สธ. เก็บข้อมูล ผู้ป่วย เกษตรกร ชี้ กัญชา ช่วยชีวิต ช่วยสร้างอาชีพ

สธ. เก็บข้อมูล ผู้ป่วย เกษตรกร ชี้ กัญชา ช่วยชีวิต ช่วยสร้างอาชีพ

เมื่อเร็วๆ นี้ นพ.ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายกัญชาเสรีทางการแพทย์ โดยเป็นการประชุม เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานกัญชาทางการแพทย์ของหน่วยงานภายในกระทรวงสาธารณสุข โดยครั้งนี้ ได้เน้นการติดตามผลกระทบที่สังคมมีความกังวล

โดยกรมการแพทย์ ได้นำเสนอข้อมูลผู้ป่วยที่ได้รับพิษเฉียบพลันจากกัญชา จาก 3 แหล่ง คือ ฐานข้อมูลของกรมการแพทย์ ฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข และศูนย์พิษวิทยารามาธิบดี พบว่า เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนการปลดกัญชาออกจากรายการยาเสพติด จำนวนผู้ป่วยที่เกิดพิษเฉียบพลันจากกัญชา ยังไม่ได้มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

และยังไม่พบผู้ป่วยที่เสียชีวิตจากพิษเฉียบพลัน ผู้ป่วยส่วนใหญ่ (ร้อยละ 81) อาการดีขึ้นหลังมารักษา โดยกลุ่มผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 21-40 ปี ซึ่งทางกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ใช้ข้อมูลตรงนี้มาทำระบบการเฝ้าระวัง

นพ.ประพนธ์ กล่าวว่า นอกเหนือจากการเฝ้าระวังผลกระทบ เรากำลังทบทวนข้อมูลจากต่างประเทศ เพื่อให้เกิดการนำกัญชามาใช้ประโยชน์และทำให้เกิดควบคุมกำกับที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศ อย่างในแคนาดา มีการทบทวนข้อมูลทางวิชาการอย่างเป็นระบบ โดยเมื่อเทียบความสามารถในการเสพติด ผลกระทบต่อสุขภาพและสังคมและการใช้ประโยชน์แล้วกัญชามีประโยชน์กว่ายาเสพติดอีกหลายชนิด

จึงจัดกัญชาเป็น Soft Drug และได้ทำการเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้ให้สาธารณชนเข้าใจ ทั้งด้านบวกและลบ และนำมาเป็นฐานคิดในการบริหารจัดการให้เกิดการนำมาใช้อย่างเหมาะสม แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย  ทางกระทรวงก็คิดเช่นเดียวกับแคนาดา คือ ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์และการควบคุม  เรามีตัวอย่างดีๆ จากการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสุขภาพอีกมาก

“เมื่อเดือนก่อน ผมได้ลงพื้นที่ ไปตรวจเยี่ยมการดำเนินงานกัญชา และได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้ป่วย และ เกษตรกร พบว่า กัญชาช่วยชีวิตเขาได้มาก ทั้งในด้านความเจ็บป่วย และช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ วันนี้ทางโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น จังหวัดสกลนคร ก็มานำเสนอว่า 3 ปีที่นำกัญชามาใช้ประโยชน์มากกว่าโทษ”

“มียาตำรับดีๆ ออกมาให้ประชาชนใช้ เกษตรกรมีรายได้จากการปลูก มีแหล่งสกัดที่เกษตรกรสามารถปลูกแล้วนำไปสกัด แล้วนำสารสกัดมาทำผลิตภัณฑ์ต่อ ดังนั้น ขอให้ประชาชนมั่นใจว่ากระทรวงสาธารณสุข มีระบบดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชน” นพ.ประพนธ์ กล่าว

และว่า วันนี้ในที่ประชุมได้มีข้อสรุป หลังจากได้พิจารณาข้อมูลที่รอบด้านแล้วว่า ต้องเร่งดำเนินการ 4 เรื่อง คือ การสื่อสารสร้างความเข้าใจจากข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน การวิจัยเพื่อสนับสนุนยาและผลิตภัณฑ์กัญชาใช้ การเข้าถึงการใช้ทางการแพทย์ของผู้ป่วย และการควบคุมกำกับที่เหมาะสมตามหลักวิชาการและวิถีชีวิต ซึ่งมั่นใจว่าหากดำเนินการครบ จะทำให้เกิดการนำมาใช้ประโยชน์บนความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง