เปิดอันดับ เมืองเด่นของโลก ที่นักท่องเที่ยวน่าปักหมุด เคานต์ดาวน์ปีใหม่ 

เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2565 เว็บไซต์ ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ แปลข่าวจาก เว็บไซต์ ซีเอ็นเอ็น รายงานนำเสนอ การคัดเลือก 10 เมืองเด่นของโลกที่น่าปักหมุดไปนับถอยหลังขึ้นปีใหม่ที่จะประทับใจ ไม่มีวันลืม

1. ซิดนีย์ ออสเตรเลีย

ผ่านเข้าปีใหม่ก่อนใครในโลก การแสดงดอกไม้ไฟสุดยิ่งใหญ่จัดที่อ่าวซิดนีย์โดยมีโอเปร่าเฮ้าส์ และสะพานฮาร์เบอร์เป็นฉากหลัง โดยมีท่าเรือและสวนสาธารณะเหมาะสำหรับครอบครัวชมทิวทัศน์อันสวยงาม
ซิดนีย์เพิ่งเข้าสู่ฤดูร้อน นักท่องเที่ยวเดินเล่นตามชายหาดหลายแห่งแบบชิลๆ ได้ เช่น หาดแมนลีย์ บอนดี และบรอนเต้

2. ไทเป ไต้หวัน

ไฮไลต์วันส่งท้ายปีเก่าอยู่ที่ตึกไทเป 101 ซึ่งมีการแสดงดอกไม้ไฟตระการตา ยากจะลืมเลือน จุดเหมาะสำหรับการชม ได้แก่ ภูเขาเสือเหมาะสำหรับการชมระยะไกล อนุสรณ์สถานซุนยัดเซ็นและย่านช้อปปิ้งซินยี่ที่มีผู้คนคับคั่ง กรุงไทเปจัดการแสดงดนตรีหลายแห่ง ไปจนถึง อีเวนต์ใหญ่ๆ นักท่องเที่ยวยังไปปาร์ตี้ยามค่ำคืนฉลองขึ้นปีใหม่ได้ที่ ผับบาร์โคด ใกล้กับตึกไทเป 101 หรือผับ OMNI แสงสีจัดเต็มและฟลอร์เต้นรำขนาดใหญ่

3. กรุงเทพฯ ไทย

ติดอันดับต้นๆ ของเมืองน่าท่องเที่ยวยามราตรีที่ดีที่สุดในเอเชีย หากชอบสถานที่ที่เต็มไปด้วยผู้คน แสงสี เสียงอึกทึกและความสนุกสนาน จะไม่ผิดหวังแน่นอน ผู้คนมักไปชมการแสดงดอกไม้ไฟที่ห้างสรรพสินค้าไอคอนสยาม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

นักท่องราตรีอาจจะต้องการไปฉลองกันต่อที่บาร์สวยๆ อย่าง สกาย บีช แบงค็อก ซึ่งเป็นบาร์ที่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ หรือ ซิรอคโค ร้านอาหารบนชั้นสูงสุดในโรงแรมหรูบนถนนสีลม หากต้องการความสงบ วันขึ้นปีใหม่ไปวัดโพธิ์ สักการะพระพุทธไสยาสน์เป็นสิริมงคล

4. ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ตึกระฟ้าเบิร์จ คาลิฟา เป็นหนึ่งในสถานที่ที่หลายคนมานับถอยหลัง พร้อมกับชมการแสดงดอกไม้ไฟบนอาคารที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 823 เมตร ไม่ไกลกันนัก เป็นเบิร์จ พลาซา ซึ่งเงียบสงบกว่าและเหมาะสำหรับมาเที่ยวเป็นครอบครัว

ดูไบกำลังสร้างชื่อเสียงด้านอาหาร ผู้ที่ต้องการชิมอาหารเลิศรส ไม่ควรพลาดร้านออร์ฟาลิ บรอส์ ของ 3 น้องจากซีเรีย หรือ บาคู คาเฟ่ สำหรับอาหารอาเซอร์ไบจาน และปิดท้ายด้วยการช้อปปิ้งที่ดูไบ มอลล์ หนึ่งในศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก

5. เคปทาวน์ แอฟริกาใต้

หนึ่งในเมืองที่สวยที่สุดในทวีปแอฟริกาและของโลก การแสดงดอกไม้ไฟที่นี่สวยงามไม่แพ้ที่ใดในโลกเช่นกัน ถ้าอยากสนุก แนะนำไปดูโชว์คาบาเรต์ที่อัลคาซาในธีมชนเผ่าแอซเท็กของอเมริกาใต้ ซึ่งมีการแสดง 10 ชั่วโมง บน 3 เวทีเชิงเขาเทเบิล

แต่ถ้ามองหาร้านรับประทานอาหารมังสวิรัติ ลองไปที่เพียร์ ริมน้ำย่านวิกตอเรีย แอนด์ อัลเบิร์ด ซึ่งเป็นจุดชมดอกไม้ไฟที่ยอดเยี่ยม เที่ยวให้คุ้มค่าด้วยการไปเยี่ยมชมไร่องุ่นที่มีชื่อเสียงของแอฟริกาใต้รอบๆ เคปทาวน์ เช่น ลิว เอสเตทส์

6. โรม อิตาลี

ชาวโรมรู้จักงานเลี้ยงเต้นรำสุดยิ่งใหญ่เป็นอย่างดีมานานกว่า 2,000 ปีแล้ว ชมการแสดงดอกไม้ไฟได้ที่เซอร์คัส แม็กซิมุส เคยเป็นสถานที่แข่งรถลากและย่านบันเทิงในยุคอดีต พร้อมชมการแสดงเวอร์ชวลที่จะประทับใจเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงสมัยโบราณจากยุครุ่งโรจน์ของจักรวรรดิโรมัน วันสิ้นปี มีคอนเสิร์ตดีๆ หลายแห่ง

