พรีออร์เดอร์สินค้า กับ ปัญหาที่ ผู้ซื้อ-ขาย ต้องเจอ รู้ทันไว้ ลดเสี่ยงโดนโกง! 

พรีออร์เดอร์สินค้า กับ ปัญหาที่ ผู้ซื้อ-ขาย ต้องเจอ รู้ทันไว้ ลดเสี่ยงโดนโกง! 

หากพูดถึงการ พรีออร์เดอร์สินค้า ในตอนนี้ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค รวมไปถึงพ่อค้าแม่ค้าที่รับพรีออร์เดอร์สินค้าต่างๆ มองเห็นช่องทางการทำกำไร จากสินค้านำเข้าที่ราคาถูกกว่าสินค้า ที่ผลิตในประเทศ

อีกทั้งมิจฉาชีพบางราย ใช้พรีออร์เดอร์เป็นช่องทาง การหลอกลวงในการให้เหยื่อโอนเงิน ซึ่งความเสี่ยงที่มักเกิดขึ้นบ่อยครั้ง จากการสั่งซื้อสินค้าพรีออร์เดอร์ที่ผู้บริโภคจะต้องพึงระมัดระวัง เว็บไซต์ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค รวบรวมไว้ มีดังต่อไปนี้

1. เสี่ยงต่อการถูกโกง การพรีออร์เดอร์สินค้า ไม่ว่าจะจากร้านค้าหรือบุคคลที่รับพรีออร์เดอร์ อาจจะมีมิจฉาชีพ แฝงเข้ามาในรูปแบบการรับพรีออร์เดอร์สินค้าหรือปลอมแปลงเป็นร้านค้า ซึ่งอาจทำให้ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อ ถูกหลอกให้โอนเงินว่าเป็นการพรีออร์เดอร์ เมื่อได้เงินแล้วมิจฉาชีพก็จะหลบหนียากต่อการติดตามเงินคืน

2. เสี่ยงได้รับสินค้าไม่เหมือนที่ระบุไว้ การแต่งภาพการโฆษณาให้ดูออกมาสวยงาม แตกต่างจากสินค้าจริง การระบุรายละเอียดข้อมูลของสินค้าที่ไม่ครบถ้วน จึงต้องสอบถามผู้ขายให้ชัดเจนก่อนว่า สินค้าเป็นแบบที่ต้องการหรือไม่ ก่อนที่จะทำการโอนเงินสั่งซื้อหรือมัดจำสินค้า

3. เสี่ยงได้รับสินค้าช้ากว่าที่กำหนด ปัจจัยการจัดส่งสินค้าผ่านเครื่องบิน รถยนต์ หรือทางเรือ ทำให้เกิด ระยะเวลาได้รับสินค้าต่างกัน ปกติการพรีออร์เดอร์จะใช้เวลารอสินค้าประมาณ 10-20 วัน ขึ้นอยู่กับประเทศและพาหนะในการจัดส่ง ดังนั้น ควรหาข้อมูลก่อนการสั่งซื้อสินค้า

4. เสี่ยงที่สินค้าชำรุดระหว่างการขนส่ง ปัญหานี้ก็เป็นอีกปัญหาที่พบเห็นได้บ่อย ส่วนใหญ่เกิดขึ้น ด้วยเหตุสุดวิสัย เช่น อุบัติเหตุ, น้ำหนักของสินค้าอื่นที่กดทับบนพัสดุ ได้รับแรงกระแทกระหว่างเคลื่อนย้ายขนส่ง

5. เสี่ยงโดนบวกค่าขนส่งที่แพงกว่าปกติ อาจจะเป็นสินค้าที่มีราคาไม่สูงแต่หากรวมค่านำเข้าค่าภาษี และค่าจัดส่งในประเทศแล้วบางครั้งอาจมีราคาสูงกว่าสินค้าที่มีจำหน่ายในประเทศ ควรตกลงเรื่องค่าใช้จ่าย การนำเข้าค่าภาษี ค่าจัดส่งสินค้าก่อนตัดสินใจสั่งซื้อสินค้านั้นๆ

ทั้งนี้ แนะนำผู้บริโภคหากพรีออร์เดอร์สินค้าควรตรวจสอบร้านค้าที่รับพรีออร์เดอร์สินค้าว่ามีความน่าเชื่อถือ มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ ตรวจสอบชื่อบัญชีว่าเป็นบัญชีที่มีประวัติฉ้อโกงหรือไม่ก่อนการโอน โดยหากผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิไม่ว่าจะเป็นการได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามที่โฆษณา การไม่ได้รับสินค้า สินค้าที่ได้รับความเสียหาย ผู้บริโภคควรเก็บหลักฐานที่ร้านค้าโฆษณาไว้ ข้อความการสนทนา หลักฐานการชำระเงิน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินคดีตามกฎหมายกับร้านค้านั้นๆ ต่อไป