ฟิล์ม กระจกกันรอย เคสมือถือ แข่งขันดุเดือด ไฮชิลด์ ขายได้ทะลุทะลวง

ฟิล์ม กระจกกันรอย เคสมือถือ แข่งขันดุเดือด ไฮชิลด์ ขายได้ทะลุทะลวง

ปฏิเสธไม่ได้ ปัจจุบัน “สมาร์ทโฟน” กลายเป็นปัจจัยที่ 5 ของผู้คนบนโลกยุคนี้ไปเรียบร้อยแล้ว และนั่นย่อมหมายความว่า อุตสาหกรรมสินค้าที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่ผลิตภัณฑ์พื้นฐาน อย่าง ฟิล์ม กระจกกันรอย เคส และอีกสารพัดแกดเจ็ต ย่อมมีความคึกคักไปด้วย ทั้งยังมีความเข้มข้นขึ้นตามลำดับอีกต่างหาก

ไฮชิลด์ คือ แบรนด์สินค้าประเภทฟิล์มและกระจกกันรอยสมาร์ทโฟน เกรดพรีเมียม ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ราว 8 ปีที่แล้ว โดยเป็นการต่อยอดธุรกิจฟิล์มกรองแสงรถยนต์ของครอบครัว มีผู้บริหารเป็นฝาแฝดสาวมากความสามารถ คือ คุณเกศ-ชลิฏา และ คุณแก้ว-ชลฑิชา วณิชชากรพงศ์ ช่วยกันดูแล

“ตอนนั้นทำธุรกิจฟิล์มรถยนต์ ก็ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับฟิล์มกันรอยโทรศัพท์เท่าไหร่ แต่คิดว่าไม่ยาก เพราะเป็นฟิล์มเหมือนกัน ซึ่งฟิล์มรถยนต์เทคโนโลยีก็สูงกว่า แล้วทำไมฟิล์มกันรอยมือถือจะนำเข้ามาไม่ได้ ทำไมจะขายไม่ได้ล่ะ” สองผู้บริหารสาว เผยความคิดเริ่มต้น ให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังอย่างนั้น

สองผู้บริหาร ไฮชิลด์

เมื่อคิดจะกระโดดเข้ามาในตลาด ก็ต้องมีการสำรวจสภาพความเป็นไปกันก่อน ปรากฏพบข้อมูล สินค้าประเภทฟิล์มกันรอย ที่มีขายอยู่ในเวลานั้น ไม่มีสินค้าจากผู้ผลิตที่เป็นคนไทยเลย ทั้งหมดล้วนเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศ อย่าง จีน สหรัฐ ก่อนที่จะนำมาทำแบรนด์ของตัวเอง ซึ่งมีเจ้าครองตลาด เป็นแบรนด์หลักอยู่แค่ 1-2 แบรนด์

ครั้นเห็นพอมี “ช่องทาง” ให้เข้าไปในตลาดได้ จึงตัดสินใจเริ่มต้นด้วยการสั่งนำเข้าสินค้าที่คิดว่าเหมาะกับตลาดเมืองไทย ก่อนสร้างแบรนด์ ไฮชิลด์ (Hi Shield) เจาะกลุ่มตลาดพรีเมียม ซึ่งได้การตอบรับค่อนข้างน่าพอใจตลอด 3 ปี

“3 ปีแรก เรียกว่าเป็นช่วงปราบเซียนเหมือนกัน คือ เรื่องสต๊อก ถ้าสั่งเข้ามาเยอะ ขายไม่หมด เดี๋ยวก็มีมือถือรุ่นใหม่เข้ามาแล้ว ช่วงเรียนรู้ หาประสบการณ์ หมดทุนไปหลายเหมือนกันนะคะ” สองสาวเล่า ก่อนหัวเราะอารมณ์ดี

หลังจากนั้น มีเหตุอันต้องมาเจอกับ “มรสุมทางธุรกิจ” ที่ทำให้ขาดทุนติดๆ กัน เสียหายหนักถึงขั้นท้อ

“มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่ซัมซุง ออกรุ่น โน้ต 7 จอโค้ง พอติดฟิล์มของเราเสร็จเรียบร้อยแล้ว มันกระเด้งออกมา ตอนนั้นลูกค้ากันเคลมเยอะมาก เราก็เคลมให้ทั้งหมด คือ เคลมเยอะมากจนไม่มีกำไร เป็นช่วงที่ท้อพอสมควร แต่ก็อดทนฟันฝ่าทำมาถึงทุกวันนี้” สองผู้บริหาร บอกยิ้มๆ

เติบโต 40 เปอร์เซ็นต์

เมื่อถามถึงสถานการณ์ตลาดแกดเจ็ตมือถือ ยุคที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน คู่สนทนา บอกว่า  มีการแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะ แบรนด์เจ้าตลาดเดิม มีความแข็งแรงมาก เพราะขายมานานก่อนไฮชิลด์ เป็นสิบปี สามารถทะลุทะลวงผู้บริโภคทุกตรอกซอกซอย การเข้าไป “ง้างใจ” ผู้บริโภค ให้เปิดรับแบรนด์น้องใหม่ (ในเวลานั้น) จึงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก

สองผู้บริหารสาว จึงใช้กลยุทธ์ แบ่งเป็น 2 เซกเมนต์ คือ จับลูกค้ากลุ่มบน คือ มีประกันพรีเมียม รับประกันตลอดอายุการใช้งาน และกลุ่มรองลงมา คือ สินค้ามาตรฐานใกล้เคียงกัน ที่มีประกันเหมือนกัน แต่อาจมีระยะเวลาในการประกัน

“กลยุทธ์ของเรา ไม่เน้นให้คนมาใช้สินค้าตามพรีเซ็นเตอร์ แต่ชูความแข็งแรงของตัวสินค้า รีวิวด้วยการนำลูกตุ้มมาทดลองทุ่มใส่ กระจกไม่แตก และกล้ารับประกันตลอดอายุการใช้งาน ถ้าแตกเมื่อไหร่ ก็มาเปลี่ยนได้ทันทีค่ะ” เจ้าของผลิตภัณฑ์ ว่ามาอย่างนั้น

แม้จะมีการแข่งขันกันสูง แต่สองผู้บริหารสาว กระซิบบอกว่า

“ตอนนี้ธุรกิจของไฮชิลด์ ดีมากค่ะ เติบโตขึ้นอย่างเยอะ ปีที่แล้ว เติบโตขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ เรียกว่ายอดขายทะลุทะลวง เลยทีเดียว”

เมื่อถามถึงแผนธุรกิจที่วางไว้ นับจากนี้ สองผู้บริหาร ช่วยกันบอกว่า สำหรับตลาดบน ค่อนข้างทำได้ดีแล้ว ต่อไปจึงขยายไปในตลาดแมส มากขึ้น คือ ฟิล์ม-กระจก กันรอย นั้นค่อนข้างขายดีมากแล้ว ต่อไปจึงจะรุกสินค้าประเภทเคสมากขึ้น เพราะถ้ามีลูกค้าคนใช้เคสของเราได้จำนวนเท่ากับกระจกกันรอย ก็จะเพิ่มยอดขายได้มากอีกเท่าหนึ่งเลย