คอนเทนต์ออนไลน์ พลิกชีวิต จากหนี้สินล้น ทุกวันนี้มีเงินในบัญชี 52 ล้าน

เมื่อเร็วๆ นื้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี ทีมงานคนรุ่นใหม่พรรคชาติพัฒนากล้า นำโดย คุณวรวุฒิ อุ่นใจ รองหน้าพรรค ได้ยกทีมงานหลายชีวิตไปร่วมบรรยาย สร้างแรงบันดาลใจ ปลุกเป้าหมายสร้างไฟในชีวิต ให้กับเยาวชนภายใต้โครงการ My Life My Goal

โดยในงานนี้ มี คุณจูรี นุ่มแก้ว หรือ “จูรี” ดาวติ๊กต็อกชื่อดัง ในฐานะว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 จ.สงขลา ในนามพรรคชาติพัฒนากล้า ได้เป็นหนึ่งในผู้มาแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต กว่าจะฟันฝ่ามาถึงวันนี้ ให้ฟังว่า ตนเป็นลูกชาวบ้านธรรมดา ที่มีฐานะยากจน ทำงานหนักมากตั้งแต่เด็ก ทำงานมาทุกอย่าง ตั้งแต่ จับกังแบกข้าวสาร ทำงานในร้านสะดวกซื้อ รับจ้างทั่วไป แต่ก็มีความฝันที่อยากเป็นนักการเมือง จึงไปเรียนกฎหมาย จนสามารถเรียนจบได้ภายในเวลา 2 ปีครึ่ง

จากนั้นก็เข้ารับราชการ เป็นผู้ประกาศข่าว มีเงินทองพอเลี้ยงครอบครัว แต่แล้ววันหนึ่งเกิดภาวะวิกฤตโควิด ถูกเลิกจ้าง เงินหมด มีแต่หนี้สินเต็มตัว จึงตัดสินใจจะไปขับรถรับจ้าง ในขณะที่มีครอบครัวมีลูกถึง 3 คน ภรรยาอีก 1 คน รายได้ไม่พอเลี้ยงตัวและครอบครัว เกิดความเครียดอย่างมาก จึงลองไปเรียนรู้การทำออนไลน์ แต่ในระยะแรกก็ไม่ประสบความสำเร็จอะไร

ทำคอนเทนต์ออนไลน์อยู่พักใหญ่ กระทั่งเริ่มมาเป็นที่รู้จัก จากการทำคลิปวิเคราะห์ข่าวชาวบ้าน จากนั้นก็ได้เรียนรู้และทำคอนเทนต์ขยายผลไปทุกแพลตฟอร์ม มีคนติดตามนับล้านคน จนได้เงินแสนต่อเดือน ต่อมาเริ่มขายของออนไลน์ มีสินค้ามาให้รีวิวกว่า 600 แบรนด์

“ก่อนทำคลิปคอนเทนต์ ต้องหาบุคลิกเราให้เจอก่อนว่าเราต้องการอะไร เพราะไม่ใช่ว่ามันจะเหมาะกันทุกคน เมื่อพบแล้วก็พัฒนา และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ ที่ผ่านมาฉันทำคลิปต่อเนื่องทุกวันตามเงื่อนไขของเพจให้คนติดตามครบ 10,000 คน จนมีเงินตั้งแต่เงินหมื่น เงินแสน จนถึงเงินล้าน ปัจจุบันมีคนติตามล้านกว่าคนแล้ว”

“ขายของออนไลน์ เหมือนมีตลาดใหญ่ที่มีคนมาเดินตลาดล้านกว่าคน คิดดูว่าถ้าต้องเปิดร้านที่ให้คนมาเดินนับล้าน ต้องใช้ที่ดินกี่ร้อยไร่ ต้องลงทุนเท่าไหร่ แต่ตลาดออนไลน์เราไม่ต้องลงทุนอะไร นอกจากมีสินค้า มีคอนเทนต์ และมีสไตล์เป็นของตัวเอง ก็สามารถสร้างรายได้ให้เราจริงๆ วันนี้ฉันสามารถเกษียณจากงานประจำและดูแลครอบครัวได้ ฉันทำงานออนไลน์มาตั้งแต่ธันวาปีที่แล้ว จนวันนี้ฉันมีเงินในบัญชี 52 ล้านบาท ฉันประสบความสำเร็จได้ เธอก็ต้องทำได้” คุณจูรี กล่าว

และว่า ที่ตัดสินใจลงเล่นการเมือง เพราะเห็นว่าสงขลาปัจจุบัน กับ 30 ปีที่แล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ การเมือง ก็ยังเป็นแบบเดิม ที่สืบทอดอำนาจจากนามสกุลเดิมๆ จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องเปลี่ยนแปลงให้คนสงขลา เป็นคนร่ำรวย เหมือนตนที่ทำได้แล้ว

หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ 19 ธ.ค. 2022