปไม่น้อย หลังจากออกมาเผยตัวเลขรายได้ จากการผันตัวมาสวมบทบาทเป็น “จูรี” บนโลกออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มสำคัญๆ อย่าง ติ๊กต็อก เฟซบุ๊ก ยูทูบ โดยใช้เวลาเพียง 11 เดือน สามารถผันเงินในอากาศเข้ามาสู่บัญชีธนาคารของตัวเองได้ถึง 56 ล้านบาท

แต่ก่อนที่จะเข้าไปเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคหารายได้ชนิดน่าทึ่ง ของ “จูรี” ขอทำความรู้จักกับตัวตนของเขา ให้มากขึ้นสักหน่อย

“เคยไปเป็นผู้ประกาศข่าวอยู่ที่ช่องเวิร์คพอยท์ และเคยรับราชการอยู่ที่สำนักงานศาลปกครอง มาอย่างละ 5 ปี ค่ะ” จูรี เกริ่นบทสนทนา กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ด้วยบุคลิกชวนยิ้ม

พอถูกถามต่อ ก่อนจะมาถึงวันนี้มีพื้นเพอย่างไรบ้าง ได้คำตอบกลับมายาวเหยียด

“จะใช้คำว่าเกิดมาในฐานะที่ยากจนก็ไม่ได้ มันต้องขั้นกว่าของคำว่าจน รากเหง้าบรรพบุรุษ คือ ทำนา ออกเล อยู่ในอำเภอระโนด สงขลา ตั้งแต่รุ่นทวดแล้ว ฐานะจนกันมารุ่นต่อรุ่น จนกันมาด้วยความภาคภูมิใจ คือ จนสะสมกันมายาวนาน พอมาถึงรุ่นเรา มันกำลังจะยัดเยียดสิ่งเหล่านั้นให้กับเราอีก เลยฮึดสู้ว่า เราเลือกเกิดเลือกไม่ได้ แต่เลือกที่จะทำ เลือกจะเป็นอะไรก็ได้ เลยไปตั้งใจเรียนก่อน”

ทางบ้านมีกำลังส่งเสียให้มาเรียนต่อในกรุงเทพฯ? จูรี ตอบว่า

“ไม่มีหรอก คือ พอจบ ม.6 ที่นวมินทร์ สงขลา ปุ๊บ ก็คิดว่า ต้องเรียนต่อยังไงก็ได้ให้สูงที่สุดก่อน ก็มาเรียนกฎหมาย แต่ไปเรียนมหาวิทยาลัยปิดไม่ได้ เพราะค่าเทอมหมื่นกว่าบาท แม่ไม่มีปัญญาส่ง เลยตัดสินใจมาเรียนที่รามฯ พกเงิน 9,000 บาทมา หลังจากนั้นพ่อแม่ไม่ได้ส่งเลย เพราะว่าขอไปก็ไม่มี แล้วก็ติดต่อไม่ได้ เพราะที่บ้านไม่มีโทรศัพท์”

ก่อนย้อนความหลังให้ฟังต่อ ตอนเรียนปี 1 ทำงานในเซเว่นฯ ได้เงินเดือนละ 5,200 บาท แต่ไม่มีเวลาอ่านหนังสือ เลยลาออกมารับจ้างแบกข้าวสารตามงานอีเวนต์ ทำแบบ 10 วัน ได้วันละ 500 บาท ดีกว่า เพราะที่เหลืออีก 20 วัน จะได้ไปอ่านหนังสือ นอกจากนี้ ก็รับจ้างทั่วไป เป็นผู้ช่วยไกด์บ้าง แบกกระเป๋าให้เจ้านาย บ้าง

จูรี นุ่มแก้ว

ใช้เวลาเพียง 2 ปีครึ่ง เรียนจบ แล้วทำอะไรต่อ จูรี บอกว่า ตอนนั้นอยากเป็นข้าราชการ คือ ในบ้านไม่เคยมีใครเป็นข้าราชการสักคน เลยอยากเป็นให้พ่อแม่สักครั้งหนึ่ง ไหนๆ เรียนกฎหมายมาแล้วก็ไปสอบ กระทั่งได้รับราชการที่ศาลปกครอง ตำแหน่งพนักงานคดีปกครอง เป็นผู้ช่วยตุลาการ ทำอยู่ 5 ปี ควบคู่กับการเป็นผู้ประกาศข่าว เพราะตอนนั้นคิดว่ารายได้ทางเดียวไม่พอเลี้ยงครอบครัวแน่นอน

