สอนมวยไทย ให้ต่างชาติ อาชีพทำเงินดี ลูกศิษย์เชื่อฟัง แถมให้เกียรติ

สอนมวยไทย ให้ต่างชาติ อาชีพทำเงินดี ลูกศิษย์เชื่อฟัง แถมให้เกียรติ

มวยไทย ชาวต่างชาติให้ความสนใจกันมาก ไม่ได้เพิ่งมาสนใจ แต่สนใจมานานแล้ว วัดจากเวลามีนักท่องเที่ยวมาเมืองไทย ก็จะถือโอกาสไปดูการชกมวยไทยที่เวทีราชดำเนินบ้าง ลุมพินีบ้าง ที่พัทยา เกาะสมุย ภูเก็ต และอีกหลายเมืองที่เป็นเมืองท่องเที่ยวจะต้องมีสนามมวย เพื่อให้นักมวยไทยขึ้นชกโชว์ศิลปะมวยไทยให้ฝรั่งชม

ผมมีโอกาสได้พบกับ คุณปัญญา ไกรทัศน์ ปรมาจารย์เรื่องมวยไทยคนหนึ่ง

คุณปัญญาไม่ได้แค่เขียนตำราเกี่ยวกับศิลปะมวยไทยเท่านั้น ในช่วงชีวิตหนึ่งยังได้ไปเป็นครูสอนมวยให้ฝรั่ง ทั้งที่เยอรมนี ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และอีกหลายประเทศ

ที่ผ่านมาคุณปัญญา มีงานหลักเป็นข้าราชการอยู่ที่กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แต่ก็สามารถแบ่งเวลาไปสอนมวยถึงต่างประเทศปีละหลายครั้ง โดยใช้วันหยุดยาวของเทศกาลต่างๆ เช่น ปีใหม่ สงกรานต์ และลาพักร้อน ซึ่งมีสิทธิลาพักร้อนปีละ 10 วัน

ถึงแม้ใช้เวลาไปสอนเพียงครั้งละไม่กี่วัน แต่ก็ได้ค่าแรงคุ้มกับการต้องจ่ายค่าเดินทาง ค่าที่พัก และอื่นๆ

คุณปัญญา ไกรทัศน์ ปรมาจารย์เรื่องมวยไทยคนหนึ่ง

ก่อนจะมาถึงวันนี้ คุณปัญญา เป็นเด็กภูเก็ต เขาเป็นคนตัวเล็ก ถูกคนที่ตัวโตกว่ารังแก จึงหัดมวยไทยจนสามารถเตะก้านคอคู่อริได้ ทั้งๆ ที่มีรูปร่างทั้งสูงทั้งใหญ่กว่าเขามาก

พอเข้ามากรุงเทพฯ ช่วงหนึ่งได้ทำงานที่หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ หน้าข่าวกีฬา เนื่องจากเขามีความสนใจเรื่องมวยไทยมาตั้งแต่ต้น ทั้งไปดูนักมวยชกที่สนามมวยและขณะนักมวยฝีมือดีๆ ฝึกซ้อม แล้วยังขึ้นชกมวยเองบ้างเป็นบางครั้ง

เขาจึงได้รับมอบหมายจาก คุณมานิตย์ ลือประไพ หัวหน้าข่าวกีฬาในสมัยนั้นให้เขียนคอลัมน์เกี่ยวกับมวยไทย เขียนไปเขียนมาก็สามารถรวบรวมพิมพ์เป็นเล่มได้ พิมพ์ครั้งแรกลงทุนพิมพ์เอง ผลที่ออกมาคือ ขายได้

ตำรามวยไทย ฉบับภาษาอังกฤษ

เขาไม่หยุดอยู่แค่นั้น ได้ว่าจ้างให้อาจารย์ท่านหนึ่งช่วยแปลเป็นภาษาอังกฤษให้ การจัดพิมพ์หนังสือมวยไทยเป็นภาษาอังกฤษ ถือว่าพบกับความสำเร็จงดงาม เพราะนอกจากขายได้แล้ว ยังทำให้คนต่างชาติที่สนใจมวยไทยรู้จักกับผู้เขียนด้วย

