เผยแพร่ |
---|
จับตา! เทรนด์ธุรกิจ ปี 66 โอกาสสำหรับ SMEs ยุคดิจิทัล ธุรกิจไหน ยังไปได้สวย
ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า มีธุรกิจ SMEs เกิดใหม่ขึ้นทุกๆ ปี แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าในแต่ละปีมีธุรกิจซึ่งไม่สามารถไปต่อได้จากปีแรกกว่า 50% ดังนั้น การวางแผนที่ดีและจับเทรนด์ธุรกิจให้ทัน เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจสามารถอยู่รอด และสร้างความได้เปรียบอย่างมาก
ในโอกาสที่ปี 2565 กำลังจะผ่านไป finbiz by ttb ได้จับเทรนด์ที่มาแรงในปี 2566 เพื่อให้ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถวางแผน และเตรียมตัวเพื่อสร้างความได้เปรียบ เพื่อนำไปสู่ความแข็งแกร่งและโอกาสในอนาคต
ธุรกิจที่ยังไปได้สวยต่อเนื่องจากปี 2565
จากปีที่แล้ว แชมป์ธุรกิจตั้งแต่ปี 2564 อย่าง ธุรกิจบริการทางการแพทย์และความงาม และ ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ครองแชมป์ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2565 และก็ยังคงไปได้สวย ส่วนกลุ่มธุรกิจที่มาแรงเมื่อปีที่แล้ว และยังคงน่าสนใจต่อเนื่อง ได้แก่ 1) นวัตกรรมประหยัดพลังงาน 2) E-Commerce & Digital Services 3) Health & Wellness และ 4) อาหาร Organic Vegan โปรตีนทางเลือก
ข้อมูลจากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี (ttb analytics) ระบุว่า ในกลุ่มของ Health & Wellness นับตั้งแต่ปลายปี 2564 เป็นต้นมา จากการที่ภาครัฐผ่อนคลายเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยได้ รวมถึงแรงงานต่างด้าวถูกกฎหมายในระบบประกันสังคมที่อยู่กับโรงพยาบาลเอกชน จำนวนกว่า 9.6 แสนคน ทำให้รายได้ของธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในตลาดชาวต่างชาติฟื้นตัวขึ้น และคาดการณ์ว่าจากปัจจัยต่างๆ จะทำให้ในปี 2566 รายได้ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนโดยภาพรวม จะเติบโตได้ 8-10%
ส่วนกลุ่มของนวัตกรรมประหยัดพลังงานต่างๆ อย่างโซลาร์รูฟท็อป (Solar Rooftop) ที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากเมื่อกลางปีที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศปรับอัตราค่าไฟฟ้าผันแปร (FT) เพิ่มขึ้นอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วยในงวดเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2565
ซึ่งถือเป็นอัตราที่สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2558 ผู้ประกอบการจึงหันมาทำธุรกิจติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์สำหรับภาคครัวเรือนและธุรกิจ SMEs หลังค่าไฟยังมีแนวโน้มพุ่งสูงต่อเนื่อง และระยะเวลาคืนทุนเร็วขึ้น ส่งผลให้ตลาดโซลาร์รูฟท็อปในประเทศเติบโตอย่างก้าวกระโดด เฉลี่ยปีละ 22% หรือแตะระดับ 6.7 หมื่นล้านบาทในปี 2568
เทรนด์มาแรง ปี 2566 ที่ SMEs ควรเกาะติดไว้ โอกาสไม่ไกลเกินเอื้อม
จากเทรนด์ธุรกิจปี 2565 จะพบว่าในปี 2566 ก็ยังคงมีความแรงต่อเนื่อง โดยจะมีมุมในเรื่องของความยั่งยืน การรักษ์โลก และการรวมกันของธุรกิจซึ่งแยกออกจากกันไม่ได้แล้ว เช่น เราไม่สามารถแยกการค้าปลีกออกจาก e-commerce ได้อีกต่อไป ไม่สามารถแยกนวัตกรรมการประหยัดพลังงานออกจากชีวิตประจำวันได้ รวมถึงเรื่องราวของการกลับมาของการใช้ชีวิตอีกครั้งของผู้คน สำหรับเทรนด์ที่จะมาแรงในปี 2566 นี้ ได้แก่
– สุขภาพ ความเป็นอยู่ที่ดี อาหารที่มีประโยชน์ ซึ่งก็คือ กลุ่ม Health & Wellness
– การค้าปลีก รวมถึง e-commerce นี่คือเทรนด์ที่แน่นอนว่า การค้าปลีก และ e-commerce แทบไม่ สามารถแยกออกจากกันได้แล้ว
– นวัตกรรมประหยัดพลังงาน การประหยัดพลังงานยังคงมาแรง เนื่องจากความต้องการใช้พลังงาน และการเปลี่ยนแปลงของราคาทรัพยากร
– Patriarchy หรือที่เรียกกันว่า “ทาสหมา ทาสแมว” ชัดเจนขึ้นต่อเนื่องเรื่อยๆ จากในระยะ 2-3 ปีหลังมานี้ ซึ่งในปี 2566 นี้ จะมีความชัดเจนมากขึ้นอีก
– การดำเนินชีวิตแบบอิสระ หลุดจากการที่ถูกจำกัดอยู่นาน เช่น การท่องเที่ยว และธุรกิจบริการอื่นๆ เป็นเทรนด์พฤติกรรมต่อเนื่องจากการหลุดพ้นจากพันธนาการด้วยความกลัวต่อความไม่รู้ทันโรคอุบัติใหม่
ติดตามข้อมูลธุรกิจดีๆ เพื่อการวางแผนธุรกิจได้อย่างต่อเนื่องที่ www.ttbbank.com/finbiz