“ตอนบรรจุ ได้เงินเดือน 36,000 ผ่อนบ้าน 18,000 ผ่อนรถ 13,000 หมดแล้ว 31,000 เหลือ 3,000-4,000 ลูกเมียไม่ต้องกินอะไรแล้ว ตอนนั้นเลยคิดทำยังไงให้เพิ่มรายได้อีกช่องทางหนึ่ง ซึ่งจังหวะมันได้พอดีตอนที่ไปแข่งขันรายการหนึ่งแล้วเป็นแชมป์ มันก็ไหลไปเรื่อย จนได้ไปนั่งเล่าข่าว เป็นผู้ประกาศข่าว” จูรี ย้อนเรื่องราว ให้ฟังอย่างนั้น

หลังชนฝา ภาระเยอะ

เล่น ติ๊กต็อก คลายเครียด

เพราะมีความสามารถด้านการพูดรึเปล่า จึงผันตัวมาทำคอนเทนต์บนออนไลน์ จูรี ส่ายหน้าดิก ก่อนตอบจริงจัง

“โหยยย…ไม่เคยเห็นค่า ไม่เคยรู้ว่ามัน เห็นเขาทำกัน มีคำว่ายูทูบเบอร์ แต่ไม่ได้มีความปรารถนา หรือความ Want อยากจะไปทำ หรือไม่เห็นความสำคัญ เพราะเราคิดว่ารายได้ที่มีอยู่มันเลี้ยงดูเราได้แล้ว คิดว่ามั่นคงแล้ว”

แล้วจุดเปลี่ยนคืออะไร จูรี บอกว่า มาเห็นค่าก็ตอนรู้ว่า ความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน จากอ่านข่าว 7 วัน เหลือ 2 วัน เงินเดือนราชการจาก 30,000-40,000 เหลือเดือนละ 4,000 เพราะหักสหกรณ์หมด เพราะเรากู้หนี้ กู้อะไรมา การที่เราคิดว่าเป็นลูกจ้างเขา อ่านข่าวมั่นคง ก็กลับไม่มั่นคง ทีนี้หลังมันชนฝา เกิดความเครียด คิดว่าทำยังไงดี

จูรี เล่าต่อว่า บุคคลสำคัญ ที่ชักนำตัวเขา เข้าสู่วงการ ติ๊กต็อก เป็นอันดับแรก ก็คือ ภรรยาของเขานั่นเอง

“เมื่อประมาณเมษายน ปี 65 กลับบ้านมา เห็นเมียดูติ๊กต็อก ตอนนั้น คลั่ง นุ๊ก-ปาย มาก รูดทั้งวัน ส่วนเรานี่เครียดตกงานมา ทำยังไงดี เขาก็บอกจะเครียดทำไม ลองไปโหลดติ๊กต็อก มาเล่น ดูสิ คือ เชียร์ให้ไปโหลดมาเพื่อคลายจากความเครียดเพราะตกงาน  พอรูด รูด ปุ๊บ เฮ้ย! เออ มันมีความสุขดี 1 ชั่วโมง สามารถรู้เรื่องคนอื่นได้เป็น 50-60 เรื่อง” จูรี บอกยิ้มๆ

หลังจากทำตามคำแนะนำของภรรยา หวังคลายเครียด โดยเปิดช่อง “แหลงเล่า” เป็นคอนเทนต์ เล่าข่าวสารบ้านเมือง ในสไตล์ภาษาใต้ อย่างที่เขาถนัด ทำอยู่ 1 เดือน มีคนมาติดตาม 26 คน เป็นญาติพี่น้อง เป็นพ่อแม่ เป็นเมีย รวม 25 คน มีคนนอกหลงมาคนหนึ่ง