รวมทั้ง เดอะ ทรี เทอร์เนอร์ และคืนปีใหม่ที่ คาราวิตา โบสถ์คาทอลิกนานาชาติสำหรับคนพูดภาษาอังกฤษ ถ้าไม่ต้องการปาร์ตี้หนักเกินไป ก็หาเพลงฟังให้เพลิดเพลินกับขบวนพาเหรด ที่มีวงโยธวาทิตของสหรัฐฯ และการแสดงอื่นๆ อีกมากมายในวันปีใหม่ และอย่าลืมใส่ชุดชั้นในสีแดงเพราะชาวอิตาลีเชื่อว่าเป็นสีมงคลรับโชคและขับไล่สิ่งอัปมงคล

7. ลอนดอน อังกฤษ

งานส่งท้ายปีเก่าอย่างยิ่งใหญ่ ดอกไม้ไฟชุดใหญ่ มีฉากหลังเป็นลอนดอนอาย ริมฝั่งใต้ของแม่น้ำเทมส์
บัตรชมงานปีนี้หมดเกลี้ยงแล้ว แต่อาจจะชมความงดงามของพลุไฟได้ฟรีจากยอดเขา เช่น เนินเขาพริมโรส เนินรัฐสภาบนแฮมป์สตีดฮีท, สวนสาธารณะกรีนิช และพระราชวังอเล็กซานดรา

คุณยังสามารถลองหาจุดบนสะพาน เช่น สะพานมิลเลนเนียมและสะพานเซาท์วาร์ก จุดชมวิวที่ยอดเยี่ยมอีกจุดหนึ่งคือการล่องเรือในแม่น้ำเทมส์ซึ่งจะเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทาง อีกกิจกรรมหนึ่งที่ชาวอังกฤษนิยมทำในวันต้อนรับปีใหม่ คือ สังสรรค์ในผับเก่าแก่ที่สุดในลอนดอน เช่น โอลด์ เบลล์ ทาเวิร์น ซึ่งเสิร์ฟเครื่องดื่มสำหรับผู้ใหญ่มาตั้งแต่ปี 1670

8. ริโอเดจาเนโร บราซิล

หากต้องการต้อนรับปีใหม่กับผู้คนอีกประมาณ 3 ล้านคนในรีสอร์ตริมชายหาดอันอบอุ่น ให้ไปที่ริโอเดจาเนโร อุ่นเครื่องกันตั้งแต่ก่อนพระอาทิตย์ตกที่หาดโคปากาบานา ตามด้วยการแสดงดนตรีแบบดั้งเดิมและการแสดงดนตรีต่างๆ

ปิดท้ายด้วย ดอกไม้ไฟระยิบระยับ แต่ถ้าต้องการปาร์ตี้แบบคลาสสิคสไตล์ริโอ ให้ไปที่โจบิ บาร์ ซึ่งเปิดบริการมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 1950 หากมองหาวิวดีๆ ไปที่ วิสตา ชินาซา เจดีย์แบบจีนที่เป็นจุดชมวิวที่ยอดเยี่ยม

9. นิวยอร์ก สหรัฐ

ไทม์สแควร์ในย่านแมนฮัตตัน เป็นศูนย์กลางการนับถอยหลังเข้าสู่ปีใหม่ทั่วอเมริกา และชมการถ่ายทอดสดการปล่อยลูกบอลยักษ์จากยอดตึกวันไทม์สแควร์ได้ทางโทรทัศน์ (เริ่มปล่อยลูกบอลตั้งแต่ปี 1907 และทำเป็นประเพณีอย่างต่อเนื่อง ยกเว้น 2 ปีในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง) หากไม่อยากแออัดในไทม์สแควร์กับผู้คนราว 1 ล้านคน ลองไปที่เหล่านี้ดู

แกรนด์ อาร์มี พลาซา กลับมาคึกคักอีกครั้ง หลังโควิดระบาด 2 ปี ด้วยทำเลที่อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะพรอสเปกในย่านบรูกลิน คนจะเยอะหน่อย จึงควรมาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อจองจุดชมวิวที่ดีที่สุด ถ้าอายุเกิน 21 ปี ลองไปเสี่ยงโชคที่ รีสอร์ต เวิลด์ กาสิโน ซึ่งเป็นกาสิโนแห่งเดียวในเขตเมือง ใกล้สนามบินเจเอฟเคซึ่งมีประเพณีจัดปาร์ตี้ NYE สุดเหวี่ยง แต่ถ้าอยู่ในย่านบรองซ์ อาจจะไปฉลองที่บาร์บรองซ์พับลิก อยู่ไม่ไกลจากสวนสาธารณะคอร์ตแลนด์

10. ลาสเวกัส สหรัฐ

เมืองที่สว่างไสวตลอดทั้งปี วันสิ้นปี จะปิดถนนสตริปทั้งสายให้คนเดิน และเมื่อถึงเที่ยงคืน กาสิโนหลายแห่งจะจุดดอกไม้ไฟจากบนหลังคาน่าตื่นตาตื่นใจ นักท่องเที่ยวชมการแสดงได้จากชั้นบนสุดของตึกสตราโทสเฟียร์ วงชูการ์ เรย์ และชูการ์ ฮิลล์

แก๊งจะช่วยเติมรสชาติในวันสิ้นปีที่ฟรีมอนต์ สตรีท ไทม์ และอย่าลืมว่าลาสเวกัส ไม่ได้อากาศร้อนเสมอไป ควรตรวจสอบพยากรณ์อากาศและสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นร่างกายเพราะตอนกลางคืนอากาศจะเย็นลงมาก โดยเฉพาะในฤดูหนาว