น้ำตาตก! วิกฤตมะพร้าวแพง-ผลผลิตต่ำ เจ้าของในบางสะพานประกาศขายสวนทิ้ง

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2560 จากปัญหาวิกฤตมะพร้าวมีราคาแพงผลละ 23-25 บาท และราคามะพร้าวขาวกิโลกรัมละ  41-43 บาท ส่งผลทำให้น้ำกะทิเพื่อการบริโภคมีราคาสูงขึ้นในรอบหลายสิบปี เนื่องจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์มีพื้นที่ปลูกมะพร้าวมากที่สุดและมีคุณภาพดีที่สุดในประเทศมีผลผลิตลดลง จากการระบาดของแมลงดำหนามและหนอนหัวดำอย่างรุนแรงตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดมีเจ้าของสวนมะพร้าวบางรายประกาศขายสวนทิ้ง เนื่องจากผลผลิตถูกขโมยไปขาย โดยปิดป้ายประกาศบริเวณริมถนนเพชรเกษมขาล่องใต้ ใกล้กับสะพานหนองหญ้าปล้อง ในพื้นที่ ต.ชัยเกษม อ.บางสะพาน

นายมงคล จอมพันธ์ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของแมลงศัตรูมะพร้าวมีความรุนแรงมากขึ้น พบพื้นที่ระบาด 62,578 ไร่ เกษตรกรเดือดร้อน 7,385 ราย ทำให้ภาพรวมผลผลิตที่ออกสู่ตลาดลดลงอย่างมาก ที่ผ่านมาได้รายงานสภาพปัญหาไปกรมวิชาการการเกษตรเพื่อเร่งรัดการจัดสรรงบประมาณจัดซื้อสารเคมีกำจัดศัตรูพืชเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร พร้อมกับได้ประสานสำนักงานท้องถิ่นจังหวัดฯ เพื่อหาแนวทางจัดการกับสวนมะพร้าวบางแห่ง เนื่องจากเจ้าของไม่ดูแล ปล่อยให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแมลงศัตรูพืช ซึ่งพบว่าเจ้าของสวนส่วนใหญ่เป็นบุคคลนอกพื้นที่

ด้านนายวนิชย์ ปักกิ่งเมือง นายกสมาคมชาวสวนมะพร้าวแห่งประเทศไทย แกนนำชาวสวนมะพร้าว อ.ทับสะแก กล่าวว่า หลังจากผลผลิตภายในประเทศมีแนวโน้มขาดตลาดและมีราคาแพงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีความจำเป็นต้องสั่งนำเข้ามะพร้าวผลจากประเทศเพื่อนบ้านเดือนละไม่น้อยกว่า 50,000 ผล โดยปฏิบัติตามระเบียบของทางราชการ เพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการผลิตเพื่อส่งออก แม้ว่ามะพร้าวนำเข้าจะมีคุณภาพด้อยกว่าผลผลิตในประเทศ ก็ยังมีความจำเป็นจะต้องนำเข้ามาทดแทนผลผลิตที่ลดลง เนื่องจากการผลิตเพื่อการส่งออกมีการทำสัญญาซื้อ-ขายล่วงหน้าไว้แล้วกับประเทศคู่ค้า