“ถ้าไม่ท้อแท้ก็ทำไปเรื่อยๆ จนมีอยู่คลิปหนึ่ง ได้เป็นคลิปแจ้งเกิด เป็นคลิปคนดังในภาคใต้ พูดเรื่องซื้อเสียง ปรากฏมีคนมาดูคลิปนี้ คืนเดียว 3 ล้านกว่าวิว และมาพร้อมคนติดตาม 18,000 คน เลยจับทางได้ว่า อ๋อ! คอนเทนต์หรือคลิปที่ต้องทำต้องเกี่ยวกับกระแสสังคม เป็นหัวข้อ 5 เรื่องสำคัญของประเทศในวันนั้นคนถึงจะเข้าไปดู”

“หรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว เรื่องที่อยู่ในใจของแต่ละคน ในสังคมไทย แต่เขาไม่กล้าพูด เราเอามาพูดแทนเขา เช่น เรื่องผัวๆ เมียๆ บ่นผัว บ่นเมีย เลยมาทำเรื่องเกี่ยวกับพวกนี้ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 เดือน พบจุดเปลี่ยนจากคนตามไม่กี่คน มาเป็นมีคนตามระดับ 2-3 แสนคน” จูรี เล่าสนุก

นับพันแบรนด์ ให้รีวิว

กาแฟ ยาสีพัน ยัน โลงศพ

แม้จะมีคนติดตามเป็นตัวเลขน่าชื่นใจ แต่รายได้จากออนไลน์ ก็ยังไม่เกิด กระทั่งได้ไปอ่านบทความหนึ่งเจอมาว่า การทำออนไลน์ หรือจะทำอะไรให้คนรู้สึกชอบในตัวเรา อย่าเพิ่งคิดว่าจะทำคอนเทนต์อะไร แต่ให้มาคิดก่อนว่า จะเอาตัวเองออกมาในคาแร็กเตอร์ไหน ภาพแบบไหนที่คิดว่าคนน่าจะชอบในคาแร็กเตอร์แบบนี้ พอได้แล้วค่อยไปหาคอนเทนต์ คราวนี้พอทำคอนเทนต์อะไรคนก็ดูแล้ว

“เล่นเป็น จูรี ได้ประมาณ 2 EP ข้อความเข้ามาเลย พี่จูรี รับรีวิว กาแฟ หรือเปล่า นี่เป็นข้อความรายได้แรกที่นำเข้าสู่ช่อง แต่คิดราคาไม่ถูก เลยบอกเอา 3,500 บาทพอ เพราะตอนนั้นอยากได้เงินมาก เพราะว่าตกงาน กลัวเขาจะไม่รับด้วย เพราะอ่านแล้วเฉยๆ เลยบอกไม่ได้จบแค่ 3,500 บาทนะ แถมให้อีก 3 คลิปด้วย” จูรี เล่า ก่อนยิ้มกว้าง

นึกสงสัย ไอเดียแต่ละเรื่อง ได้มายังไง จูรี เผยใหฟัง

“ที่ผ่านมามีคนอินบ็อกซ์มาถามใครเป็นคนเขียนบทให้ เลยบอกไป ยูทูบเบอร์ หลายคนดังกันแล้ววงแตก แต่ จูรี ไม่รู้จะทะเลาะกับใครเพราะทำอยู่คนเดียว เขียนบทเอง ทำสคริปต์ทำเอง บทก็ไม่ได้เขียน เพราะมันรันอยู่ในหัว ตัดต่อเอง ทุกอย่างทำเองคนเดียว”

จูรี บอกอีกว่า หากใครอยากทำออนไลน์ให้ดังอย่าเพิ่งไปคิดถึงว่าจะเอาครอบคลุมทั้งประเทศ แค่คุณดังในภาคของคุณ คือ กินไม่หมดแล้ว ลองคิดดูในภาคของคุณมีผู้ประกอบการ มีซีอีโอ มีนักธุรกิจ มีร้านอาหาร ห้างร้าน โรงแรม ร้านค้าเท่าไหร่ ขนาดตัวเขาเอง ทุกวันนี้แค่ในพื้นที่ภาคใต้ เขายังทำให้ไม่หมดเลย

“ออนไลน์ มันไร้พรมแดน ขายอยู่ที่รังสิต คนหนองคาย ได้กินปลาหลังเขียวแห้งของแม่ผมจากระโนด สงขลา คนบุรีรัมย์ได้กิน เชียงใหม่ได้กิน ทุกคนมีโอกาสสั่งซื้อได้ พร้อมกัน นี่คือ อำนาจและอิทธิพลของออนไลน์ ที่รู้สึกว่ามันสามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้ชั่วข้ามคืนจริงๆ” จูรี บอกจริงจัง

