เห็นขายดี แห่ทำตาม Me too Product ใครทุนหมดก่อน พ่ายแพ้ไป

เห็นขายดี แห่ทำตาม Me too Product ใครทุนหมดก่อน พ่ายแพ้ไป

คุณวรวุฒิ อุ่นใจ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ในฐานะ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอบริษัทออฟฟิศเมท ให้ข้อคิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจแบบ Me too Product ว่า ธุรกิจ Me too Product คือ ธุรกิจที่เห็นใครขายดี เห็นอะไรเป็นเทรนด์ก็แห่กันไปทำ ซึ่งสุดท้ายต้องไปแข่งขันกันที่ราคากันไปเรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุด จนตลาดอิ่มตัว คนขายมากกว่าคนซื้อ ใครทุนหมดก่อนก็พ่ายแพ้ไป ซึ่งในไทยพบธุรกิจในลักษณะนี้ค่อนข้างมาก

ในขณะที่หลายประเทศ มักจะหลีกเลี่ยงการทำธุรกิจลักษณะนี้ เพราะมันจะนำไปสู่สงครามราคา ที่จะต้องทำกำไร และยอดขายให้ได้มากๆ ซึ่งในความเป็นจริงเป็นเรื่องที่ยากมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทำไม่ได้เลย บางคนใช้แนวคิดสร้างสรรค์ ปรับเปลี่ยนสินค้าโดยใช้นวัตกรรมเข้ามาช่วย

กลายเป็นสินค้าที่คนอื่นไม่ทำ แน่นอนว่าถ้าใครทำได้ก็จะหนีออกจาก Red Ocean ไปสู่ Blue Ocean จะสังเกตว่าบริษัทใหญ่ มักมีนวัตกรรมออกมาใหม่ๆ เสมอ เพราะเขาต้องการออกจากธุรกิจแนว Me too Product นั่นเอง

คุณวรวุฒิ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีหลายคนที่เข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจคือ เพราะอยากรวย และ อยากมีอิสระ ทั้งที่ความจริงแล้ว การออกมาทำธุรกิจแม้จะไม่มีเจ้านาย แต่สิ่งที่เป็นภาระหนักยิ่งกว่าคือ การดูแลลูกค้า ซึ่งเป็นผู้ทรงอิทธิพลไม่มีวันหยุด ต้องการอะไรเราก็ต้องพร้อมสนับสนุน ขณะเดียวกัน ก็ต้องรับผิดชอบพนักงานในทุกตำแหน่ง ให้เขาอยู่ดีมีสุข ให้โอกาสในการเจริญก้าวหน้า ทั้งเรื่องของรายได้และสวัสดิการ

และอีกหนึ่งแรงกดดันคือ เจ้าหนี้ ที่เจ้าของกิจการกู้หนี้ยืมสิน มาทำธุรกิจ ดอกเบี้ยเดินทุกวันไม่มีวันหยุด ซึ่งอาจจะเป็นได้ทั้งหนี้ในและนอกระบบ ดังนั้น เจ้าของธุรกิจจำเป็นต้องหาความรู้ในทุกด้านเกี่ยวกับการทำงานตลอดเวลา เพราะชีวิตการเป็นเจ้าของกิจการมันไม่ได้สวยหรู

“แต่ถ้าถามว่า ปัญหามากมายขนาดนี้ ทำไมจึงมีคนอยากทำธุรกิจส่วนตัว คำตอบคือ มีโอกาสมั่งคั่งมากกว่าลูกจ้างกินเงินเดือน แต่ทั้งนี้ก็ต้องประสบความสำเร็จในธุรกิจก่อน เพราะบางครั้งการเป็นลูกจ้างที่ประสบความสำเร็จมากๆ ก็มีไม่น้อย บางทีรายได้มากกว่าเจ้าของกิจการในระดับกลางๆ เสียอีก” คุณวรวุฒิ บอกอย่างนั้น

และยังได้ฝากข้อคิดสำหรับการทำธุรกิจที่ดีไว้ 3 ข้อคือ ต้อง ขยัน ใฝ่รู้ และซื่อสัตย์มีคุณธรรม โดย ขยัน คือ ผู้ประกอบการต้องมีมายด์เซต มีเทคนิคกระตุ้นให้ตัวเองขยันอย่างต่อเนื่อง อย่าตั้งเป้าหมายใหญ่เกินไป      จงตั้งเป้าหมายเป็นช่วงๆ ส่วนใฝ่รู้ ต้องอ่านมาก เรียนรู้มาก จากผู้ที่ประสบความสำเร็จ และสุดท้ายคือ ซื่อสัตย์มีคุณธรรม ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของผู้ประกอบการทุกคน