มนุษย์เงินเดือน เก็บเงินไม่อยู่ แต่อยากพิชิตเงินล้าน ต้อง ลด-ละ-เลิก 6 นิสัยนี้

มนุษย์เงินเดือน เก็บเงินไม่อยู่ แต่อยากพิชิตเงินล้าน ต้อง ลด-ละ-เลิก 6 นิสัยนี้

มนุษย์เงินเดือนหลายคนอาจเคยเจอปัญหาการออมเงิน เช่น ออมเท่าไหร่ก็ไม่ถึงเป้าหมายสักที หรือเงินไหลออกทุกเดือน นั่นไม่ใช่ว่าเราเป็นคนเก็บเงินไม่เก่ง แต่บางครั้งอาจกำลังติดนิสัยหรืออุปสรรคบางอย่าง

ลองมาดูกันดีกว่า ว่าคุณกำลังมี 6 นิสัยที่เป็นอุปสรรคในการออมเงินอยู่หรือไม่ 

1. เลิกใช้เงินก่อน แล้วออมทีหลัง

เงินเดือนเข้าบัญชีปุ๊บ ก็โอนออกไปใช้จ่ายปั๊บ เหลือเท่าไรค่อยนำมาเป็นเงินเก็บ ลองเปลี่ยนวิธีเป็นการออมเงินก่อนแล้วค่อยใช้ทีหลังแทน จะช่วยให้ออมเงินตามเป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ควรกำหนดจำนวนเงินที่ต้องการออมในแต่ละเดือนไว้ด้วย เพื่อสร้างความสม่ำเสมอ และทำจนเป็นนิสัย เช่น เมื่อเงินเดือนเข้า จะหัก 10% ของเงินเดือนมาเป็นเงินออมทันที เหลือเท่าไรค่อยนำไปใช้จ่าย หรือสร้างนิสัยรักการออม โดยการหยอดกระปุกทุกวัน วันละ 100 บาท เป็นต้น

2. เลิกตามกระแส

ปัจจุบัน โซเชียลมีเดียเข้ามามีผลต่อนิสัยของมนุษย์เป็นอย่างมาก ทำให้ผู้บริโภคตกเป็นทาสการตลาด ช้อปจนอาจลืมคำนึงถึงความจำเป็น ทำให้บ่อยครั้งเรามักจะหมดเงินไปกับกระแสนิยม ดังนั้น ก่อนใช้จ่ายสิ่งใด ควรคำนึงถึงความจำเป็นก่อนเสมอ ซื้อของเพราะต้องใช้ ไม่ใช่เพราะของมันต้องมี

3. เลิกก่อหนี้ โดยไม่จำเป็น

รูดไปก่อน ค่อยจ่ายทีหลัง เพื่อตัดปัญหาเหล่านี้จึงควรเลิกก่อหนี้โดยไม่จำเป็น และรู้จักบริหารเงินอย่างชาญฉลาด เช่น รูดบัตรเครดิตในจำนวนเงินที่ผ่อนไหว, ไม่ใช้จ่ายเกินตัว เป็นต้น สามารถเลือกใช้บัตรเครดิตที่ตอบโจทย์การใช้จ่ายของมนุษย์เงินเดือนอย่างเราๆ ได้มากยิ่งขึ้น เช่น บัตรเครดิตที่มีบริการแบ่งชำระค่าสินค้าและบริการ 0% ตามกำลังที่สามารถแบ่งจ่ายได้

4. เลิกใช้เงินแบบไม่วางแผนอนาคต

หากประสบปัญหาเงินเดือนไม่พอใช้ถึงสิ้นเดือน หรือวางแผนทางการเงินไม่ดีพอ ลองหันมาทำรายการสรุปค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน โดยจดบันทึกค่าใช้จ่ายรายวัน-รายสัปดาห์ รวมถึงการทำงบการเงินล่วงหน้าเพื่อประเมินรายรับ-รายจ่ายที่จะเกิดขึ้น จะช่วยให้บริหารเงินได้ดียิ่งขึ้น

5. เลิกลงทุนโดยไม่ศึกษาให้รอบคอบ

ไม่ว่าจะลงทุนอะไรก็ตาม ควรศึกษาให้ละเอียดด้วยตัวเอง โดยทำความเข้าใจ พร้อมทั้งศึกษารายละเอียดเงื่อนไขต่างๆ วางแผนการลงทุนให้รอบด้าน หากต้องการคำแนะนำ ก็ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

6. เลิกเก็บเงินบัญชีเดียว

การใช้จ่าย และเก็บเงินในบัญชีเดียวกันนั้น อาจทำให้เผลอใช้เงินเก็บไปโดยไม่รู้ตัวได้ ดังนั้น ควรแยกบัญชีเงินออม และเงินสำหรับใช้จ่ายออกจากกัน และควรแยกบัญชีตามจุดประสงค์ในการออมเงิน เช่น แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน คือ สำหรับใช้จ่าย, สำหรับออมเพื่อลงทุน และสำหรับออมไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เป็นต้น

หลังจากได้สำรวจตัวเองเพื่อ ลด-ละ-เลิก นิสัยที่ทำให้เก็บเงินไม่อยู่กันไปแล้ว ยังมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ ในการพิชิตเงินล้านแบบฉบับมนุษย์เงินเดือนมาฝากกัน เพียงแค่มี 3 ป. พิชิตเงินล้าน ฉบับพนักงานเงินเดือน

1. ป้องกันความเสี่ยง

การมีเงินทุนสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน เป็นหนึ่งสิ่งสำคัญในการป้องกันความเสี่ยงด้านการเงิน เนื่องจากอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน การมีเงินสำรองไว้สักก้อนจึงเป็นสิ่งที่ทำอุ่นใจมากกว่า

โดยควรมีเงินสำรองฉุกเฉิน สำหรับใช้อย่างน้อย 6-12 เดือน เผื่อไว้ในกรณีขาดรายได้ หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น หากมีรายรับ 25,000 บาทต่อเดือน และมีรายจ่ายรวมต่อเดือน 14,000 บาท ดังนั้น ควรมีเงินสำรองฉุกเฉินประมาณ 84,000-168,000 บาท (6-12 เท่าของรายจ่ายต่อเดือน)

และอีกหนึ่งสิ่งที่คนมักมองข้าม นั่นคือ การซื้อประกันสุขภาพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับป้องกันความเสี่ยงทางการเงิน เพราะเมื่อเจ็บป่วยขึ้นมากะทันหัน ประกันสุขภาพก็ช่วยประหยัดเงินก้อนไปได้อีกเยอะ

2. ปลอดหนี้

รักษาสภาวะปลอดหนี้ เพื่ออนาคตทางการเงินที่มั่นคง เช่น ก่อนรูดบัตรเครดิตซื้อของ ควรศึกษาเงื่อนไขและโปรโมชั่นให้ดีก่อน

3. เปลี่ยนเงินออมให้งอกเงย

หากแบ่งเงินเดือนละประมาณ 5,000 บาท เพื่อออม หรือลงทุนในกองทุนที่น่าสนใจ ได้ผลตอบแทนดี และเลือกความเสี่ยงในระดับที่สบายใจ จะช่วยเปลี่ยนเป้าหมายชีวิตให้กลายเป็นความจริง อย่างไรก็ตาม การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ฉะนั้น ควรศึกษาให้ดีก่อนเลือกลงทุนที่กล่าวมาข้างต้น

ขอบคุณข้อมูลจาก fintips by ttb