ก่อนเผยประสบการณ์ ตบมุกโบ๊ะบ๊ะ ตามสไตล์

“เคยไลฟ์ขายของ สมัยเป็นผู้ประกาศข่าว คนดูประมาณ 90 คน ยอดขายเต็มที่ 2,000-3,000 บาท 50 ห่อ 100 ห่อ ดีใจแล้ว ในจุดหนึ่งที่ช่วยขายของแม่เราได้ แต่พอมาเป็นจูรี ทำออนไลน์สำเร็จ ยอดขายออนไลน์ผ่านระบบดูดเนี่ย โอ้โห ไม่อยากจะพูดมาก ถ้าพูดแล้วหลายภาคส่วนจะเข้ามา แต่ที่ผ่านมาทำถูกต้องหมดนะ ฝากเรียนด้วย เพราะตอนนี้เริ่มตามตัวกันแล้ว”

นอกเหนือจากรายได้จากการไลฟ์สดขายของ อีกส่วนหนึ่ง คือ รับรีวิวสินค้า เรื่องนี้ จูรี เผยให้ฟังว่า มีเจ้าของสินค้าติดต่อเข้าเกือบ 1,000 แบรนด์ แต่ต้องทยอยทำให้ และเลือกรับงานด้วย

“พวกผิดกฎหมาย เว็บพนัน ไม่ทำ ตัดออกไป อย่าว่าแต่เว็บพนันเลย แม้แต่โลงศพ ยังมาให้จูรี รีวิวโลงศพหน่อย แต่ยังไม่ได้ทำให้ แต่ไปตกปากรับคำให้เขาแล้วที่นครศรีธรรมราช ตั้งใจว่าจะไปนอนในโลง แล้วลุกขึ้นมา เฮ้ เธอ มันใช้ดีจริง นอนสบาย เย็นเฉียบเลยเธอ” จูรี ออกลีลาขำไม่หยุด

ออนไลน์ เค้กก่อนใหญ่

เริ่มได้เลย วันนี้ไม่สาย

กระซิบถามถึงรายรับ จากบทบาท จูรี อินฟลูฯ สายใต้ คนดัง มีท่าทีจริงจังขึ้น ก่อนเผย อยากบอกให้ฟังเป็นแรงบันดาลใจ ไม่ใช่ว่ามาโม้ โอ้อวด แต่พูดจากคนที่ติดลบหลังชนฝา คนที่จะเอาตัวรอด พาครอบครัว พาลูกเมีย พ่อแม่ รอดยังไง เราใช้เวลา 11 เดือน กับการอยู่ในออนไลน์ สามารถที่จะผันเงินที่อยู่ในอากาศ มันเป็นเงินในอากาศหมดเลยนะ เข้ามาในบัญชีเรา เป็นรายได้ในช่องทางต่างๆ ประมาณ 56 ล้านบาท

ออนไลน์ คือ เค้กก้อนใหญ่ เริ่มเลยยังไม่สาย

ซึ่งถ้าเป็นแต่ก่อน ด้วยอาชีพรับราชการ หรืออาชีพบางอย่าง หรืออาชีพที่ไม่ได้เป็นออนไลน์ เป็นออฟไลน์  มันยากมากที่จะไปหาเงินปริมาณนี้ จากคนที่ไม่มีต้นทุนอะไรเลย ครอบครัวไม่ได้เป็นนักธุรกิจมันยากมาก แต่ออนไลน์ทำได้ ออนไลน์สามารถทำโอกาสตรงนี้ให้ได้