จากหนังสือเป็นบันไดให้คุณปัญญา ได้ไปโชว์ตัวและชกกับนักมวยคาราเต้ที่เยอรมนี เขาสามารถน็อกได้ถึง 3 คน ได้ค่าตัวถึง 800,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนมากในสมัยเมื่อกว่า 30 ปีที่แล้ว

จากนั้นเขาได้กลายเป็นครูสอนมวยไทย โดยเริ่มต้นที่ฮ่องกงก่อน เพราะเป็นช่วงที่เขาทำงานอยู่ที่กระทรวงพาณิชย์ ประจำฮ่องกง ขณะอยู่ที่ฮ่องกง ก็ได้ไปสอนมวยไทยที่เยอรมนี แคนาดา ฝรั่งเศส บางครั้งไม่ได้สอนอย่างเดียวยังเป็นโปรโมเตอร์จัดชกมวยไทยด้วย จนมีลูกศิษย์ลูกหาจำนวนมาก

ปัจจุบันลูกศิษย์บางคนก็ยังติดต่ออยู่ มาเมืองไทยเมื่อไรก็ต้องมาหาคุณปัญญาซึ่งเป็นเหมือนครูที่ให้วิชามวยไทยแก่เขา

สอนมวยไทย

เมื่อผมถามว่าที่คนฝรั่งมาเรียนมวยไทยนั้น ส่วนใหญ่มีจุดประสงค์อะไร ได้รับคำตอบว่า

“ที่แน่ๆ ต้องการเรียนมวยไทยเพื่อไว้ป้องกันตัว เพราะศิลปะมวยไทยสามารถป้องกันตัวได้อย่างดี และที่ต้องการมาเรียนมวยไทยเพื่อหวังประกอบอาชีพก็มี ลูกศิษย์ประเภทหลังบางคนชกมวยไทยจนมีชื่อเสียงโด่งดังไปหลายประเทศ”

ถึงคุณปัญญา จะเป็นครูมวยไทยออกตระเวนสอนมวยไทยไปหลายประเทศทั่วโลก แต่เป็นเรื่องแปลกที่เขาไม่ยอมเป็นครูมวยไทยให้กับคนไทยในเมืองไทย

“ไปสอนต่างประเทศดีกว่า เพราะฝรั่งเชื่อเราทุกอย่าง ให้เกียรติด้วย และที่สำคัญ ได้ค่าสอนดีด้วย”

ทว่าในส่วนลึกแล้ว เขาคงเบื่อวงการมวยเมืองไทยก็เป็นได้ เพราะเขาได้วิจารณ์เกี่ยวกับมวยไทยให้ฟังว่า มวยไทยสมัยนี้ไม่น่าดู รูปแบบหรือศิลปะมวยไทยหายไปหมดแล้ว นานๆ ถึงจะเห็นนักมวยใช้ศอกกลับหรือจระเข้ฟาดหางสักครั้ง

ต่างชาติ ชื่นชอบ มวยไทย

นักมวยไทยสมัยนี้พอขึ้นเวทีก็แทบไม่ทำอะไรให้ดูได้สนุกเหมือนเมื่อก่อน เพราะมีแต่ปล้ำและตีเข่าอย่างเดียว มวยบางคู่ตีเข่าจนฝ่ายหนึ่งติดเชือก แทนที่กรรมการจะแยก กลับดึงเชือกให้นักมวยออกมาได้ตีเข่ากันต่อ ที่นักมวยต้องเป็นเช่นนี้ก็เพราะการตีเข่าได้คะแนนจะจะ นักมวยอยากชนะก็ต้องตีเข่า ตีมันเข้าไป

นักมวยอยากชนะ…แต่คนดูเบื่อ

 

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566