คลังยันเงินคงคลังเหลือ 7 หมื่นล้าน อยู่ในเกณฑ์เหมาะสม (คลิป)

นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกระแสข่าวที่ว่ารัฐบาลกำลังถังแตก เนื่องจากเงินคงคลังในเดือนธันวาคม 2559 เหลืออยู่ประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยปกติในเดือนธันวาคมของทุกปี เงินคงคลังจะอยู่ที่เฉลี่ย 2 แสนล้านบาท ว่าถ้าเทียบเงินคงคลังกับเงินของบริษัททั่วไป ก็คือเงินสดคงเหลือในบัญชี หรือ Cash on hand ซึ่งในการบริหารเงินทั่วไปจะพยายามเก็บให้น้อยที่สุด เพื่อไม่ให้เสียดอกเบี้ยมาก เพราะไทยยังจำเป็นต้องกู้เงินมาใช้ ในส่วนของรัฐบาล กรมบัญชีกลาง และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เห็นว่าเงินคงคลังช่วงที่ผ่านมา ที่สูงถึง 3-5 แสนล้านบาท ทำให้เกิดภาระดอกเบี้ยปีละหลายพันล้านบาท แต่เงินคงคลังในระดับที่เหมาะสม อยู่ที่ระดับ 5 หมื่น ถึง 1 แสนล้านบาทเท่านั้น

นายอภิศักดิ์กล่าวว่า ช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2559 รัฐบาลมีนโยบายให้เร่งรัดให้เบิกจ่ายงบประมาณลงทุน ทำให้เงินคงคลังลดลงมาอยู่ที่ 7 หมื่นล้านบาท แต่หากความจำเป็นต้องใช้เงินยังสามารถกู้ได้อีก จากวงเงินขาดดุลงบประมาณ 3.9 แสนล้านบาท รวมถึงวงเงินชั่วคราวเพื่อเสริมสภาพคล่องอีก 8 หมื่นล้านบาท สะท้อนว่ากระแสเงินสดของประเทศยังมีอีกมาก ไม่ได้หมายความว่าเงินคงคลังใช้แล้วจะหมดไป แต่เป็นเรื่องการบริหารจัดการ ไม่ให้ประเทศต้องเสียดอกเบี้ยสูง

นายอภิศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมบัญชีกลางระบุว่ากฎหมายการกู้เงินในปัจจุบันมีปัญหา เนื่องจากกำหนดให้กู้เงินเป็นงวดปีงบประมาณ ถ้าไม่กู้เมื่อหมดปีงบประมาณในเดือนกันยายน วงเงินดังกล่าวจะถูกยกเลิกทันที ทั้งที่เงินจำเป็นต้องใช้ แต่อาจใช้ล่าช้ากว่าปีงบประมาณ ทำให้ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังต้องกู้เงินมากองไว้ทุกๆ สิ้นปีงบประมาณ เงินคงคลังช่วงดังกล่าวจึงขยับขึ้นสูง ซึ่งเป็นการบริหารงานที่ไม่มีประสิทธิภาพ อาจต้องแก้ไขกฎหมายของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ให้สามารถกู้เงินได้ตามความต้องการใช้เงิน ไม่ต้องกู้มาเผื่อไว้ หากทำได้จะประหยัดรายจ่ายดอกเบี้ยได้จำนวนมาก

 

ที่มา มติชนออนไลน์