อยากปัง ทั้งชื่อเสียง และรายได้ อย่างจูรี ต้องทำยังไง ได้คำตอบดีๆ กลับมาว่า สิ่งแรกที่ต้องคิดก่อน ทุกคนมีโทรศัพท์ นั่งรูดโทรศัพท์ รูดแล้วก็เป็นค่าใช้จ่าย ค่าเน็ต ค่าโทรศัพท์ เป็นค่าเอฟสินค้า ต้องหยุดคิดแบบนั้นก่อน แล้วมาคิดว่าทำยังไงถึงจะทำรายจ่ายให้เป็นรายรับเข้ามา แล้วทีนี้มาหาวิธีการ มาตั้งช่องมาทำช่อง ส่วนวิธีการอย่างที่บอกไป คุณต้องไปหาคาแร็กเตอร์ หาสไตล์ของคุณก่อน แล้วค่อยมาทำคอนเทนต์

ซึ่งคอนเทนต์ ทำได้หลากหลาย แม้กระทั่งไม่ต้องเอาตัวเองมานำเสนอหน้าจอ หน้ากล้องก็ยังได้เลย ยกตัวอย่าง มีคุณลุงคนหนึ่ง เขาแค่เอากล้องของเขาไปตั้งถ่ายนกกรงหัวจุก ให้นกมันร้องใส่กล้อง อัดไป 1 ชั่วโมง ตัวลุงเองไม่เคยเข้ากล้องเลย แล้วเอาเสียงนี้ไปอัปลงไปในยูทูบ ปรากฏลุงคนนี้ได้ทุกเดือน เดือนละ 60,000 บาท โดยที่ตัวเองไม่เคยโผล่เข้ากล้องเลย

ฟังมาถึงตรงนี้ คงมีหลายคนคิดทำคอนเทนต์หารายได้ ว่าแต่ว่า มันสายไปหรือยัง จูรี ตอบประเด็นนี้จริงจัง

“บอกทุกคนเลย มันไม่เคยสาย บางคน เอ๊ย! ไม่ทำแล้ว จูรี มีคนไปตามจูรี หมดแล้วล้านกว่าคน แล้วจะเหลือมาถึงฉันกี่คน อยากจะบอกว่า ฉันเพิ่งเริ่มเมื่อ 11 เดือนที่แล้ว ในขณะที่คนดังในยูทูบ เกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย อย่าง เจนนี่ มีคนตาม 14 ล้าน ตอนนั้นฉันยังมีคนตาม 26 คนอยู่แลย ฉะนั้น เริ่มได้ทุกวัน เพราะออนไลน์ เป็นเค้กก้อนใหญ่มาก ที่ทุกคนจะเข้าไปแชร์ได้”

“ไม่ใช่เขาผูกขาดว่า Account นี้ ไปตามช่องนี้แล้วไม่มีสิทธิ์ไปตามช่องอื่น ถ้าของคุณดีจริง ยังไงคนก็ดู คนก็ตาม แล้วเกิดได้ ออนไลน์เกิดได้ทุกวัน ไม่เหมือนกับแต่ก่อน ถ้าอยากจะดังต้องไปเดินสยามพารากอน ให้แมวมองมาเจอ โอ๊ย! กว่าจะดังได้ ยากแสนยาก ต้องไปหาแมวมอง เดี๋ยวนี้ออนไลน์ทุกคนมีสิทธิ์ดังได้ทุกวัน เราไม่รู้ว่าคลิปเราลงๆ ไปมันจะปัง มันจะขึ้นหน้าฟีดของติ๊กต็อกขึ้นมาวันไหน

ก่อนจบบทสนทนาสนุก-มีสาระ ขอถามถึงก้าวต่อไปของจูรี ได้คำตอบทิ้งท้ายกลับมาว่า

“อยากตอบแทนให้แผ่นดินเกิด และทุกวันนี้ฐานะครอบครัวก็มั่นคงแล้ว จึงอยากนำสิ่งที่มั่นคงแบบเดียวกันนี้ ไปให้คนรอบข้าง ชุมชนบ้านเรา ได้พลอยยืนได้ด้วยตัวเอง ลืมตาอ้าปากได้ อย่างน้อยๆ คือได้ผลักดันเรื่องออนไลน์ ให้ร้านค้า ร้านก๋วยเตี๋ยว ทุกผู้ประกอบการ ได้เข้าใจและนำออนไลน์ไปผลักดันธุรกิจของตัวเองจนทำให้ตัวเองยืนได้ เศรษฐกิจของบ้านเมืองสังคมดีขึ้นแค่นั้นเอง เลยอยากเป็นผู้แทน”

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 28 ก.พ. 2023