3 กลยุทธ์ ธุรกิจโรงแรม รับมือ นักท่องเที่ยวจีน “เที่ยวล้างแค้น” แบบหนำใจ

3 กลยุทธ์ ธุรกิจโรงแรม รับมือ นักท่องเที่ยวจีน “เที่ยวล้างแค้น” แบบหนำใจ

ผศ.ดร.มณฑกานติ ชุบชูวงศ์ คณบดีคณะการท่องเที่ยวและการโรงแรม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ หรือ DPU กล่าวว่า ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมใน 5 จังหวัดท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ชลบุรี พังงา และสุราษฎร์ธานี กำลังเกิดวิกฤตขาดแคลนแรงงานนับหมื่นคนในการรองรับนักท่องเที่ยว

ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของผู้ประกอบการเองที่จะต้องกอบกู้รายได้ให้กลับมาหลังพ้นยุคโควิด-19 โดยเชื่อกันว่า รอบนี้นักท่องเที่ยวจีนจะ “เที่ยวล้างแค้น” (Revenge Travel) เกิดมหกรรมเที่ยวทั่วไทยครั้งใหญ่ แบบเที่ยวให้หนำใจ

“รอบนี้นักท่องเที่ยวจีนอาจจะขึ้นไปถึง 200% เลยทีเดียว ไฟลต์มาจากหลายมณฑล เพราะก่อนโควิดเราเคยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาสูงถึง 40 ล้านคนต่อปีมาแล้ว ซึ่งอีกไม่นานหลังจากนี้ ยอดนักท่องเที่ยวทุกชาติที่เข้ามาไทยอาจจะแตะไปถึง 70-80 ล้านคนต่อปีก็เป็นไปได้”

จากปัญหาขาดแคลนแรงงานอย่างหนักของกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรม คณบดีท่องเที่ยวฯ DPU ได้แนะนำ 3 แนวทาง รับมือการเที่ยวล้างแค้นของนักท่องเที่ยวจีนให้ผู้ประกอบการนำไปปรับใช้ฟื้นตัวเอง ดังนี้

1. เสริมทัพพนักงานทั้งแบบชั่วคราว รายวัน รายชั่วโมง  

อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมีความผันผวนตามฤดูกาล ความต้องการแรงงานส่วนใหญ่จะมีช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว ซึ่งแต่ละโรงแรมแต่ละภูมิภาคก็มีความแตกต่างกันไป เราสามารถวางแผนได้

ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและบริการของประเทศไทยอาจจะต้องปรับรูปแบบของบุคลากรประจำจาก “รายปี” หรือ “รายเดือน” มาเป็นผสมผสานกองทัพเสริม รูปแบบการจ้างงานกึ่งประจำและพนักงานชั่วคราวแบบรายวันหรือรายชั่วโมงเข้ามาเสริมทัพในเวลาที่จำเป็น

“โดยเฉพาะในช่วงขาดแคลนแรงงานที่นักท่องเที่ยวจะมากันเยอะ เช่น ช่วงสงกรานต์ไทย วันแรงงานของจีน วันชาติจีน เราอาจจะใช้การจ้างพนักงานแบบไม่ประจำ จะเป็นรายวัน หรือรายชั่วโมงแบบที่ต่างประเทศทำ ยืดหยุ่นทั้งวันและเวลา บางครั้งอาจจะจ่ายเรตมากหน่อยแต่ใช้แค่ช่วงพีก

ยิ่งในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา คนโรงแรมลาออกไปเยอะมาก ไปประกอบอาชีพใหม่ ไปขายของออนไลน์ ทำธุรกิจส่วนตัว คนเหล่านี้เขาก็อาจจะกลับมาช่วยได้หากมีการจ้างงานแบบไม่ประจำ หรือมีการจ้างแบบกำหนดผลัดการทำงานได้  

นอกจากนี้ อยากให้ผู้ประกอบการมองถึงเรื่องการทำความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ซึ่งทุกสถาบันการศึกษาตอนนี้อยากทำหลักสูตรร่วมกับผู้ประกอบการ เรียนและทำงานไปด้วยกัน และในรูปแบบสหกิจศึกษา โดยเฉพาะสถานศึกษาที่มีหลักสูตรด้านการโรงแรม การท่องเที่ยว ตัวนักศึกษาเองก็ต้องการอยากมีรายได้ระหว่างเรียน”

และนอกจากแรงงานตรงสายงานในด้านการโรงแรมและบริการ การแก้วิกฤตแรงงานขาดแคลนนี้ยังต้องอาศัยแรงงานด้านต่างๆ ของผู้คนในท้องถิ่นเข้ามาเสริมทัพอีกด้วยถึงจะก้าวผ่านพ้นไปได้ เพราะตำแหน่งส่วนใหญ่ที่ขาดแคลนไม่เพียงแผนกต้อนรับส่วนหน้าเท่านั้น ยังมีตำแหน่งแม่บ้าน คนทำความสะอาดและผู้ช่วยเชฟ ซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญให้การท่องเที่ยวดูดีมีเสน่ห์

“งานพนักงานแม่บ้าน พนักงานทำความสะอาด เป็นงานที่ขาดแคลนลำดับต้นๆ เป็นงานที่ไม่ต้องใช้คุณวุฒิและประสบการณ์สูง ส่วนงานผู้ช่วยเชฟ ผู้ช่วยในครัว เตรียมของ หยิบจับนั่นนี่ในครัว ซึ่งคนไทยส่วนใหญ่มีทักษะการทำอาหารกันอยู่แล้ว เราต้องเสริมแรงงานท้องถิ่นเข้าไปด้วย โดยนำคนกลุ่มนี้มาอบรมระยะสั้นแบบเข้มข้น 1 วัน ก็พร้อมทำงาน

อีกกลุ่มคือนักศึกษา กศน. กลุ่มนี้อาจจะมีเวลาและต้องการหารายได้ แต่ปัญหาคือทั้ง 3 แรงงานกลุ่มนี้เขาไม่รู้ว่ามีงานตำแหน่งแบบนี้ที่ไหน สมัครอย่างไร หรือต้องเข้าไปหาผู้ประกอบการอย่างไร” ผศ.ดร.มณฑกานติ ระบุ

2. เครือข่ายท้องถิ่น “รับทรัพย์ทั้งจังหวัด”

หลังผู้ประกอบการเปลี่ยนแนวคิดให้ยืดหยุ่นขึ้นแล้ว ก็ถึงการจะได้มาของบุคลากรดังกล่าวสามารถทำได้อีกทางโดยการ “จัดงานนัดพบแรงงาน” รวมถึงการสร้างเครือข่ายท้องถิ่นทั้งในส่วนของผู้ประกอบการกับสถานศึกษาหรือกับสมาคมท่องเที่ยวและสมาคมโรงแรมจังหวัดนั้นๆ เพื่อเป็นฐานข้อมูลที่รวบบรวม รายชื่อ เบอร์โทรศัพท์ สามารถประสานงานได้ทันทีที่ขาดแคลน

ตรงนี้ไม่เพียงได้บุคลากรที่มีประสบการณ์แต่ยังได้กระจายรายได้สู่ท้องถิ่นอีกด้วย เพราะยุคนี้ 1 อาชีพเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้อง 2-3 อาชีพสำรองยามฉุกเฉิน

“เราต้องให้ผู้ประกอบการกับแรงงานมาพบกัน คือ ปัจจุบันคนไทยจำนวนมากยังว่างงานและอยากมีอาชีพเสริมอื่นๆ แต่ไม่รู้จะเข้าถึงตรงไหน การจ้างงานอย่างที่บอกกึ่งประจำ เขาก็จะไปเคลียร์ตารางตัวเองกับงานให้เหมาะสมและเข้ามาช่วยเสริมเวลาที่ขาดแคลน

วิธีแก้เรื่องนี้อยากให้สำนักงานแรงงานจังหวัดประสานกับสมาคมท่องเที่ยว และสมาคมโรงแรมในจังหวัด รีบจัดงานนัดพบแรงงานอย่างเร่งด่วนให้บ่อยๆ คือ แบบวอล์กอินมาสัมภาษณ์ได้เลย เตรียมเงื่อนไขการจ้างไว้ให้พร้อม

ค่าแรงวันละกี่บาท สวัสดิการต่างๆ ชุดยูนิฟอร์ม อาหาร รถรับส่ง มีอะไรอย่างไรบ้าง แล้วช่วยกันประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่างๆ โดยเฉพาะสื่อออนไลน์ในท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียงล่วงหน้าอย่างกว้างขวาง”

“พอเราได้แรงงานเราก็ควรจัดทำฐานข้อมูล (Database) ถึงเวลาต้องติดต่อก็ มีชื่อ เบอร์โทรศัพท์ ข้อมูลให้พร้อม สามารถเรียกด่วนมาทำงานได้ทันทีที่ต้องการ ซึ่งในช่วงหน้าหนาวไปถึงสงกรานต์  นี้จะสามารถรับมือนักท่องเที่ยวจีนที่จะมาเที่ยวพร้อมๆ กันจำนวนมากในเมืองไทยได้

ขณะที่พอโลว์ซีซั่น เราก็เริ่มทำความร่วมมือที่เป็นระบบ และยั่งยืนขึ้น เพราะมีเวลาสร้างคน อบรมพนักงานใหม่อย่างเป็นเรื่องเป็นราว”

3. ภาษาจีนยิ่งเยอะ เทคโนโลยียิ่งแยะ ยิ่งดี

“นอกจากเรื่องของคน การอบรม การสร้างเครือข่าย ผู้ประกอบการต้องไปเพิ่มทักษะด้านภาษาจีนในกลุ่มพนักงานโรงแรมให้มากขึ้น เน้นคำศัพท์พื้นฐาน เน้นคำพูดเพื่ออธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องใช้ประจำ หรือนำป้ายดิจิทัล และเทคโนโลยีแปลภาษามาใช้ในองค์กร

เทคโนโลยีจำพวกสื่อดิจิทัลสามารถช่วยให้นักท่องเที่ยวจีนบริการตัวเองได้ เข้าใจสิ่งที่เราเสนอให้ ไม่ต้องใช้คนเยอะ ท้ายที่สุด สิ่งที่อยากจะเสริมคืออยากให้ภาครัฐ ร่วมให้งบสนับสนุนในการจัดอบรมหลักสูตรระยะสั้นกับสถาบันการศึกษาที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ เพราะเรื่องการท่องเที่ยวนำรายได้เข้าประเทศ เป็นหนึ่งในเครื่องยนต์สำคัญทางเศรษฐกิจของไทย”

“ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหาระยะยาวแบบยั่งยืนก็อยากให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษากับนักศึกษา สร้างระบบร่วมสอน ร่วมพัฒนา จบแล้วกลับไปทำงาน เพราะปัญหาขาดแคลนแรงงานไม่มีวันหมด

นับวันโลกเรายิ่งเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เราต้องช่วยกันพัฒนาคนให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ทั้งในด้านภาษาและทักษะการทำงาน จากที่สัมผัสมาโดยตลอดเยาวชนของเรามีความสามารถมาก อยากเรียนด้านการโรงแรมการท่องเที่ยว อยากให้สนับสนุนเยาวชนไทยให้เข้ามาเติมเต็มในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบริการนี้ก่อน” คณบดีท่องเที่ยวฯ DPU กล่าวทิ้งท้าย